มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

ยิ่งกว่าในหนัง! สองผัวเมียร้องเรียน ถูกญาติแอบอ้างไปทำประกัน 50 กว่ากรมธรรม์ ก่อนวางแผนจัดฉากให้รถชน หวังเอาเงินประกัน


ข่าวด่วน
8 พฤษภาคม 25681,206
ยิ่งกว่าในหนัง! สองผัวเมียร้องเรียน ถูกญาติแอบอ้างไปทำประกัน 50 กว่ากรมธรรม์ ก่อนวางแผนจัดฉากให้รถชน หวังเอาเงินประกัน

รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี เพจ “ต้นอ้อเป็นหนึ่ง” เปิดเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนมาจาก สองสามีภรรยาถูกลูกพี่ลูกน้องสวมชื่อทำประกันชีวิตรวมกว่า 120 ล้านบาท วางแผนจัดฉากฆาตกรรมหวังเอาเงินประกันชีวิต แต่โชคดีที่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ หลังเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ โดยระบุว่า "รอติดตามเคสนี้ยิ่งกว่าซีรีส์

 

ฝั่งภรรยา คือ นางสาวอุ๊  เล่าเหตุการณ์ว่า ตนเองเคยทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ ต่อมาลูกพี่ลูกน้องชื่อ “พิมพ์พันธุ์”  และ “ฐากร” สองคนนี้เป็นพี่น้องกัน สนใจมาลงทุนด้วย โดยเอาเงินมาให้เราปล่อยกู้ ตั้งแต่ปี 2550 ต่อมาในปี 2559 ธุรกิจเริ่มมีปัญหา ไม่สามารถเก็บเงินจากลูกหนี้ได้ ทำให้ทั้งเธอและสามีถูก “พิมพ์พันธุ์”  และ “ฐากร” แจ้งความข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ทั้งที่สามีคือ นายโต้ง  ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจ

 

ภายหลังมีการไกล่เกลี่ยและทำสัญญายอมรับสภาพหนี้ ซึ่งทนายความไม่บอกว่า การไปทำสัญญายอมนั้นมีผลเทียบเท่ากับการรับสารภาพรับโทษทางอาญา จนกระทั่งวันที่ 29 เมษายน 2563 ศาลจังหวัดพิมายพิพากษาจำคุกทั้งสองเป็นเวลา 24 เดือน และถูกส่งตัวเข้าเรือนจำกลางนครราชสีมา โดยพ้นโทษเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564

 

หลังจากนั้นไม่นาน อุ๊ (ภรรยา) ถูกออกหมายจับจาก สภ.บ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยไม่ทราบเรื่องราวมาก่อน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปทำความผิดตั้งแต่เมื่อใด แต่หลังจากต่อสู้คดีพบว่า หมายจับดังกล่าวออกในช่วงที่ทั้งเธอและสามียังอยู่ในเรือนจำ ทางอัยการตรวจสอบพบข้อพิรุธในสำนวน จึงสั่งสอบใหม่และท้ายที่สุดมีคำสั่งไม่ฟ้อง

 

ระหว่างที่ทั้งคู่ต่อสู้กับคดีความของ พิมพ์พันธุ์ และ ฐากร ก็มีอีกบุคคลหนึ่งชื่อ “วัชรี”  ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง อีกคนของอุ๊ และเคยร่วมทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ด้วยกันกับเธอในอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งประสบปัญหาในลักษณะคล้ายกัน แม้จะโกรธเธอแต่ วัชรี กลับทำดีและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือหลังก้าวออกจากคุก โดยเสนอให้ทั้งสองทำธุรกิจรับจำนำรถ และให้ไปหาบ้านที่มีพื้นที่จอดรถเพื่อใช้ประกอบธุรกิจดังกล่าว

 

โต้ง สามี จึงออกตามหาบ้านเช่าตามคำแนะนำ จนพบบ้านหลังหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ จากนั้น วัชรี ได้ส่งคนชื่อ นายบอย และ นางสาวแตง มาเป็นผู้ประสานงานต่อ ในวันที่นัดไปดูบ้าน โต้ง ไปกับ นายบอย ขณะที่ อุ๊ ไม่สามารถไปด้วยได้เพราะต้องให้นมลูกวัยเดือนเศษ

 

ช่วงหัวค่ำวันนั้น มีการแจ้งว่า โต้ง ถูกรถชน โดยเหตุการณ์มีข้อพิรุธหลายจุด จนเชื่อว่าน่าจะเป็นการจัดฉากให้ดูเหมือนอุบัติเหตุ แต่เขารอดตายอย่างปาฏิหาริย์ ต่อมาทั้งคู่จึงคิดจะทำประกันชีวิตไว้ให้ลูก จึงติดต่อบริษัทประกัน AIA เพื่อตรวจสอบ แต่กลับพบว่ามีการทำประกันชีวิตและอุบัติเหตุไว้แล้วหลายฉบับในชื่อของเขา

 

เมื่อแจ้งหมายเลขบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก็พบว่า มีการทำประกันชีวิตไว้จำนวนมาก ซึ่งเธอยืนยันว่าทั้งคู่ไม่เคยทำเอง เพราะในช่วงเวลานั้นยังอยู่ในเรือนจำ จึงเริ่มสงสัยว่า วัชรี เป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ทั้งหมด

 

วันหนึ่ง วัชรี พาไปทำบุญที่วัดและวางกระเป๋าไว้ในรถ ซึ่งมีสมุดบัญชีจำนวนหลายเล่ม ขณะนั้น อุ๊ เหลือบไปเห็นเอกสารจากโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ เป็นใบเสร็จการตรวจสุขภาพของสามี ซึ่งไม่เคยเข้ารับการตรวจที่นั่นมาก่อน ทำให้เริ่มสงสัย แต่ยังไม่กล้าพูดอะไร

 

จนกระทั่งวันหนึ่ง วัชรี ส่งภาพแชตคุยกับแฟนหนุ่มเพื่อระบายเรื่องทะเลาะกัน แต่ลืมลบข้อความตอนหนึ่งที่แฟนหนุ่มพิมพ์ว่า "คงเป็นเวรกรรมที่มึงสั่งฆ่าไอ้โต้ง" ซึ่ง “ไอ้โต้ง” คือชื่อเล่นของ โต้ง นั่นเอง

 

หลังเริ่มเชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้งหมด ทั้งคู่จึงตรวจสอบประกันชีวิตกับหลายบริษัท และพบว่ามีการทำประกันรวมกว่า 50 ฉบับ วงเงินรวมมากกว่า 120 ล้านบาท โดยที่พวกเขาไม่เคยรู้เรื่องและไม่เคยเซ็นเอกสารมาก่อน และที่น่าตกใจคือ ตัวแทนประกันบางบริษัทคือ พิมพ์พันธุ์ และสามี ที่เคยเป็นคู่กรณีทางคดีด้วย ทำให้เชื่อว่าอาจมีการวางแผนล่วงหน้าจัดฉากอุบัติเหตุเพื่อลอบฆ่าทั้งสองคน

 

ด้าน โต้ง  เล่ารายละเอียดเหตุการณ์ว่า วันที่ไปดูบ้านเช่าในศรีสะเกษกับ นายบอย เขาทำหน้าที่ถ่ายรูปบ้านเพื่อส่งให้ วัชรี พิจารณา จากนั้นพากันไปทานข้าวที่ร้านอาหารระเบียงไม้ นายบอย มีพฤติกรรมผิดสังเกต โดยสั่งอาหารและจ่ายเงินทันทีเหมือนเตรียมตัวกลับเร็ว จากนั้นบอกว่าเพื่อนไม่มาแล้ว และต่างคนต่างกลับ

 

ระหว่างทางกลับ โต้ง เห็นรถกระบะสีดำจอดติดเครื่องอยู่ในท่าทีแปลกๆ ต่อมาก็พบว่ารถคันเดียวกันขับตามและพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของเขาอย่างแรงจนหมดสติ และฟื้นอีกทีในโรงพยาบาล รักษาตัวอยู่ 3 วัน

 

หลังออกจากโรงพยาบาล นายบอยก็ขาดการติดต่อไป กระทั่ง 2 สัปดาห์ต่อมา ขณะพักฟื้นอยู่ที่บ้าน มีชายท่าทางลับๆ ล่อๆ เดินวนเวียนแถวบ้านใส่หมวก ใส่แมส ตนจึงแอบตามดูใกล้ๆ พบว่าเป็น นายบอย อย่างแน่นอน แม้จะไม่ทราบเจตนาแน่ชัดว่ามาทำไม

 

