ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม นายวุฒิชัย ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม พร้อมด้วยที่ปรึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม นางทองเจือ รักษาการตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด นครปฐม ได้พบกับผู้ปกครองและนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาใหม่ และผู้ปกครอง ซึ่งได้เข้ามาขอความช่วยเหลือและหารือกันในการประสานกับโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครปฐม
เนื่องจากมีนักศึกษาหลายคนไม่มี ปพ.หรือใบรับรองการจบการศึกษาในระดับมัธยมต้นมายื่นในการเข้าเป็นนักศึกษาใหม่ ซึ่งหลายคนประสบปัญหาผู้ปกครองยังไม่ได้ชำระเงินค่าเทอมส่วนที่เหลือ ทำให้เกิดปัญหาขึ้น โดยมีประเด็นกับครูเจ้าหน้าที่การเงินของโรงเรียนดังกล่าว แสดงท่าทีและใช้วาจาไม่เหมาะสมกับนักเรียน ผู้ปกครอง รวมถึงที่ปรึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาที่ได้เข้าไปเจรจาประสานงาน
โดยผู้ปกครองของนักศึกษา ปวช.ปี 1 บอกทั้งน้ำตาว่า ลูกของตนได้เข้ามาเรียนที่วิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐมหลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากวิทยาลัย โดยเมื่อมีการขอเอกสารจากครูที่ปรึกษา พบว่ายังขาดใบ ปพ. ซึ่งเป็นใบสำคัญในการยืนยันจบการศึกษา ซึ่งลูกของตนเองได้มาบอกกับตนเองว่า จะต้องนำเอกสารดังกล่าวมายื่นกับวิทยาลัยแห่งนี้ เพื่อให้มีหลักฐานในการเข้าศึกษาอย่างครบสมบูรณ์แบบ แต่ติดปัญหาที่ยังไม่ได้ชำระค่าเทอมส่วนเก่าให้ครบ ตนจึงได้ไปที่โรงเรียนกับลูก เพื่อขอเอกสารดังกล่าว
แต่ปรากฏว่าได้พบกับครู ซึ่งบอกว่า "วิทยาลัยอาชีวะอีกแล้วหรือ" ซึ่งตนเองก็ตกใจว่าทำไมต้องมีการชักสีหน้าและแสดงวาจารุนแรงกับตนเองและลูก ทั้งที่ตนพยายามจะติดต่อเข้าไปเพื่อที่จะขอผ่อนชำระหรือยืดเวลาในการจ่ายไปเป็นเดือนกรกฎาคมเนื่องจากไม่มีสภาพคล่องทางการเงินและตอนนี้เงินทองก็หายาก จุดประสงค์ของเราคือต้องการที่จะไปผ่อนชำระหรือยืนยันว่าจะมีการจ่ายเงินจริงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมทางโรงเรียนดังกล่าว โดยเฉพาะครูคนนั้นถึงได้มีความไม่สบายใจและแสดงท่าทีไม่เหมาะสมออกมา
จึงได้มาปรึกษากับทางผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวะศึกษานครปฐมและที่ปรึกษาโดยในวันนี้ก็ได้เดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าวพร้อมกับที่ปรึกษาและก็พบว่า ครูคนดังกล่าวมีการแสดงคำพูดและท่าทีแบบเดียวกับที่ทำกับตน แแต่คราวนี้ทำกับที่ปรึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาเช่นกัน เรื่องนี้จึงอยากจะถามว่าคนเป็นครูเหตุใดถึงมีอาการเช่นนี้และจะไม่มีความเอ็นดูกับนักศึกษาที่กำลังจะเรียนต่อได้อย่างไร
