มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

เจ้าคณะจ.อุดรฯ สั่งพระลิน-พระบัวลัยพ้นพื้นที่ ชี้ประพฤติตนไม่สำรวม มอมเมา ปชช.ด้วยอวิชชา


ภูมิภาค
19 ตุลาคม 25673,112
เจ้าคณะจ.อุดรฯ สั่งพระลิน-พระบัวลัยพ้นพื้นที่ ชี้ประพฤติตนไม่สำรวม มอมเมา ปชช.ด้วยอวิชชา

จากกรณีมีเรื่องดรามาสนั่นโซเซียลที่พระลิน สุจิตโต สั่งทุบถ้ำน้ำตกพญานาคทิ้ง ที่สร้างไปใกล้แล้วเสร็จเกือบ 2 ล้านบาท ขณะเดินธุดงค์จากภาคใต้จรดภาคเหนือกลับมาวัดนั่งสมาธินิมิตเห็นเจ้าที่มาบอกให้ทุบทิ้ง เพราะมีของต่ำในลำตัวพญานาค เมื่อทุบดูพบชุดเสื้อผ้าเก่า ชุดชั้นใน กางเกงในยัดไว้ลำตัวพญานาคแทบทุกจุด ทำให้ชาวโซเชียลตั้งข้อสังเกตว่า พระสร้างคอนเทนต์หรือไม่ จนพระลินออกมาโต้ว่าเป็นเรื่องจริงไม่มีการทำคอนเทนต์


ต่อมา มีหนังสือด่วนเป็นคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต) ลงวันที่ 18 ต.ค.67 เรื่อง ให้ พระลิน สุจิตโต และ พระบัวลัย เอกคคจิตโต ซึ่งเป็นพระน้องชาย พ้นจากเขตการปกครองคณะสงฆ์จังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต) โดยในคำสั่งดังกล่าวมีข้อความว่า


ตามพฤติกรรมที่ปรากฏของ พระลิน สุจิตโต และพระบัวลัย เอกคคจิตโต จาก สปป.ลาว โดยได้พำนักอยู่ที่ วัดป่าดอนบ้านเทือน ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี มีพฤติกรรมมิชอบ ประพฤติตนมิอยู่ในโอวาท และคำสั่งเจ้าคณะผู้ปกครอง ที่สั่งโดยชอบธรรม ดังนี้ 
1. ประพฤติตนไม่สำรวมระวังต่อพระธรรมวินัยและธรรมเนียมปฏิบัติแห่งคณะสงฆ์จังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต) 
2. มีพฤติกรรมมอมเมาประชาชนด้วยอวิชชา โดยการเขียนเลขยันต์ ลงตามเนื้อตามตัวหรือผ้ามือ อันเป็นการสร้างความหลงผิดต่อหลักพระพุทธศาสนา
3.การไม่สำรวมระวังในการสื่อสารผ่านสื่อโซเชียล ก่อให้เกิดความเสียหายต่อคณะสงฆ์จังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต) 
4.ประพฤติตนมิอยู่ในโอวาทของเจ้าคณะผู้ปกครองและละเมิดคำสั่ง ซึ่งการกระทำของ พระลิน สุจิตโต และพระบัวลัย เอกคคจิตโต ตามที่ปรากฏข้างต้นนั้นถือเป็นการประพฤติผิดอย่างร้ายแรง ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อเจ้าคณะผู้ปกครอง และปัจจุบันไม่ได้สังกัดวัดในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต)
 

ดังนั้น อาศัยอำนาจตามกฎมหาเถรสมาคม บที่ 23 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ ข้อ 15 (1) (2) (5) ออกมาตรา 15 ตรี มาตรา 20 และมาตรา 20 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 เพื่อรักษาความเรียบร้อยดีงามแห่งคณะสงฆ์ จึงสั่งให้ พระลิน สุจิตโต และ พระบัวลัย เอกคคจิตโต พ้นจากเขตการปกครองคณะสงฆ์ จังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต) โดยกำหนดเวลาภายใน 7 วัน นับตั้งแต่มีคำสั่งนี้


ล่าสุดทราบว่าช่วงบ่ายวานนี้ (19 ต.ค. 67) พระลิน และ พระบัวลัย ได้เดินทางกลับไปจำพรรษาที่ สปป.ลาว และจะเดินทางกลับมาถวายกองกฐินที่วัดป่าดอนบ้านเทือน พร้อมกับลูกศิษย์ ในวันที่ 27 ต.ค.นี้


ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดป่าดอนบ้านเทือน ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พบว่าลานปฏิบัติธรรมด้านหน้าถ้ำน้ำตกพญานาค ไม่มีพุทธศาสนิกชนมาทำบุญ ปฏิบัติธรรม ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบเหงา ไม่เหมือนตอนที่พระลินและพระบัวลัยอยู่จำพรรษาที่วัด แต่มีลูกศิษย์ 5-6 คน ที่คอยดูแลความเรียบร้อยลานปฏิบัติธรรม จับกลุ่มพูดคุยกันในเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพระลิน และพระบัวลัย ด้วยสีหน้าเศร้าและเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น


ชายอายุ 34 ปีลูกศิษย์คนใกล้ชิด เปิดเผยว่า พระอาจารย์ลิน และพระบัวลัย มีเมตตาสูง เป็นพระอายุน้อย เป็นพระนักคิด นักพัฒนา และชอบช่วยเหลือสังคม หลังจากมีหนังสือคำสั่งทางสำนักพุทธ และพระฝ่ายปกครอง เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่าการที่ท่านปฏิบัติอยู่นั้น ผิดไปจากจารีตประเพณีของพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายธรรมยุต ซึ่งพระทั้ง 2 รูป บวชที่ สปป.ลาว ถือมหานิกาย ซึ่งการบวชก็ไม่สามารถเปลี่ยนนิกายได้ แต่พอท่านมาที่นี่ ก็ถือปฏิบัติสายธรรมยุต ซึ่งอาจจะไม่เข้ากับหลักปฏิบัติของธรรมยุตทั้งหมด จึงมีหนังสือคำสั่งนี้ออกมา เพื่อให้ท่านออกจากวัดสายธรรมยุต แต่ไม่ได้ให้ออกจากประเทศไทย หรือออกจาก จ.อุดรธานี  โดยสามารถไปจำพรรษาที่วัดอื่นได้ แต่ต้องเป็นวัดในสังกัดมหานิกาย


ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดว่าจะไปวัดไหน ท่านขอกลับไปพิจารณาเรื่องราวต่างๆที่ สปป.ลาว เบื้องต้นยังไม่มีกำหนด แต่ในวันที่ 27 ต.ค.นี้ ท่านจะมาในนามลูกศิษย์ที่นำกองกฐินมาถวาย ร่วมกับคณะศิษย์ให้กับทางวัดป่าดอนบ้านเทือน ท่านก็ได้สั่งให้ดูแลวัดทำอย่างไรให้พัฒนาไปได้ ให้คนเข้ามาปฏิบัติธรรม แต่ถ้ามาก็จะไม่ได้เจอกับพระอาจารย์ พระอาจารย์น้อมรับตามคำสั่งของพระผู้ใหญ่ และไม่ขอชี้แจ้งว่าผิดถูกเพราะอะไร  ท่านเป็นพระผู้น้อย เพราะคำสั่งคงมีการกลั่นกรองมาอย่างดีแล้ว ซึ่งพระอาจารย์ก็มีความหดหู่ใจ ท่านบอกว่าจะกลับไปจำพรรษาวัดที่สร้างไว้ที่ สปป.ลาว ก่อน การก่อสร้างในวัดก็ให้ยุติไว้เพียงเท่านี้ก่อน แต่ญาติโยมก็มากราบไว้ได้ตามปกติ


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#พระลิน#สายมู#เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี#ธรรมยุต#โหนกระแส