จากเหตุการณ์ทั้งหมด ทั้งสองเชื่อว่าถูกวางแผนฆ่าเพื่อหวังเงินประกัน โดยพบว่าในหลายฉบับระบุให้ วัชรี เป็นผู้รับผลประโยชน์ พร้อมเขียนสถานะว่าเป็น “ภรรยา” ซึ่ง โต้ง ยืนยันว่าเขาไม่เคยทำประกันชีวิตหลักล้าน เพราะไม่มีเงินส่งเบี้ย และไม่เคยแต่งงานหรือมีความสัมพันธ์ใดกับ วัชรี

 

ขณะนี้ทั้งสองคนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด พร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ทั้งหมด

 

ด้าน คปภ. ออกมาบอกว่า หากพิจารณาทั้งหมดนี้ ต้องบอกว่ากรมธรรม์ที่ทำไปโดยที่เจ้าตัวไม่รับรู้ เป็นการทำโดยทุจริต จะถือเป็นโมฆะทั้งหมด แปลว่าคนที่แอบอ้างเอาประกัน เขามีเอกสารราชการของผู้เสียหายเยอะมาก มีบัตรประชาชน มีข้อมูลส่วนบุคคล ต้องไปขยายผลถึงตัวแทนประกัน ที่มาทำอะไรแบบนี้ เขาต้องรู้ข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ว่าใครเป็นคนรับผลประโยชน์จากกรมธรรม์ทุกฉบับเหล่านี้

 

ขณะที่ทนายไพศาลบอกว่า กรณีนี้ ให้พูดได้เลยว่า “คุกยกแก๊ง” เพราะเป็นการกระทำอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ องค์กร คปภ. ที่ควบคุมดูแลเรื่องการทำประกัน ต้องไปแก้ระเบียบต่างๆ ในเรื่องการทำกรมธรรม์ เอาประกัน เอาประโยชน์จากการทำประกัน ต้องมีการพิสูจน์ตัวตนให้มันทันสมัยกว่านี้ ขนาดธนาคารยังมีสแกนหน้าเลย คปภ.จะยังใช้ระบบเรียกดูเอกสารราชการอยู่อีกหรือ? โจรมันไปไกลกว่าเรามากแล้ว ฝากถึง บก.ปอศ.ด้วยว่า นี่มันเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หวังเอาเงินประกัน วางแผนฆาตกรรมคน 

 

ต่อมาวัชรี โทรเข้ามาในรายการ และได้พูดคุยกับพี่หนุ่ม กรรชัย โดยชี้แจงในกรณีต่างๆ ยืนยันว่าที่ทำประกันให้สองสามีภรรยา เพราะคู่นี้ทำธุรกิจเสียหายแล้วมีส่วนหนี้สินต่างๆ ที่เขาต้องชดใช้ ยอดเงินในกรมธรรม์ ทำแค่ครอบคลุมยอดหนี้ที่เขาติดตนอยู่เท่านั้น แล้วกรมธรรม์ที่ทำให้อุ๊ คนที่รับประโยชน์ก็คือแม่ของอุ๊เอง 

 

อุ๊บอกว่า ให้แม่ของตนรับไม่แปลก เพราะตามกฎหมายแม่เป็นทายาทที่จะรับประโยชน์จากกรมธรรม์โดยที่ไม่ต้องพิสูจน์อะไรกันเยอะ แต่เขาใช้วิธีบังคับให้แม่ของตนเซ็นรับสภาพหนี้ ถ้าแม่ได้เงินประกันมา แม่ก็ต้องเอาเงินมาจ่ายให้เขาอยู่ดี

 

ส่วนเรื่องที่มีแชตที่สามีบอกว่า ตนไปสั่งฆ่าโต้งนั้น วัชรีบอกว่า เวลาสามีเมาเขาจะเป็นแบบนี้ประจำ แต่ไม่ใช่ความจริง

 

วัชรีบอกอีกว่า สองสามีภรรยาที่มาออกรายการวันนี้ เขาเป็นมิจฉาชีพ ไปเช็กประวัติได้เลย มีอีกหลายคดีที่ตนจะฟ้องศาลเอาผิดเขา ให้รอรับหมายศาล แต่ทางอุ๊บอกว่า คดีต่างๆ ที่วัชรีฟ้องพวกตนมา ศาลไม่รับฟ้องเลย เพราะเหมือนเป็นการฟ้องลอยๆ หลักฐานก็ไม่ครบ แล้วที่สำคัญพอศาลยก เขาก็ไม่ได้อุทธรณ์ซึ่งทางอุ๊และโต้ง จะฟ้องกลับแน่นอน

 


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ประกันภัย#ทำประกัน#วางแผนฆ่า