วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 กล้องวงจรปิดของร้านทองแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น จับภาพแม่บ้านของร้านขณะขโมยทองคำรูปพรรณ โดยอาศัยช่วงที่เจ้าของร้านไม่อยู่ โดยพฤติการณ์ได้หยิบทองใส่กระเป๋ากางเกงและนำออกไปจากร้านหลายครั้ง หลังจากพบเหตุการณ์นี้ ทางร้านได้ตรวจสอบย้อนหลัง พบว่าแม่บ้านขโมยทองตั้งแต่ปี 2564 รวม 47 ครั้ง น้ำหนักทองคำกว่า 700 บาท มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท
เจ้าของร้านเล่าว่าเริ่มพบความผิดปกติครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 เมื่อตรวจพบว่ามีทองรูปพรรณหล่นจากเสื้อกันเปื้อนของแม่บ้านในบริเวณครัวหลังร้าน เมื่อซักถาม แม่บ้านอ้างว่าทองอาจหล่นจากตู้โชว์มาใส่ผ้ากันเปื้อน จากนั้นทางร้านตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังจนพบหลักฐานชัดเจนว่าเธอขโมยทองมาหลายครั้ง
หลักฐานเพิ่มเติมยังชี้ว่าแม่บ้านได้ใช้ทองที่ขโมยไปซื้อที่ดินและสิ่งของมีค่า รวมถึงมีการโพสต์โชว์สินทรัพย์บนโซเชียลมีเดีย เช่น สร้อยคอทองคำเส้นใหญ่ที่บุตรสาวสวมใส่
ทางคดี เจ้าของร้านได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกแม่บ้านคนดังกล่าวเป็นเวลา 235 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายอีก 18 ล้านบาท แม้ว่าผู้ต้องหาเคยยอมรับสารภาพ แต่เมื่อขึ้นศาลกลับปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยื่นขออุทธรณ์คดี ในระหว่างที่แม่บ้านถูกดำเนินคดี แม่บ้านคนดังกล่าว โดยเธอได้ยื่นฟ้องเจ้าของร้านทองกล่าวหาตัวเองเสียหาย
เจ้าของร้านทองได้เผยว่า ได้ให้โอกาสหลายครั้งในการขอคืนทองที่ขโมยไป แต่สุดท้ายแม่บ้านกลับไม่ยอมคืนทองทั้งหมด โดยส่วนหนึ่งของทองที่ขโมยไปได้มีการนำคืนให้เจ้าของร้านประมาณ 7 ล้านบาท แต่ยังเหลืออีกกว่า 18 ล้านบาท ซึ่งแม่บ้านต้องชดใช้ตามคำพิพากษาของศาล