‘กัน จอมพลัง’ เดินทางมาที่ สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นำทีมเข้าช่วย ด.ช. วัย 3 ขวบ หลังเพื่อนบ้านส่งคลิปมาให้ พบหญิงมีอาการคล้ายติดยาเสพติด ขังลูกไว้ในบ้านข้ามวันบ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีอาการคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของในบ้านและปาขวดเป็นประจำ เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับเด็ก แม้แต่ผู้เป็นพ่ออายุกว่า 70 ปี ที่เคยอยู่ด้วยก็ต้องไปอยู่ที่อื่น
จึงประชุมร่วมกันกับ พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี, นายรณกร เผ่าวสิจารณ์ นายอำเภอธัญบุรี, น.ส.อุไรวรรณ สุขอนันต์ ปลัดอำเภอธัญบุรี และ น.ส.อารีรัตน์ นฤดมพงษ์ พมจ.ปทุมธานี ก่อนจะเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว ในพื้นที่ ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด ตัวบ้านและรั้วถูกล็อกจากด้านใน เจ้าหน้าที่ส่งเสียงเรียกเด็กซึ่งก็มีเสียงตอบรับ ส่วนแม่เด็กไม่ขานรับแต่อย่างใด เพื่อนบ้านที่เฝ้าสังเกตยืนยันว่าแม่ยังอยู่ในบ้าน
จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปพื้นที่ด้านใน ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะส่งเสียงโวยวาย โดยที่พื้นบ้านมีขวดกระเบื้องแตกอยู่เป็นจำนวนมาก และภายในบ้านกลิ่นเหม็น แต่สุดท้ายสามารถช่วยเด็กออกมาได้อย่างปลอดภัย นำตัวขึ้นรถตู้ พมจ.ปทุมธานี เพื่อเดินทางมาที่ สภ.ธัญบุรี ตรวจสอบร่างกาย ลงบันทึกประจำวัน แล้วนำไปดูแลที่บ้านพักเด็กจังหวัดปทุมธานี
ส่วนแม่ของเด็ก อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่นำตัวมาที่ สภ.ธัญบุรี เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมาย พร้อมตรวจปัสสาวะ เบื้องต้นเจ้าตัวอ้างว่าปัสสาวะไม่ออก
เพื่อนบ้านรายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า หญิงคนดังกล่าวเคยปล่อยลูกให้อยู่กับคุณตา วัย 70 กว่าปี ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ ช่วงหลังมาแม่เด็กมีอาการคลุ้มคลั่งไล่ด่าพ่อตัวเองและใช้ความรุนแรง เช่น ปิดประตู เขวี้ยงขวดลงพื้น และด่ากราดคนไปทั่ว ก่อนหน้านี้ได้นำผ้ามาพันที่รั้วรอบบ้าน และ 2-3 วัน ที่ผ่านมามีอาการคลุ้มคลั่งอีก จึงเป็นห่วงเด็ก เพราะขนาดคุณตายังอยู่ไม่ได้ กลัวว่าลูกสาวจะทำร้ายหลาน โดยคุณตาเคยเดินออกมาบอกตนว่า “อยู่ไม่ได้แล้วนะครับ เพราะผมอายคน” โดยออกไปได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว
ขณะที่ กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า วันนี้ถือว่าโชคดีที่เข้าไปช่วยเหลือน้อง ได้พูดคุยกับผู้เป็นแม่ ตอนแรกนุ่มนวลสักพักเริ่มเปลี่ยนเป็นคนละคน บอกว่ามีเหตุที่จะต้องเขวี้ยงขวดเพื่อระบายอารมณ์ เพราะได้ยินเสียงมาด่าที่หน้าบ้านตลอด แต่ทำอะไรไม่ได้
ตนจึงถามไปว่าหูแว่วหรือป่าว แต่เจ้าตัวยืนยันว่าเป็นชาวเมียนมาส่งน้ำแข็งที่มาด่าทุกวัน ตนเลยถามตรงๆ ว่ามีการใช้สารเสพติดหรือไม่ เจ้าตัวก็ยืนยันว่ามีการใช้สารเสพติดไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ แต่ขณะที่รอตรวจสารเสพติดเจ้าตัวอ้างว่าฉี่ไม่ออก
เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับผู้เป็นแม่ว่าหากเจอสารเสพติดจะได้นำตัวไปบำบัด แต่เจ้าตัวบอกว่า “จะบำบัดอะไรเสียเวลาชีวิต ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ฆ่าใครตาย วันที่ไม่อยู่ไม่ได้ออกไปนาน ไปแค่รีสอร์ตไ ปปาร์ตี้อัปยาเสพติดกัน เลยขังลูกไว้ในบ้าน”
เคสนี้ตนมาช่วยน้องให้ได้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย ห่างจากแม่ที่ไม่มีความรับผิดชอบ ขั้นตอนต่อไปในส่วนของเด็ก เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กได้นำเด็กไปอยู่ในความดูแลเป็นที่เรียบร้อย ส่วนแม่ต้องผ่านการประเมินของเจ้าหน้าที่ก่อน ว่าจะได้กลับไปอยู่กับลูกหรือไม่ หากดูว่าไม่ปลอดภัยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กคงไม่ปล่อยให้แม่รับเด็กไปดูแล และหากตรวจเจอสารเสพติดในร่างกาย ก็ให้ทางเลือกคือ สมัครใจบำบัด หรือดำเนินคดีทางกฎหมาย
ที่มา : ข่าวสด