ด้านผู้ปกครองของนักศึกษาปี 1 บอกว่า ตนเองเป็นคนทำงานรับจ้างรายวัน ได้เงินวัน 300 กว่าบาท ซึ่งก็ยอมรับว่ามีปัญหาในเรื่องของการจ่ายค่าเทอมที่ยังค้างอยู่ประมาณ 8,000 กว่าบาท และก็ประสบปัญหาว่าได้รับใบเอกสารดังกล่าวมายื่นเช่นกัน เมื่อเข้าไปขอเอกสารก็โดนคำดูถูกว่า "อาชีวะอีกแล้วเหรอ" ตนเอง ม่ทราบจะทำอย่างไร จึงได้กลับมาปรึกษาที่วิทยาลัย ซึ่งทางที่ปรึกษาวิทยาลัยอาชีวะนครปฐมได้เดินทางไปเจรจาได้พูดคุยกันแต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายก็ได้ควักเงินส่วนตัวเพื่อรับใบเอกสารดังกล่าว แต่เมื่อได้รับแล้วท่าทีของครูคนดังกล่าวก็ได้เปลี่ยนไปและมีน้ำเสียงที่ดีขึ้น
นายวุฒิชัย ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวะนครปฐม กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารของนักศึกษาใหม่หลายคน พบว่ามีใบเอกสาร ปพ.ที่จำเป็นจะต้องมายื่นให้กับทางฝ่ายวิชาการในการเก็บเป็นหลักฐานส่งกรมอาชีวะ พบว่ามีนักศึกษาไม่น้อยกว่า 300 คน กำลังจะพ้นสภาพ ไม่ทราบว่าจะต้องใช้ใบ ปพ. มายื่นยืนยัน แสดงเพียงแต่มีการใช้ใบ รบ.5 เทอมมายื่นเอาไว้ จึงได้มีการหารือกับครูที่ปรึกษาว่าเกิดจากเหตุใด ซึ่งพบว่าหลายคนยังไม่ได้ชำระค่าเทอมจากโรงเรียนเก่า จึงไม่ได้ใบดังกล่าวมา และได้เชิญที่ปรึกษาและรักษาการศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมหารือในวันนี้ร่วมกับผู้ปกครอง
ซึ่งถ้อยคำที่ว่า "อาชีวะอีกแล้วหรือ" ไม่น่าจะใช่ปัญหา เพราะวิทยาลัยของเราพยายามผลักดันและส่งเสริมให้เด็กได้เรียนหนังสือ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวจำเป็นต้องมีการหารือกันเพื่อพูดคุยหาทางออก โดยทางวิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม ไม่ได้มีความเข้มในเรื่องเอกสารดังกล่าว แต่จะทำอย่างไรให้เด็กได้รับโอกาสทางการศึกษาและจบออกไปมีอาชีพตามเป้าประสงค์ของวิทยาลัยและกรมอาชีวศึกษา
ขณะที่นางทองเจือ รักษาการตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด นครปฐม ได้ชี้แจงให้ผู้ปกครองและนักศึกษาได้ทราบถึงขั้นตอนการดำเนินการ ซึ่งตอนนี้ได้ทำการประสานงานกับวิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม เพื่อที่จะหารือและเจรจากับผู้อำนวยการของโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งในเรื่องของค่าใช้จ่ายหรือค่าเทอมน่าจะมีทางออกที่ชัดเจนมากกว่านี้ ในการที่จำเป็นจะต้องใช้เงินทั้งหมดในการชำระให้กับทางโรงเรียน จึงจะได้รับใบเอกสารสำคัญ มาส่งให้กับสถาบันการศึกษาแห่งใหม่
สำหรับประเด็นดังกล่าวได้มีผู้ปกครองหลายคนแจ้งสื่อมวลชนให้ประสานงานแก้ไขปัญหาซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหารายได้ในครัวเรือน โดยบางรายขอเลื่อนการชำระเงินไปก่อน บางรายขอใช้วิธีการผ่อนชำระ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการแสดงเจตนาไปยัง โรงเรียนแห่งนี้แล้ว แต่ก็ได้รับคำตอบปฏิเสธเหมือนเช่นการดำเนินการที่ผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวะต้องควักเงินส่วนตัว เพื่อให้ได้เอกสารสำหรับนักศึกษาที่เข้ามาพบกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในวันนี้