ผัวจ่อยิงเมีย ก่อนจบชีวิตตัวเองตายตาม แต่สุดท้ายเมียรอด เพราะกระสุนแค่ถาก

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายกันโดยใช้อาวุธปืนยิงกันที่ ต.ท่าม่วง อ.สตึก จึงประสานหน่วยกู้ภัยวังกรูด อ.สตึก ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น บริเวณชั้นล่างของบ้านพบบ้านหน้าต่างกระจกแตกเสียหาย มีรอยเลือดหยดเป็นทาง ภายในห้องนอนชั้นล่างพบร่องรอยของกระสุนปืน และพบศพชาย อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ มีรอยถูกยิงบริเวณขมับขวาทะลุขมับซ้าย พบอาวุธปืนไม่ทราบขนาด 1 กระบอก หล่นอยู่ข้างกัน

นอกจากนี้ ตำรวจได้รับแจ้งอีกว่ายังมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นหญิง อายุ 53 ปี อาชีพข้าราชการครูและเป็นภรรยาของผู้เสียชีวิต ถูกนำตัวส่ง รพ.สตึก ทราบว่าถูกยิงบริเวณขมับซ้าย แต่กระสุนแค่ถาก พ้นขีดอันตรายแล้ว

สอบถามหญิง อายุ 82 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เมื่อวันก่อนลูกสาวให้ลูกเขยไปเก็บเงินค่าสินค้า จำนวน 5,000 บาท ที่ อ.พยัคภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ห่างจากบ้านประมาณ 30 กม. หลังจากเก็บเงินได้ ลูกเขยโทรแจ้งลูกสาวว่าจะขอดื่มเหล้ากับเพื่อนก่อน แต่ลูกสาวบอกว่า ทำไมไม่กลับบ้าน เหล้าบ้านเราก็มี ปลาบ้านเราก็มี ย่างกินได้ ทำให้เกิดการทะเลาะกันมาตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.

จากนั้น ลูกเขยยังไม่หยุด ไล่ให้ลูกสาวออกจากบ้านไปนอนที่อื่น ลูกสาวจึงมานอนที่บ้านตน ซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน จนกระทั่งเช้าวันนี้ (14 ก.พ.) ลูกเขยเดินเข้ามาหาที่บ้าน ถือปืนมาด้วย จากนั้นได้ลงมือทุบหน้าต่างกระจก แล้วปลดกลอนประตูออก ตนเห็นท่าไม่ดีจึงเดินออกจากบ้านไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วยเจรจา เมื่อผู้ใหญ่บ้านมาถึง ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น

ด้านผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า หลังจากได้รับแจ้งจึงรีบเข้ามาพูดคุย เห็นผู้ก่อเหตุอารมณ์ฉุนเฉียว ถือปืนพร้อมก่อเหตุ จึงบอกไปว่าให้ใจเย็นๆ แต่ผู้ก่อเหตุไม่ได้สนใจ ประมาณ 5 นาที ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จากนั้นเห็นภรรยาของผู้ก่อเหตุปีนหน้าต่างออกมาร้องขอความช่วยเหลือ เพราะถูกยิงที่บริเวณศีรษะ โชคดีที่กระสุนแค่ถาก

จากการสอบถามผู้บาดเจ็บในเวลาต่อมา ทราบว่าตอนที่สามีกำลังเอาปืนจ่อหัวได้ใช้มือปัดออก แล้วได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ผู้บาดเจ็บได้ล้มลง สามีคิดว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว จึงยิงตัวเองตายตาม