รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณีกลุ่มผู้เสียหายเกือบ 20 ราย ถูกเต็นท์รถมือสองนำรถหนีไฟแนนซ์มาขาย แต่โอนไม่ได้เพราะเล่มทะเบียนอยู่กับไฟแนนซ์ ก่อนรวมตัวเข้าขอความช่วยเหลือกับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์
คุณจิน ตัวแทนกลุ่มผู่เสียหายกล่าวว่า ตนทำธุรกิจขายรถมือสอง ที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนเกิดเหตุตนเห็นโพสต์เฟซบุ๊กของคนชื่อ "สมลักษณ์" ในมาร์เก็ตเพลสของเฟซบุ๊ก โพสต์ขายรถมือสอง ราคาถูกกว่ารถมือสองที่เต็นท์อื่นประมาณ 2-4หมื่นบาท เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 67 ตนได้ทำสัญญาซื้อขาย รถเก๋งฮอนด้า แจ๊ส ในราคาคันละ 220,000 บาท และรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ ราคาคันละ 200,000 บาท กับศูนย์จำหน่ายรถมือสอง (เต็นท์คู่กรณี) ย่านหนองบอน เขต ประเวศ กทม.
โดยเต็นท์นี้ มีนาย สิริชัย เป็นเจ้าของ ส่วนเจ้าของโพสต์เป็นแม่ของนายสิริชัย โดยเจ้าของเต็นท์รถอ้างว่าเป็นรถที่ได้ประมูลมาจากไฟแนนซ์ มีเงื่อนไขเรื่องระยะเวลาส่งมอบเล่มทะเบียนในภายหลังประมาณ 15-30 วัน
เนื่องจากต้องรอเล่มทะเบียน ถ้าเกินกำหนด30วัน จะได้ค่าเสียเวลา10,000 บาท ต่อมาตนติดต่อกับผู้ขายได้อย่างยากลำบากและได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย
คุณจิน เผยอีกว่า เต้นท์ดังกล่าวดูน่าเชื่อถือมีใบประกอบการตั้งโชว์มีรถโชว์เต็มร้าน มีหน้าร้านมีเซลล์ขาย พอหลังเกิดเหตุติดต่อเซลล์ไม่ได้ สุดท้ายขนของย้ายเต้นท์ห่างออกไปจากเต้นท์แรกไม่มาและยังมีการขายโพสต์เฟซบุ๊กขายรถมือสองตามเดิมโดยไม่สะทกสะท้าน
ทั้งนี้ผู้เสียหายมีทั้งเจ้าของธุรกิจขายรถมือสองซื้อแล้วไปขายต่อรวมทั้งซื้อผู้เสียหายซื้อไปใช้ส่วนตัวรวมที่อยู่ในกลุ่มไลน์ที่ผู้เสียหาย47คน มูลค่าความเสียหาย 15-20 ล้านบาทผู้เสียหายสูญเงินมากสุดเจ้าของรถมือสอง 2ราย ซื้อรถไปขายรายละ 7 คัน รวมมูลค่าความเสียหายรวม 47 ราย ทั้งหมด 15-20 ล้านบาท
ล่าสุดผู้สื่อข่าวโหนกระแสไปตรวจสอบที่เต็นท์รถแห่งนี้ พบว่ามีการเก็บข้าวของออกไปจนเกลี้ยง ไม่เหลือร่องรอยอะไรเลย
ขณะที่คุณปอง ผู้เสียหายอีกคนที่เพิ่งไปพบกับผู้จัดการเต็นท์มา ตอนแรกยังนัดคุยเจรจาตกลงเรื่องคืนเงินกัน ตกลงกันว่าวันที่ 2 ก.ค. 67 จะนัดเจอหน้ากัน แล้วคืนรถ ให้เขาโอนเงินคืนต่อหน้าเลย แต่ล่าสุดตอนนี้พอเป็นข่าวขึ้นมาแล้ว เขาก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย
ขณะที่ทนายแก้ว ชี้ว่า คดีนี้เป็นคดีอาญา เรื่องการฉ้อโกง แต่ถ้าผู้เสียหายไปทำข้อตกลง ไปตกลงกันว่าจะผ่อนชำระ อะไรต่างๆ จากอาญามันจะกลายเป็นคดีแพ่งทันที ความผิดในส่วนอาญา มันจะระงับไป จึงอยากเตือนผู้เสียหายว่า อย่าเพิ่งไปทำข้อตกลงอะไรกับเขา ยกเว้นว่ายื่นหมูยื่นแมว ได้เงินคืนทั้งก้อน อันนี้ก็ว่ากันไป
ในส่วนความผิดของเต็นท์รถนี้ เมื่อพิจารณาแล้วการกระทำผิดมันชัดเจนว่าเป็นการฉ้อโกง เป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ สามารถออกหมายจับได้เลย
การไปอ้างว่าเป็นรถที่ได้มาจากการประมูลจากไฟแนนซ์ เอกสารการประมูลมันรอไม่นาน ยังไงก็ต้องมีเอกสารการประมูลเป็นหลักฐานอยู่แล้ว แต่ถ้าเขาไม่ได้ประมูลมา เอารถติดไฟแนนซ์มาหลอกขาย แบบนี้เป็นการยักยอกทรัพย์ และคนซื้อก็จะมีโทษฐานรับซื้อของโจร
ด้าน พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ โฟนอินเข้ามาแจ้งว่า ได้นำหลักฐานไปยื่นขอหมายจับต่อศาลเป็นที่เรียบร้อย ในคดีฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิด ซึ่งเบื้องต้น หมายจับเป็นชื่อเจ้าของเต็นท์ ส่วนผู้เกี่ยวข้องที่เหลือ พนักงาน เซฃลส์ ต่างๆ เป็นการออกหมายเรียก ถ้าเรียกแล้วไม่มา หรือมาสอบแล้วพบความผิด ก็แจ้งข้อหาตามไป ส่วนเส้นทางการเงินต่างๆ ของทางเต็นท์รถ ก็จะดำเนินการอายัดเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องไปด้วยในวันนี้
คุณจินยังบอกอีกว่า ในกลุ่มผู้เสียหายตอนนี้มีความคิดเห็นที่หลากหลายมากๆ หลายคนบอกว่าเราไม่ควรมาออกสื่อ เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เงินคืน เพราะทางผู้จัดการเต็นท์รถก็พยายามจะกล่อมให้ผู้เสียหายเชื่อว่า ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา ถ้าเขาติดคุก จะไม่มีใครได้เงินคืนเลย ซึ่งถ้าทุกคนยอมความ ให้เขามีโอกาสไปหาเงินมาคืน ทุกคนก็จะได้คืน แต่สำหรับตนมองว่า การให้โอกาสเขาหาเงิน คือการไปหลอกคนอื่นต่อ ไปเอาเงินคนอื่นมาคืนเรา ซึ่งถ้าเราไม่ตัดวงจรตรงนี้ เขาก็จะไปทำแบบนี้กับคนอื่นๆ อีก