สคบ. เผยผลสอบทองร้านแม่ตั๊ก พบ เป็นทองจริง แต่อาจผิดเข้าขายความผิดเรื่องฉลาก ที่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลกับผู้บริโภคให้ครบถ้วน
นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผอ.คุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. แถลงผลการตรวจสอบทองที่เก็บตัวอย่างจากร้านทองร้านทองย่านถนนหทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.ของ น.ส.กรกนก หรือ แม่ตั๊ก และนายกานต์พล หรือ ป๋าเบียร์ ในวันที่ 24 กันยายน 2567
สคบ.มีหน้าที่เป็นพยานในการนำพยานหลักฐานต่างๆให้ตำรวจ ซึ่งสคบ.ได้ส่งตัวอย่างทองทั้งหมด 6 ตัวอย่างไปตรวจสอบที่สถาบันอัญมณี ซึ่งได้ตรวจทั้ง 2 แบบ คือ แบบเอกซเรย์และแบบเผา โดยผลการตรวจสอบพบว่า
1. ทองรูปพรรณประเภทสร้อยคอ (ห่วงใหญ่-ห่วงเล็ก) น้ำหนัก 1.89 กรัม จำนวน 2 ตัวอย่าง ผลจากการเอ็กซเรย์ได้ผลอยู่ที่ 97.55 เปอร์เซ็นต์ ผลจากการหลอมอยู่ที่ 92.78 เปอร์เซ็นต์
2. ทองรูปพรรณประเภทกำไลข้อมือ น้ำหนัก 6 กรัม จำนวน 1 ตัวอย่าง ผลจากการเอ็กซเรย์ได้ผลอยู่ที่ 96.00 เปอร์เซ็นต์ ผลจากการหลอมอยู่ที่ 94.99 เปอร์เซ็นต์
3. ทองรูปพรรณประเภทกำไลข้อมือ (ปี่เซียะ) จำนวน 8 ตัว น้ำหนัก 4.96 กรัม ผลจากการเอ็กซเรย์ได้ผลอยู่ที่ 99.99 เปอร์เซ็นต์ ผลจากการหลอมอยู่ที่ 99.97 เปอร์เซ็นต์
4. ทองรูปพรรณประเภทกำไลข้อมือ (ตราไข่) น้ำหนัก 0.77 กรัม จำนวน 1 ตัวอย่าง ผลจากการเอ็กซเรย์ได้ผลอยู่ที่ 99.99 เปอร์เซ็นต์ ผลจากการหลอมอยู่ที่ 99.97 เปอร์เซ็นต์
5. ทองรูปพรรณประเภท ลูกปัด จำนวนแปดเม็ด น้ำหนัก 1.19 กรัม จำนวน 1 ตัวอย่าง ผลจากการเอ็กซเรย์ได้ผลอยู่ที่ 71.15 เปอร์เซ็นต์ ผลจากการหลอมอยู่ที่ 61.45 เปอร์เซ็นต์
6. ทองรูปพรรณประเภทจี้ (ปี่เซียะ) น้ำหนัก 11.13 กรัม จำนวน 1 ตัวอย่าง ผลจากการเอ็กซเรย์ได้ผลอยู่ที่ 99.99 เปอร์เซ็นต์ จากการหลอมอยู่ที่ 99.95 เปอร์เซ็นต์
โดยจากผลดังกล่าว จะนำมาประกอบเป็นข้อมูลเพื่อประกอบกับความผิดกับหน่วยงานส่วนอื่นๆด้วย
โดยหากดูพฤติการณ์ พบว่าเข้าข่ายความผิดเรื่องฉลาก ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค คือไม่ระบุฉลากสินค้าที่ครบถ้วนต่อผู้บริโภค อย่างไรก็ตามจะมีการเปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจมีโอกาสได้ชี้แจง เพื่อความเป็นธรรม
โดยประเด็นการโฆษณาการขายสินค้า การใช้ถ้อยคำ ในการไลฟ์สดผ่านทางสื่อออนไลน์ จะมีคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณาตรวจสอบต่อไป
ส่วนเรื่องของแถม ที่มีการอ้างว่าเป็นทอง 99.99 % สคบ.อยู่ระหว่างขอตัวอย่างจากผู้บริโภคเพื่อเก็บตัวอย่างมาเป็นหลักฐานในการตรวจสอบ และจะส่งให้สถาบันวิจัยอัญมณีแห่งชาติตรวจสอบอีกครั้ง
ย้ำว่า สคบ.จะดำเนินการตรวจสอบ จากผลตรวจทองที่ได้ เข้าข่ายผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคหรือไม่ ซึ่งตามกฎหมายสคบ.คุ้มครองหลักๆ 3 ประเด็น คือ กรณีฉลากไม่ตรง การตรวจสอบว่ามีการขอทำธุรกิจตลาดแบบตรงที่ต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน ซึ่งรวมถึงช่องทางการขายทางออนไลน์ต่างๆ และประเด่นว่าการไลฟ์สดขายสินค้ามีการใช่ถ้อยคำโฆษณาเกินจริงหรือไม่
โดยความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค เรื่องฉลากไม่ตรงนั้น มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน1 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ผอ.คุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สคบ.ยังระบุ ล่าสุดมี ยอดผู้ร้องเรียน 40 คน เชื่อว่ายอดจะเพิ่มขึ้นอีก โดยสคบ.จะเป็นศูนย์กลางในการรับเรื่องร้องเรียน และประสานกับผู้ประกอบการ เพื่อดำเนินการเยียวยา และย้ำว่ากรณีนี้ ส่วนของการเอาผิดแพ่งและอาญา คนละส่วน หากผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย แม้ไก็ด้รับการเยียวยาแล้ว ก็สามารถมาแจ้งดำเนินการทางอาญาได้
สคบ.และจะขยายผลตรวจสอบไปยังร้านค้าที่มีการไลฟ์สดในลักษณะดังกล่าว เพราะปัจจุบันมีการไลฟ์สดขายของจำนวนมาก สคบ.จะมีทีมในการมอนิเตอร์ตรวจสอบ ผู้ที่ไลฟ์สด หากเข้าข่าย สร้างความเสียหายต่อผู้บริโภค ก็จะมีการดำเนินการในส่วนนี้เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ซ้ำกับอีก