ตำรวจ สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุหลานชายหลอนยา ใช้มีดบังตอฟันผู้เป็นตา เสียชีวิตในบ้าน หลังก่อเหตุได้เดินเข้าไปหลบซ่อนในบ้านตัวเอง ที่อยู่ด้านหลังบ้านที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนไม้ พบศพ ชาย อายุ 84 ปี เจ้าของบ้าน นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นในห้องโถงหน้าทีวี บริเวณคอ ศีรษะ และใบหน้า ถูกฟันด้วยของมีคม เป็นแผลฉกรรจ์มากกว่า 10 แห่ง เสียชีวิตคาที่ มีญาติพี่น้องนั่งร้องไห้ แช่งด่าหลานทรพี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ อายุ 37 ปี
โดยชาวบ้านและญาติพี่น้อง ได้ไปล้อมบ้านไม่ให้ผู้ก่อเหตุหลบหนี ตำรวจใช้ไม้ง่ามเข้าไปจับกุมตัว ซึ่งหลานยอมให้จับกุมแต่โดยดี พร้อมของกลางมีดปังตอ วางอยู่บนที่นอน ตรวจค้นในบ้านพบปืนแก็ปสั้น ไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก วางอยู่ในตู้เสื้อผ้า ก่อนนำตัวไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กุมภวาปี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ยายผู้ก่อเหตุ ละภรรยาของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ก่อเหตุ เป็นลูกของลูกสาวคนที่ 3 และมีบ้านอยู่ใกล้กัน ก่อนเกิดเหตุ หลานชายได้เดินไปเดินมา และเดินมาขอยาเส้นไปสูบ ทำให้หมาเห่า จนทำให้ผู้ตายนอนหลับไม่ได้ ผู้ตายเลยต่อว่า เดินทำไมทั้งวันทั้งคืน หลานก็บอกว่าเดินเฉยๆ
กระทั่งเวลา 04.30 น. ตนได้ตื่นขึ้นมานึ่งข้าวและทำอาหารเช้าอยู่ในครัว ผู้ก่อเหตุได้เดินมาหาผู้ตาย เพื่อมาขอยาเส้นในตะกร้าหมากของตนอีก และได้ยินเสียงผู้ตายร้องด้วยความเจ็บปวด และเสียงมีฟันฉับๆหลายครั้ง และเห็นหลานเดินถือมีดปังตอเปื้อนเลือดกลับไปบ้าน ที่อยู่ด้านหลังบ้านของตน
ตนถามหลานว่าทำอะไรตา แต่หลานไม่ตอบ เดินกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอตนเดินเข้าไปในบ้านก็พบว่าตาถูกฟัน นอนจมกองเลือดแล้ว ตนคิดว่าที่สาเหตุเป็นแบบนี้ เพราะหลานติดเสพยาบ้ามานานเกือบ 10 ปีแล้ว และเคยถูกจับมาเมื่อ 3-4 ปี ที่ผ่านมา
อยากบอกดวงวิญญาณสามีว่า หมดกรรมหมดเวรแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นกรรมเวรกับหลานตั้งแต่ภพชาติไหน พอมาชาตินี้เลยมาพบเจอกันแบบนี้ ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี หลานชายเคยทำร้ายตามาหลายครั้ง ซึ่งก็ห้ามไว้ตลอด มาครั้งนี้ห้ามไม่ทันเลยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ขณะที่ ผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อ 2 ปีก่อน ตนไปทำงานเป็น รปภ. อยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ค่าจ้างวันละ 650 บาท แต่ตนก็ลาออกจากงานเพราะที่ทำงานกับที่พักอยู่ไกลกัน จากนั้นก็กลับมาอยู่บ้าน ส่วนพ่อแม่ของตนก็ยังทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งตนกลับมาอยู่ที่บ้านก็ได้ไปทำงานที่โรงงานน้ำตาลเป็น รปภ.เหมือนเดิม แต่ตนก็ลาออกจากงานโรงน้ำตาลมาได้ 2-3 เดือนแล้ว ก่อนเกิดเหตุ เมื่อเช้านี้ตนได้ไปเอากับข้าวมากินเหมือนทุกวัน หลังจากกินเสร็จกลับไปเอายาเส้นกับตา ซึ่งตาก็ได้ด่าตน ตาได้ไล่ตนออกมาจากบ้าน ว่าไม่หาการหางานทำ เดินทั้งคืนจนไม่ได้หลับนอน ทำให้ตนโมโหสุดขีด จึงได้ไปเอามีดปังตอที่อยู่ในครัวหน้าบ้านของตา เข้ามาฟันแบบไม่ยั้ง จนตายแล้วก็เดินกลับบ้าน
ไม่เคยมีโกรธเคืองกับตามาก่อน ที่ตนทำไปมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ จึงลงมือก่อเหตุฆ่าตา เพราะเพียงถูกด่า ไม่ทำการทำงานมาหาขอกิน จึงโมโหและก่อเหตุ โดยก่อนก่อเหตุตนก็ได้เสพยาไป 1 เม็ดครึ่ง ที่เพื่อนซื้อมาให้ ก็อยากบอกดวงวิญญาณของตาว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าตา และขอโทษที่ทำลงไป เพราะเป็นอารมณ์โมโหชั่ววูบเท่านั้น