แม่แจ้งจับลูกชายหลอนยาอาละวาด ถือมีดบุกบ้านหวังแทงพี่ชายหาว่าเป็นชู้กับเมีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เย็นวานนี้ (13 ก.ค.67) ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบได้รับแจ้งเหตุชายหลอนยาคลุ้มคลั่งอาละวาดที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง หมู่ที่ 2 ชุมชนบ้านม่วง ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงนำกำลังสายตรวจ 191 รีบไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้นไม้ครึ่งปูน พบหญิงอายุ 63 ปี ซึ่งเป็นผู้แจ้งตำรวจ เล่าว่า วันที่ 13 ก.ค.67 ที่บ้านมีงานแต่งงานหลานสาว หลังเสร็จพิธีตนและญาติพี่น้องได้ช่วยกันเก็บสิ่งของทำความสะอาด ต่อมาก็ได้ยินเสียงลูกชาย อายุ 46 ปีซึ่งเป็นพ่อเจ้าสาว ดื่มเหล้าจนเมาทะเลาะมีปากเสียงกับเมียที่ห้องเช่าซึ่งอยู่ใกล้กันแต่มีรั้วกั้น ทำให้เมียหนีกลับบ้านที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี

ไม่นานลูกชายตนก็ถือมีดเดินออกมาจากห้องเช่าแล้วปีนรั้วเข้ามาในบ้านจะแทงพี่ชายที่นอนอยู่ในบ้าน หาว่าพี่ชายเป็นชู้กับเมีย ตนเกรงจะเกิดเหตุร้ายจึงแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ ส่วนสาเหตุการคลุ้มคลั่งก็เพราะดื่มเหล้าและเสพยาบ้าด้วย โดยเสพวันละหลายเม็ดจนเกิดอาการหลอน จึงคิดว่าพี่ชายเป็นชู้กับเมียถือมีดขู่ทำร้ายคนในบ้านและหลบซ่อนตัวอยู่บนชั้นสองของบ้าน

ตำรวจจึงนำกำลังพร้อมไม้ง่ามกายสิทธิ์ปิดล้อมบ้าน พร้อมกับเรียกให้ผู้ก่อเหตุวางมีด และยกมือเดินออกมามอบตัว แต่ผู้ก่อเหตุไม่ออกมา ตำรวจจึงขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน ผู้ก่อเหตุได้ถือมีดวิ่งออกมาจากบ้านแล้วข้ามรั้วหนีไปห้องเช่า ตำรวจจึงตามไปจับกุมขณะหลบอยู่ข้างโอ่งด้านหลังห้องเช่า แต่ไม่พบมีดที่ใช้ก่อเหตุ โดยผู้ก่อเหตุปฏิเสธว่าไม่ได้เสพยาบ้า ไม่ได้อาละวาด และไม่ได้พกมีดจะมาแทงใคร ส่วนเรื่องทะเลาะกับเมีย เพราะเห็นเมียขึ้นไปเปิดไฟบนบ้านแม่และไม่มีเงินไปใช้หนี้ที่ยืมมาจ่ายค่างวดรถ

ด้านภรรยาผู้ก่อเหตุซึ่งเดินทางกลับมาบ้าน เล่าว่า ตนอยู่กับผู้ก่อเหตุมาประมาณ 30 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน คนโตเสียชีวิต เหลือลูก 2 คน สามีติดเสพยาบ้า พอกินเหล้าเข้าไปผสมกันก็จะมีอาการหลอนคลุ้มคลั่งอาละวาด เคยนำไปบำบัด แต่ก็กลับมาเสพเหมือนเดิม

ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าเป็นงานแต่งงานลูกสาว พอเสร็จพิธีสามีก็กลับบ้าน บอกให้ตนเอาเงินสินสอด 3,000 บาท ไปใช้หนี้ที่ยืมมาจ่ายค่างวดรถ ตนก็บอกว่าเงินไม่พอใช้จ่าย ทำให้สามีอาละวาดด่าทอตนไม่หยุด ตนจึงหนีกลับบ้านที่ อ.หนองหาน ส่วนเรื่องที่สามีกล่าวหาว่าพี่ชายเป็นชู้กับตน ก็ไม่เป็นความจริง เวลาสามีหลอนคลุ้มคลั่งอาละวาด ก็จะกล่าวหาตนมาตลอด ซึ่งตนขอยืนยัน เรื่องที่สามีกล่าวหาตนกับพี่ชายของเขานั้น ไม่เป็นความจริง

ทั้งนี้ ตำรวจได้นำตัวผู้ก่อเหตุมาตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่งผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า เสพยาบ้าไป 1 เม็ด ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และเป็นภัยสังคม” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป