รายการโหนกระแสวันนี้ ได้พูดคุยกับกลุ่มลูกบ้านคอนโดแห่งหนึ่งย่านโชคชัย รวมกว่า 900 ห้อง ที่รวมตัวกันเรียกร้องความเป็นธรรม หลังไม่สามารถพักอาศัยในคอนโดได้เป็นเวลานานถึง 2 เดือนนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว โดยระบุว่า นิติบุคคลคอนโดไม่ดำเนินการใด ๆ ในการแก้ไขปัญหา ทั้งลิฟต์ 4 ตัวที่ชำรุดใช้การไม่ได้ ลานจอดรถมีรอยแตกร้าว และระบบรักษาความปลอดภัยถูกริดรอน สิทธิของเจ้าของห้องถูกจำกัด ขณะนี้ลูกบ้านเตรียมรวมตัวไปแจ้งความดำเนินคดีกับนิติบุคคลที่ สน.สุทธิสาร
คอนโด อยู่ในแขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ คอนโดดังกล่าวมีทั้งหมด 21 ชั้น รวม 900 ยูนิต อายุอาคารกว่า 33 ปี โดยที่หน้าทางเข้าอาคารมีป้ายประกาศจากสำนักงานเขตซึ่งเข้ามาตรวจสอบหลังเกิดแผ่นดินไหว ระบุว่า อาคารมีความเสี่ยงสูง รอยแตกร้าวของเสาอาคารลึกถึงรากฐาน และจุดรับน้ำหนักบางส่วนมีรอยร้าวถึงโครงสร้างชั้นใน ถูกจัดให้อยู่ในเขตพื้นที่สีเหลือง ห้ามใช้ลานจอดรถทุกชั้น รวมถึงงดใช้ลิฟต์ทั้ง 4 ตัว จนกว่าจะมีการสำรวจความเสียหายโดยวิศวกรอย่างละเอียด เพื่อยืนยันความปลอดภัยหรือกำหนดแนวทางการซ่อมแซม
ลูกบ้านคนหนึ่ง เป็นหญิงวัย 65 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ชั้น 20 เล่าว่า นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว ตนต้องเดินขึ้นลงบันไดถึง 20 ชั้นทุกวัน เพราะลิฟต์เสียทั้งหมด ทั้งที่ตนมีโรคข้อเข่าเสื่อม การขึ้นลงแต่ละครั้งต้องหยุดพักเป็นระยะ ๆ ขณะเดียวกันยังต้องขนของด้วยตัวเอง ทั้งน้ำดื่ม อาหาร และขยะ เนื่องจากระบบทิ้งขยะส่วนกลางก็ใช้งานไม่ได้เช่นกัน
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีการจัดประชุมสามัญลูกบ้านครั้งที่ 2 โดยมีการหยิบยกปัญหาต่าง ๆ ขึ้นหารือ ทั้งเรื่องความเสียหายจากแผ่นดินไหว การซ่อมแซมลิฟต์ และระบบไฟฟ้า แต่เมื่อลูกบ้านพยายามสอบถามข้อมูล กลับไม่ได้รับคำชี้แจงที่ชัดเจน อีกทั้งนิติฯ ยังตั้งกลุ่มไลน์เพื่อสื่อสารกับลูกบ้าน แต่หากมีใครตั้งคำถามหรือวิพากษ์วิจารณ์ กลับถูกลบออกจากกลุ่ม ทำให้ติดตามข้อมูลไม่ได้
ในวันประชุม ผู้จัดการนิติฯ ยังห้ามลูกบ้านถ่ายภาพหรืออัดเสียง พร้อมถือแฟ้มเอกสารที่พิมพ์ข้อความจากไลน์มาโชว์พร้อมขู่ว่า “รอหมายศาลได้เลย สำหรับทุกคนที่ด่า” ซึ่งลูกบ้านมองว่าเป็นการข่มขู่แทนที่จะให้คำตอบอย่างตรงไปตรงมา ขณะที่นิติฯ กลับสามารถถ่ายภาพและบันทึกข้อมูลในที่ประชุมได้ตามปกติ ส่งผลให้ลูกบ้านบางส่วนลุกขึ้นถ่ายภาพเช่นกัน
หลังเหตุวุ่นวายในที่ประชุม ผู้จัดการนิติฯ ได้ประกาศลาออกและเดินออกจากห้องประชุมพร้อมทีมงาน โดยไม่มีการชี้แจงว่าจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร
หญิงวัย 65 ปีกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองอาศัยอยู่ในคอนโดที่ไม่มีลิฟต์ ไม่มีไฟ และไม่รู้ว่าจะกลับมาใช้งานได้เมื่อใด หวังว่าการรวมตัวของลูกบ้านจะนำมาซึ่งความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐหรือผู้มีอำนาจในการตรวจสอบและเข้าช่วยเหลือ เพราะตนไม่มีที่ไป เพียงแค่ต้องการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ลูกบ้านจำนวนมากรวมตัวอยู่ใต้คอนโด หญิงรายหนึ่งเปิดเผยว่า หลังแผ่นดินไหวไม่สามารถใช้ลิฟต์ได้ ต้องเดินขึ้นลงเอง และห้องของเธอก็ไม่สามารถใช้น้ำได้ จนต้องใช้สายยางต่อจากห้องอื่น แม้กระทั่งวันที่ 5 เม.ย. จึงเริ่มใช้งานได้บางส่วน ยกเว้นลิฟต์ที่ยังคงเสียอยู่
ลูกบ้านหลายคนต้องออกไปพักอยู่ภายนอกอาคาร เพราะไม่สามารถเดินขึ้นไปยังห้องที่อยู่ชั้นสูงได้ โดยต้องเตรียมตุนทั้งน้ำและอาหารไว้ล่วงหน้า ทั้งที่ทุกคนยังคงจ่ายค่าส่วนกลางครบถ้วน
