หญิง อายุ 45 ปี แม่เด็กหญิง อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง จังหวัดสงขลา เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังลูกสาวถูกผู้ปกครองของเพื่อนร่วมชั้น ตบหน้าและหักนิ้วชี้มือขวาจนได้รับบาดเจ็บ ในที่เรียนพิเศษ
เด็กหญิง เล่าว่า วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 16.30 น.แม่ไปส่งที่เรียนพิเศษแห่งหนึ่ง จากนั้นก็พบแม่ของเพื่อนร่วมชั้นยืนอยู่หน้าที่เรียนพิเศษ และเมื่อคนเปิดประตูที่เรียนพิเศษมาถึง แม่ของเพื่อนก็ขอเปิดประตูเอง แล้ววิ่งขึ้นไปด้านบน ส่วนตนก็วิ่งตามขึ้นไป และสิ่งที่เห็น คือ แม่ของเพื่อนนำกระเป๋าขึ้นไปจองที่นั่งให้ลูกของเขา แล้วตนก็วางกระเป๋าไว้ที่เก้าอี้ตัวตรงกลาง แต่แม่ของเพื่อนกลับพูดตะคอกใส่ว่า วางกระเป๋าอยู่ก่อนแล้ว จึงได้เลือกที่นั่งก่อน ทำให้มีปากเสียงกัน
จากนั้นแม่เพื่อนก็ใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปตนไว้ พร้อมบอกว่า จะนำไปให้เพื่อนๆ ดู ขณะที่ตนก็นำโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปไว้เช่นกัน ก่อนจะมีปากเสียงกันรุนแรง ถึงขั้นที่ตนหลุดพูดว่า ถ่ายคลิปไว้ เพื่อนๆ จะได้รู้ว่า แม่ของเพื่อนคนนี้สันดานเสีย ทำให้แม่ของเพื่อนปัดโทรศัพท์ของตนตกลงพื้น แล้วใช้มือตบเข้าที่ข้างศีรษะด้านซ้ายอย่างแรง พร้อมกับหักนิ้วชี้มือขวา 2 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ รู้สึกชาเหมือนเป็นตะคริว
จากนั้นตนก็วิ่งลงไปหน้าที่เรียนพิเศษ โทรศัพท์หาป้าให้มารับพาไปรักษา ซึ่งแม่ของเพื่อนคนนี้ ตนก็รู้จักมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล และเพื่อนก็เรียนห้องเดียวกันด้วย แต่เพื่อนของตนมีนิสัยชอบบูลลี่ตนเป็นประจำ
ด้านแม่เด็กหญิง บอกว่า วันดังกล่าว ตนไปส่งลูกที่หน้าที่เรียนพิเศษ เพื่อให้ลูกขึ้นไปจองที่นั่ง จากนั้นก็ซื้อข้าวมาให้ลูก ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก และเรียนมานาน 2 ปีแล้ว หลังเกิดเหตุ ลูกโทรมาหาตน แต่ไม่ได้รับสาย จากนั้นลูกก็โทรไปหาป้า ก่อนที่ตนจะกลับไปถึงที่เรียนพิเศษ ก็พบลูกยืนร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว พร้อมบอกว่า ถูกตบ และอยากย้ายโรงเรียน แต่หากจะให้เรียนก็ต้องให้ตนนั่งเฝ้า เพราะกลัวแม่ของเพื่อน จนถึงวันนี้ก็กลัว และไม่อยากไปโรงเรียน
ทั้งนี้แม่ของเพื่อนลูกสาว เคยคบหา มีความสนิทสนมกันมานาน เคยช่วยเหลือกันและกันในหลายๆ เรื่อง แต่ระยะหลังลูกสาวของเขา ชอบบูลลี่ลูกสาวของตน กระทั่งครั้งล่าสุด ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่แม่ของเพื่อนลูกสาว พยายามจะรังแกลูกสาว ซึ่งเชื่อว่า ทำให้ลูกก็หมดความอดทนเช่นกัน
ทั้งนี้เคยมีผู้ปกครองเด็กคนอื่นมาเล่าให้ฟังเช่นกันว่า แม่เพื่อนของลูกคนนี้ ชอบรังแกเพื่อนๆ ลูกอีกหลายคน บางครั้งถึงขั้นไปดักรอเด็กคู่กรณีที่ใต้อาคารโรงเรียน และหลังเกิดเหตุกับลูกสาวตนแล้ว ก็ยังมีการโพสต์เฟซบุ๊ก และพูดท้าทายให้ไปแจ้งความดำเนินคดี ล่าสุดได้ไปแจ้งความที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ปกครองรายนี้แล้ว ส่วนคู่กรณีก็ยังไม่ติดต่อมาพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้น