จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น เป็นเหตุการณ์ผู้หญิงรายหนึ่ง ลงมือทำร้ายลูกสาวของตัวเองที่มานั่งรับประทานอาหารอยู่ภายในร้าน โดยเป็นจังหวะที่หญิงคนดังกล่าวหยิบขวดน้ำแล้วเทราดใส่ศีรษะลูกสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ของทางร้าน ก่อนจะเดินออกจากร้านไป โดยไม่ได้สนใจลูกสาว ทั้งยังตะโกนบอกลูกสาวว่า “มึงจะกลับไหมบ้าน มึงจะกลับไหม” พร้อมทั้งสบถคำหยาบออกมาว่า
พนักงานในร้านได้เข้าไปช่วยเด็กหญิง นำทิชชูเช็ดตามตัวและศีรษะ ก่อนจะจูงแขนพาเดินไปส่งที่รถ ซึ่งแม่ของเด็กหญิงสตาร์ตเครื่องรออยู่ที่หน้าร้าน ก่อนจะขับออกจากร้านไปพร้อมกับลูกสาว
ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า “เหตุเกิดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น เห็นคลิปแล้วเป็นใครก็รับไม่ได้ แล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรก” ก่อนจะคอมเมนต์เป็นแชตข้อมูลเพิ่มเติมถึงพฤติกรรมของหญิงคนดังกล่าว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านที่เกิดเหตุ ได้พบกับเจ้าของร้าน และพนักงานของร้านกำลังติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
นายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี พนักงานของร้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุ ช่วง 2 ทุ่ม ลูกค้าซึ่งเป็นแม่กับลูกในคลิปวงจรปิดได้มารับประทานอาหารที่ร้าน โดยช่วงที่เดินเข้าร้านแม่เดินมานั่งโดยไม่ได้สนใจลูกสาวที่เดินตามหลัง ก่อนจะสั่งอาหารและนั่งถ่ายรูป ลูกสาวซึ่งน่าจะยังไม่หิวก็ลงไปนั่งเล่นก้อนหินอยู่ที่พื้น และมีการโยนหินออกไป ตนเห็นจึงไปบอกพนักงานอีกคนให้ไปเตือน เพราะไม่กล้าไปบอกเอง ซึ่งพนักงานอีกคนก็ได้บอกแม่เด็กว่า “อย่าให้น้องโยนก้อนหินออกไปนะครับ”
หลังจากนั้น ผู้เป็นแม่น่าจะไม่พอใจที่พนักงานของร้านไปเตือน ได้ใช้เท้าถีบลูกสาวตกจากเก้าอี้ และถีบซ้ำหลายครั้ง พร้อมกับปาตะเกียบใส่จนลูกนั่งร้องไห้ แล้วแม่ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ตนจึงได้ไปดูและอุ้มเด็กขึ้นมานั่งเก้าอี้ที่เห็นในคลิป ก่อนที่แม่จะกลับมานั่งกินต่อ
โดยหลังจากกินเสร็จ ลูกค้ารายนี้มาจ่ายเงิน พอจ่ายเงินเสร็จเดินกลับมาที่ลูก หยิบเอาขวดน้ำที่โต๊ะเทราดใส่ลูก แล้วเดินออกจากร้านไป โดยทิ้งเงินไว้ให้ลูก 60 บาท วางไว้ที่โต๊ะ ตนกับพนักงานอีกคนได้เข้าไปดูก็พบว่าตามตัวน้องมีทั้งก้อนหินและเปียกน้ำ น้องบอกว่าหนาว ตนจึงพากันใช้ทิชชูเช็ดให้น้อง แล้วพาไปส่งที่รถแม่ที่จอดรออยู่ พร้อมทั้งนำผ้าห่มในรถมาห่มตัวน้องให้ด้วย ก่อนที่แม่จะขับรถพาลูกออกจากร้านไป
ทุกคนในร้านต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนทำอะไรไม่ถูก เพราะหญิงรายดังกล่าวได้ด่าทอทั้งพนักงานที่ร้าน ทั้งลูกค้าที่มานั่งกิน จนลูกค้าต้องเช็กบิลออกจากร้านไป และพฤติกรรมดังกล่าวนั้นก็เป็นความรุนแรงซึ่งคนเป็นแม่ไม่ควรทำต่อลูก
พร้อมกันนี้ ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ แม่ที่ทำร้ายลูกสาวได้ขับรถเก๋งมาจอดที่หน้าร้าน ลงมาโวยวายว่าใครนำคลิปไปลงในโซเชียล ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพูดคุยและพยายามบอกให้ใจเย็นๆ ก่อนจะสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไร ทำไมจึงได้ทำร้ายลูกสาว
หญิงคนดังกล่าว บอกว่า ตนเองพาลูกมารับประทานอาหารที่ร้าน ซึ่งก็เป็นปกติที่จะพาลูกสาวไปทานอาหารตามร้านต่างๆ ที่ไหนอร่อยก็จะพาไปกิน แต่เมื่อคืนลูกสาวเล่นก้อนหิน ทางร้านก็มาเตือน ตนก็บอกลูกสาว แต่ลูกสาวไม่ฟัง ยังเล่นต่อ ตนจึงต้องลงไม้ลงมือ ซึ่งก็ทำเป็นปกติอยู่แล้ว หากบอกไม่ฟัง พอกลับบ้านตนก็ลงโทษไม่ให้เข้าบ้าน ให้นอนอยู่ในรถ จนมีชาวบ้านจูงแขนเข้ามาหา เพราะปีนออกจากรถแล้วไปเรียกคนข้างบ้านให้พามาส่ง
และที่ตีลูกแบบนี้ ตนตีทุกวันเพราะเป็นการสั่งสอนลูกที่บอกไม่เชื่อฟัง ส่วนตัวยอมรับว่าเป็นพฤติกรรมที่รุนแรง แต่พูดแล้วไม่ฟังจะให้ทำยังไง ก็ต้องลงไม้ลงมือแบบนี้ ถามว่ารักลูกไหม ยืนยันเลยว่ารักลูก ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูก 2 คน อีกคนเป็นลูกชาย ให้ไปอยู่กับญาติ ส่วนลูกสาวก็หาเลี้ยงตามลำพังและเลี้ยงดูอย่างดีในมุมของคุณแม่คนหนึ่งที่จะทำได้
ในวันนี้ที่เดินทางมาที่ร้านเพราะมีคลิปตนเผยแพร่ในโลกออนไลน์ มีแต่คนมาถามว่าทำไมตีลูกแบบนั้น ซึ่งตนก็เลี้ยงดูลูกปกติและลงโทษลูกปกติเพราะบอกไม่ฟัง เรียกมากินข้าวไม่ยอมมา และโยนก้อนหินอยู่แบบนั้น จึงใช้เท้าถีบเลยเพราะพูดไม่ฟัง แล้วหญิงคนดังกล่าวก็ลุกออกจากการให้สัมภาษณ์ เดินขึ้นรถ กลับออกจากร้านไปทันที
พร้อมกันนี้ เจ้าของร้านและพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนและลงบันทึกประจำวันเอาไว้ที่ สภ.หนองสองห้อง ในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ พม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบด้วยเช่นกัน และจะลงพื้นที่ไปพบเพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนต่อไป