ความคืบหน้า กรณีเหตุพ่อค้าร้านน้ำชากาแฟ อ้างเหตุโกรธแค้นสะสมแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง วิ่งปรี่เข้าไปใช้มีดแทงอีกฝ่ายจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่ร้านอาหารตามสั่งบนเกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ คนเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเกาะพีพีอย่างทุลักทุเล แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ล่าสุด ศพของแม่ค้าอาหารตามสั่ง อายุ 41 ปี ผู้เสียชีวิต ถูกนำมาตั้งบำเพ็ญกุศล ที่วัดแก้วโกรวาราม (พระอารามหลวง) ในตัวเมืองกระบี่ โดยมีกำหนดตั้งสวดอภิธรรม 3 วัน
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ ลูกสาว อายุ 20 ของผู้ตาย ระบุว่า แม่ของตนมาทำงานเป็นลูกจ้างร้านอาหารอยู่บนเกาะนานกว่า 10 ปีแล้ว กระทั่งตั้งตัวได้เลยหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านบนเกาะ
เมื่อ 2 ปีก่อน ตนก็เรียนจบชั้น ม.6 จึงมาอยู่กับแม่เพื่อช่วยแม่ทำงาน ก่อนนี้เมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ช่วงที่แม่กำลังจะเปิดร้าน ก็เอาช่างก่อสร้างมาซ่อมแซมปรับปรุงร้านเตรียมจะเปิด ฝ่ายผู้ก่อเหตุก็หาเรื่อง บอกว่าส่งเสียงดังรบกวน จนมีการไปแจ้งความต้องขึ้นโรงพักกัน ซึ่งต่อมาทางตำรวจก็ไกล่เกลี่ยจนเรื่องจบไปแล้ว
จนถึงวันเกิดเหตุ ตนเองไม่ได้อยู่ที่ร้านกับแม่ช่วงเกิดเหตุ จะมีเพียงแฟนของแม่อยู่ด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าคนร้ายน่าจะจ้องจะทำร้ายแม่อยู่ก่อนแล้ว จึงอาศัยช่วงที่แฟนของแม่ออกไปส่งอาหารให้ลูกค้า ที่ร้านจะเหลือแต่แม่กับคนงานชาวเมียนมา จังหวะนั้นคนก่อเหตุก็เข้ามาทำร้ายแม่เลย ทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาโต้เถียงกันก่อนหน้านั้น
นอกจากเรื่องที่เคยขึ้นโรงพักกันมาแล้ว ก็ยังมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เช่น เรื่องรถมาส่งน้ำแข็งให้กับร้านคนก่อเหตุ มักจะมาจอดรถหน้าร้านแม่เป็นประจำ เพระร้านอยู่ติดๆ กัน โดยมาจอดส่งช่วงที่แม่เปิดร้านขายอาหารแล้ว ทำให้ขวางหน้าหน้าร้าน ลูกค้าไม่สะดวก และน้ำจากรถน้ำแข็งก็เลอะพื้นหน้าร้าน แม่ก็ต่อว่าไป แม่เป็นคนพูดเสียงดังแต่ก็ไม่ได้พูดหยาบคาย เรื่องนี้ก็อาจจะเป็นหนึ่งในปัญหา เพราะระหว่างแม่กับฝ่ายคนก่อเหตุ ก็มีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ กันมาตลอด
ตนมีเพียงแค่แม่คนเดียวกับน้องชายอีก 1 คน ที่ยังเรียนอยู่ ก่อนนี้ตั้งใจว่าจะมาช่วยแม่ทำงานเพื่อเก็บเงินสร้างอนาคตกัน จะพาน้องมาอยู่ด้วย ซึ่งชีวิตกำลังไปได้ดี เริ่มมีเงินเก็บไว้สร้างเนื้อสร้างตัวกัน แต่แม่ก็มาโดนทำร้ายจนเสียชีวิตเสียก่อน จึงอยากขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างเด็ดขาด
ด้าน แม่ของผู้ก่อเหตุ เผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นตนเองก็ไม่ทราบข้อเท็จจริง ว่ามูลเหตุมาจากอะไรแน่ชัด แต่เท่าที่ทราบ ลูกชายกับฝ่ายของผู้เสียชีวิต เคยมีปัญหาทะเลาะจนถึงขั้นขึ้นโรงพักกันมาเมื่อช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นก็เคลียร์ปัญหากันจบไปแล้ว ก็ไม่นึกว่าจะมาเกิดเรื่องขึ้นอีก
ตนก็ไม่เคยถามลูกว่าขัดแย้งกันเรื่องอะไร กระทั่งวันเกิดเหตุลูกสาวโทรมาบอกว่าลูกชายไปก่อเหตุแทงเขา ตอนนั้นตนถึงกับช็อก ทำอะไรไม่ถูก เพราะเดิมทีลูกชายเป็นคนที่ตั้งใจทำงาน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นคนก่อเหตุแบบนี้
อย่างไรก็ตาม อยากฝากขอโทษฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตแทนลูกชายด้วย ลูกตนไม่ได้เจตนา ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา หากลูกชายได้มีโอกาสฟังเสียงแม่ ตนอยากจะบอกถึงลูกว่า ให้ลูกใจเย็นกว่านี้ ขอให้คิดไว้เสมอ ว่ายังมีพ่อมีแม่ มีหลานที่บ้าน ไม่อยากให้ลูกชายคิดมาก ในส่วนของคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจทำไป ที่ผ่านมาลูกชายเป็นคนที่ใจเย็น ตนเองก็ไม่ทราบจริงๆ ว่าเพราะอะไรถึงตัดสินใจทำแบบนั้น เพราะไม่รู้ต้นเหตุที่แท้จริง หลังจากนี้จะไปคุยกับลูกชายอีกครั้ง