นับตั้งแต่เกิดเหตุ ลูกบ้านพยายามสอบถามและผลักดันให้มีการซ่อมแซม แม้แต่ในเรื่องไฟฟ้าที่ใช้การไม่ได้ก็พยายามติดต่อการไฟฟ้านครหลวง เพื่อช่วยให้นิติฯ ประสานเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ แต่สุดท้ายก็ต้องรอให้นิติฯ อนุญาตก่อน เพราะพื้นที่ส่วนกลางอยู่ในความดูแลของนิติฯ
ด้าน นายชณทัต ปัทะมะภูวดล เจ้าของเพจ “ชลทัต ลุยครับ” ได้เข้ามาช่วยประสานหน่วยงานรัฐและเอกชนในการแก้ไขปัญหา โดยระบุว่า เมื่อทราบว่านิติบุคคลเดิมลาออกแล้ว ได้ติดต่อไปเพื่อสอบถามแนวทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับการยินยอมให้ช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ภายหลังการประสานงาน การไฟฟ้านครหลวงได้เดินทางเข้าตรวจสอบ และเริ่มมีห้องบางส่วนสามารถใช้งานไฟฟ้าได้ เพราะก่อนหน้านี้เกือบ 100 ห้องไม่สามารถใช้ไฟได้ เบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเครื่องปั่นไฟสามารถเปิดใช้งานได้หรือไม่ หากสามารถใช้ได้จะมีการเปิดให้ใช้งานเป็นรอบ ๆ แต่หากไม่สามารถใช้ได้ ต้องมีการเช่าเครื่องปั่นไฟและขออนุญาตเพิ่มเติมจากการไฟฟ้า
ในส่วนของปัญหาขยะส่วนกลางที่ล้นและส่งกลิ่นเหม็นทั่วคอนโด นายชณทัตได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้จัดส่งรถมาเก็บขยะโดยด่วน ซึ่งได้รับความร่วมมือและดำเนินการทันที ทำให้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นในบางส่วน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีนิติบุคคลชุดใหม่เข้ามาดำเนินงาน เนื่องจากชุดเดิมลาออกไปแล้ว นายชณทัตจึงเสนอให้ลูกบ้านจัดประชุมเพื่อจัดตั้งนิติฯ ขึ้นใหม่ โดยเสนอว่าจะดำเนินการแก้ไขเบื้องต้นแทนไปก่อน ทั้งในเรื่องการเงินและประสานงาน โดยมีเงื่อนไขว่า หากมีนิติฯ ใหม่แล้ว ค่อยคืนค่าใช้จ่ายให้ในภายหลัง
เขากล่าวทิ้งท้ายว่า จะเข้ามาดูแลช่วยเหลือเบื้องต้นเท่าที่สามารถทำได้ เพราะลูกบ้านหลายรายมีข้อจำกัดทางการเงิน บางคนเป็นผู้สูงอายุ อยู่ชั้นสูง ต้องห้อยตัวลงมาอย่างน่าหวาดเสียว แต่ทุกอย่างต้องระมัดระวังและอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย เพราะหากทำอะไรโดยพลการอาจเข้าข่ายถูกดำเนินคดีได้
สุดท้าย ทาง นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา (สคบ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรับฟังปัญหาจากลูกบ้าน ซึ่งตอนนี้ความเดือดร้อนเร่งด่วนหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องลิฟต์น้ำและไฟ แต่ปัญหาคือยังไม่มีการจัดตั้งนิติคอนโดชุดใหม่ ซึ่งจะต้องเร่งรัดในการหานิติคอนโดชุดใหม่ให้ได้เร็วที่สุด เส้นทางสคบก็จะเข้ามาช่วยเป็นคนกลางในการประสานงานตรงนี้ให้เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับลูกบ้านอย่างเร็วที่สุด โดยทาง สคบ.จะประสาททั้งเรื่องการเรียก นิติบุคคลเข้ามาชี้แจง จะประสานทาง ผอ.เขตจตุจักร ให้ทางเขตส่งคนเข้ามาช่วย และจะช่วยประสานเรื่องการเคลมประกัน ซ่อมแซมอาคารต่อด้วย สคบ.จะรับเป็นคนกลางในการจัดการทั้งหมด
นายชณทัต ปัทะมะภูวดล เจ้าของเพจ ชณทัต ลุยครับ เป็นคนที่เข้ามาช่วยเหลือลูกบ้าน เปิดเผยว่า ตนได้แก้ปัญหาโดยการติดต่อไฟฟ้านครหลวง และการประปานครหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในครั้งนี้ให้ก่อน พร้อมทั้งจัดการเรื่องขยะที่กองท่วมบริเวณส่วนกลาง โดยดำเนินการช่วยเหลือเบื้องต้น ตรงนี้มันมีค่าใช้จ่ายต่างๆเกิดขึ้น ซึ่งตนได้สำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้อยู่อาศัย หลังจากมีการจัดตั้งนิติบุคคลชุดใหม่ขึ้นมาค่อยมาใช้คืน อย่างไรก็ตามการที่ตนเข้ามาดำเนินการต่างๆ ต้องคำนึงถึงข้อกฎหมายด้วยเพื่อป้องกันการถูกดำเนินคดีกลับ เพราะอำนาจการบริหารจัดการจริงๆแล้วต้องเป็นหน้าที่ของนิติบุคคล