จากกรณี หญิง อายุ 20 ปี เข้าขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าวและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้เข้าตรวจสอบสำนักฤๅษีแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี หลังถูกพ่อและแม่บังคับให้ไปรักษาโรคมะเร็งกับหมอฤาษี โดยระบุว่าวิธีการรักษา ให้ตนเปลือยท่อนบน และใช้มือลูบไล้ไปตามร่างกาย แต่เมื่อตัดสินใจไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล กลับไม่พบว่าเป็นโรคมะเร็งตามที่หมอฤาษีคนดังกล่าวกล่าวอ้าง โดยยังระบุด้วยว่า ยังมีเหยื่อซึ่งเป็นเด็กผู้หญิง อายุ 14 ปี ถูกกระทำในลักษณะเดียวกับตนอีกด้วย
ต่อมา หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พม จ.สุราษฎร์ธานี เข้าประสานกับ ผกก.สภ.วิภาวดี นำกำลังเจ้าหน้าทึ่ตำรวจไปรับตัว หญิงคนดังกล่าว ที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน โดยเมื่อมาถึง สภ.วิภาวดี พนักงานสอบสวนได้นำตัวไปสอบสวนปากคำทันที
ด้านน้าของผู้เสียหาย เผยว่า วันนี้พาหลานสาวมาแจ้งความดำเนินคดี โดยเจ้าสำนักดังกล่าวมีการมาทักหลานสาวตัวเองว่าป่วยเป็นโรคมะเร็ง กระทั่งหลานสาวได้ไปทำการรักษาที่สำนักดังกล่าวอยู่ประมาณหนึ่งปี และทุกครั้งที่ไปรักษาเขาก็จะใช้วิธีการให้ถอดเสื้อผ้าทั้งหมด ก่อนที่จะลูบคลำจับหน้าอก และอวัยวะเพศหลานสาว
โดยบอกว่าเป็นวิธีการรักษา กระทั่งครอบครัวช่วยพาไปรักษากับหมอที่โรงพยาบาล จนหมอตรวจร่างกายพบว่าแข็งแรงปกติ ยืนยันว่าจะเอาเรื่องเจ้าสำนักดังกล่าวและผู้ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด และก่อนหน้านี้ ก็มีชาวบ้านจำนวนมากที่หลงเชื่อเจ้าสำนักรายนี้แล้วไปรักษาด้วยวิธีดังกล่าว ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้หายจากอาการปวดแต่อย่างใด ซ้ำบางคนยังเสียชีวิตอีกด้วย
ล่าสุด สภ.วิภาวดี ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.วิภาวดีแล้ว และได้สอบสวนผู้เสียหาย รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และหลังจากนี้จะดำเนินการติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินการตามกฎหมาย ติดตามผู้เสียหายรายอื่นมาสอบสวน แจ้งสาธารณสุขจังหวัด ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและการกระทำของผู้ต้องหาต่อไป