จากกรณีที่ ’ไฮไซเก๊’ อ้างตัวเป็นผู้มีตำแหน่งใหญ่โตในแวดวงราชการและการเมือง แอบอ้างว่าใกล้ชิดเบื้องสูง ทั้งยังมีการลวงให้ผู้เสียหายโอนเงิน โดยอ้างจะนำไปซื้อของขวัญให้นายกรัฐมนตรี ก่อนจะมีผู้เสียหายอีกหลายรายให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงพฤติกรรมหลอกลวงต่างๆ ทั้งหลอกว่าจะแต่งงาน ทำทีให้เงินแต่เป็นเงินที่แอบนำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปขาย ปลอมแชต ปลอมภาพ ปลอมเอกสารต่างๆ รวมถึงสมุดบัญชีธนาคารที่ใส่ยอดเงินหลายร้อยล้านบาทนั้น
ล่าสุด มีหญิงรายหนึ่ง ได้แจ้งข้อมูลมายังเพจโหนกระแสว่า ไฮโซเก๊รายนี้มีพฤติกรรมโกหกหลอกลวงมานาน โดยย้อนกลับไปเมื่อปี 2554 ชายคนดังกล่าวยังเป็นเยาวชน อายุประมาณ 18-19 ปี ได้มาเข้าค่ายจิตอาสา ดูเป็นคนที่พูดเก่ง มีความเป็นผู้นำ จึงได้รับการไว้เนื้อเชื่อใจจากหลายๆ คน
ขณะนั้นชายคนดังกล่าวใช้นามสกุลดัง อ้างว่าลุงเป็นผู้ว่าฯ และครอบครัวเป็นเจ้าของโรงเรียนดัง
หลังจบค่าย ตนก็ยังมีการติดต่อพูดคุยกับเด็กๆ เพื่อติดตามว่าเด็กๆ สามารถนำความรู้ไปต่อยอดอย่างไรได้บ้าง จนวันหนึ่ง ชายคนดังกล่าวอ้างกับตนว่า สถานทูตจะมีการรับคนเข้าทำงาน เขาสามารถติดต่อฝากลูกสาวของตนเข้าไปทำงานในนั้นได้
ด้วยความที่ลูกสาวตนทำงานเกี่ยวกับการทำวีซ่าต่างประเทศอยู่แล้ว ตนจึงสนใจ นำเรื่องไปคุยกับลูกสาว แต่ลูกสาวบอกว่าไม่มีหรอก เพราะลูกสาวเองก็ต้องไปติดต่อประสานกับทางสถานทูตอยู่ตลอด
แต่ด้วยโปรไฟล์ การพูดจาของเขา ทำให้ตนหลงเชื่อ ไม่คิดว่าเด็กคนนึงจะกล้าโกหกได้ขนาดนี้ ก็มีการพูดคุยกันต่อ เขาบอกว่ามีค่าดำเนินการ 500 บาท ตนก็โอนไป แต่พอทวงถามเขาก็มักจะอ้างไปเรื่อย จนหลายอาทิตย์ตนจึงคิดว่าโดนหลอกแน่นอน
ตอนแรกที่ตนเห็นข่าวก็รู้สึกคุ้นๆ แต่ยังจำไม่ได้ กระทั่งไปค้นเจอรูปต่างๆ ในเฟซบุ๊กและแมสเซ็นเจอร์ จึงมั่นใจว่าเป็นคนเดียวกัน
ตนอโหสิกรรมให้เขาไปแล้ว ไม่คิดจะเอาเรื่อง เพียงอยากเล่าเป็นอุทาหรณ์ และตอนนี้เขาก็กำลังได้รับผลกรรมอย่างหนักจากการกระทำของเขาเอง