ชายขับรถหรูชนดะ บาดเจ็บ 9 ราย อ้างวูบหลับใน นอนน้อยวันละ 3-4 ชม. พร้อมรับผิดชอบเยียวยา เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่าพนักงานสอบสวน สน.สายไหม ได้เชิญตัวชายผู้ก่อเหตุขับรถชนจนทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวน 9 ราย บนถนนสุขาภิบาล 5 ราย มาสอบปากคำอีกครั้ง

จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.45 น. ผู้ก่อเหตุได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า ตนมีปัญหาทางสุขภาพเนื่องจากทำงานหนัก นอนน้อยวันละ 3-4 ชั่วโมง โดยเมื่อวานนี้ตนมีประชุมงานเกือบทั้งวันจนเพลียและเหนื่อย เลยแวะเข้าห้องน้ำบ้านแม่ ฝั่งตรงข้ามสุขาภิบาล 5 เนื่องจากมีอาการท้องเสีย ซึ่งตนได้เข้าห้องน้ำหลายรอบ

หลังจากนั้นตนตั้งใจว่าจะขับออกมาจากบ้านแม่เพื่อกลับไปบ้านแฟน ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร ปรากฏว่า ตนเกิดอาการวูบแล้วหลับในระหว่างที่กำลังขับในถนนของหมู่บ้านและไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถควบคุมรถได้อีกเลย จนเกิดเหตุเกิดขึ้น

ที่ตนเลี้ยวซ้ายได้คาดว่าน่าจะเป็นเพราะสัญชาตญาณ แม้กระทั่งตอนที่รถพุ่งชนแผงกั้นป้อมยามหมู่บ้าน และชนรถของชาวบ้าน ตนก็ไม่รู้สึกตัวเลย เบลอๆ ไม่ได้ยินเสียงอะไรใดๆ เลย มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่รถจอดแล้ว และมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาให้การช่วยเหลือ

ยืนยันว่าไม่ได้ดื่มสุรา ไม่ได้เสพยาเสพติด หรือกินยาออกฤทธิ์ทำให้ง่วงก่อนขับรถ โดยเฉพาะสุราที่ตนเลิกมาแล้วหลายปี ทุกอย่างเกิดจากภาวะอ่อนเพลีย เครียด และเหนื่อยสะสมจากการทำงานหนัก

ยอมรับว่าตนไม่ได้คิดว่าจะนอนพักบ้านแม่ก่อน หรือประเมินตัวเองก่อนขับรถออกมา รู้สึกแค่ว่ายังพอขับรถไหว ไม่ได้รู้สึกว่าขับรถไม่ไหว และต้องการรีบกลับเนื่องจากแฟนรอทานข้าวด้วยกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ตนมีอาการลักษณะแบบนี้

ตนพร้อมรับผิดชอบแก่ผู้เสียหาย เพราะตนมีประกันชั้น 1 พร้อมเยียวยาผู้รับบาดเจ็บทุกคน โดยเฉพาะผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ยังคงพักรักษาอาการตัวอยู่ที่ รพ. ตนจะเข้าไปเยี่ยม ขอให้ผู้เสียหายทุกคนสบายใจได้ว่า ตนจะรับผิดชอบชดใช้เยียวยาทุกคนอย่างแน่นอน ตนขอโทษและสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไปแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัว

เมื่อวานนี้ตอนที่เจอผู้เสียหายและผู้บาดเจ็บที่สถานีตำรวจ ตนก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษไปแล้ว ส่วนตนเองก็ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนซ้าย เนื่องจากกระแทกกับพวงมาลัย ซึ่งหลังจากนี้ จะทบทวนตัวเอง และจะดูแลตัวเองเวลาขับรถให้มากกว่านี้

ด้านแฟนสาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนรู้สึกสงสัยว่าทำไมเขาถึงใช้เวลานานผิดปกติในการกลับมาที่บ้าน เพราะบ้านของตนและบ้านของแม่เขาก็อยู่ไม่ไกล จึงได้โทรหา แต่ไม่รับสาย จนได้มาทราบในภายหลังว่าเกิดเหตุขึ้น

ปกติเขามีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันและมีภาวะอ้วน รวมทั้งมีภาระงานที่ต้องรับผิดชอบจนพักผ่อนน้อย โดยเฉพาะการประชุมงานกับต่างประเทศ ซึ่งอยู่คนละช่วงเวลากัน เลยต้องอดหลับอดนอน ที่ผ่านมาตนก็เคยมีการพูดเตือนให้พักผ่อนบ้าง แต่เข้าใจเพราะเขาต้องทำงาน หรือบางทีก็ต้องไปเลี้ยงและดูแลลูกค้าไม่เป็นเวลา

ตอนนี้สภาพจิตใจของครอบครัวย่ำแย่อย่างมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นและไม่ได้ตั้งใจ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ โดยเน้นย้ำกับผู้เสียหายว่า จะรับผิดชอบ ยอมรับผิดในสิ่งที่ทำลงไป

ด้าน พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม ได้เปิดเผยหลังสอบปากคำผู้ก่อเหตุในช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหา ได้แก่ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และเพิ่มข้อหาชนแล้วหนีอีกหนึ่งข้อหาด้วย เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ชนจำนวน 4 จุด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย รวม 9 ราย และทรัพย์สินเป็นรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เสียหายรวม 6 คัน จึงต้องแจ้งข้อกล่าวหาต่างกรรมต่างวาระไป

จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุเบื้องต้น ยอมรับว่าขับรถชนจริง แต่อ้างว่าเป็นเพราะเกิดอาการวูบ เท่าที่สอบถามอ้างว่ามีโรคประจำตัวแค่โรคความดัน จากการตรวจสอบไม่พบประวัติรักษาอาการจิตเวช ทั้งนี้ ตรวจไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งเป็นการตรวจเบื้องต้นที่สถานีตำรวจ โดยจะนำตัวไปตรวจร่างกายหาสารเสพติดซ้ำอีกครั้งที่ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช

หลังจากนี้จะมีการสอบปากคำแม่ของผู้ก่อเหตุด้วย เพื่อสอบถามพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุขณะอยู่ที่บ้าน ส่วนจะมีพฤติการณ์เข้าข่ายพยายามฆ่าหรือไม่ จากเหตุการณ์ที่ปรากฏในกล้องหน้ารถ ต้องสอบปากคำอย่างละเอียด แต่เบื้องต้นแจ้ง 4 ข้อหาก่อน ซึ่งถ้าหากผู้บาดเจ็บเสียชีวิตขึ้นมา จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มอย่างแน่นอน

ที่มา : ch3