รื้อแล้ว ป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ตเป็นภาษาจีนกลางแยกห้วยขวาง ผอ.เขตลั่น ถึงจะรื้อ ก็ผิดไปแล้ว จ่อเอาผิด 4 ข้อหา ยอมไม่ได้

อีกหนึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรงในโลกโซเชียล เป็นภาพของ ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่บริเวณสี่แยกห้วยขวาง มีข้อความโฆษณาเป็นภาษาจีน โฆษณาขายพาสปอร์ตย้ายประเทศ ซึ่งมีทั้ง อินโดนีเซีย, วานูอาตู, กัมพูชา และตุรกี พร้อมรับประกัน 30 วันได้สัญชาติทันที ปลอดภัยเป็นความลับ และรับสมัครตัวแทนทั่วโลก อยู่บริเวณกลางสี่แยกห้วยขวาง  โดยผู้โพสต์ระบุแคปชันว่า 

“ตรงสี่แยกไปเลยแม่ เดา ๆ ว่าน่าจะเกี่ยวกับพาสปอร์ต แต่อันนี้ก็โจ่งแจ้งเกิน เผื่อเมืองพี่เมืองน้องไม่รู้ ที่นี่ใช้ google translate ได้ค่า” 

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปจุดดังกล่าว พบมีลูกจ้างกำลังเร่งนำป้ายโฆษณาภาษาจีนดังกล่าวออกจากจุดที่แขวนไว้บนร้านอาหารจีน เมื่อสอบถามลูกจ้างที่มาปลดป้ายโฆษณาออก ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไร บอกเพียงว่า มีเจ้านายโทรมาเมื่อช่วงเช้าให้รีบมาปลดป้ายที่เพิ่งติดไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาออกแค่นั้น 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ได้ลงพื้นที่มาพูดคุยกับกลุ่มลูกจ้างทั้ง 5 คน ก่อนเรียกตัวไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ สน. ห้วยขวางต่อไป

ขณะที่วินรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า เมื่อ 2-3 วันก่อนเห็นมีผู้ชาย 2 คนและผู้หญิงอีก 1 คน มาทำการติดป้ายโฆษณาดังกล่าวที่ร้านอาหารจีนตรงนี้ แต่ก็ไม่มีใครสนใจว่าป้ายดังกล่าวเป็นป้ายอะไร เพราะจะมีป้ายโฆษณามาติดสลับกันไปเรื่อยทุกเดือน แต่พอรู้ว่าเป็นป้ายโฆษณาผิดกฎหมายก็รู้สึกตกใจ อีกทั้งบริเวณนี้ก็มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเยอะ

นายไพทูรย์ งามมุข ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง เปิดเผยว่า กรณีป้ายข้อความโฆษณาภาษาจีน รับซื้อขายหนังสือเดินทาง (passport) อย่างโจ่งแจ้ง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย กลางแยกห้วยขวาง ล่าสุดทราบตัวเจ้าของตึกและอาคารแล้ว ป้ายข้อความโฆษณาดังกล่าวเป็นของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ส่วนจะเป็นป้ายของบริษัทต่างชาติหรือคนไทยนั้น ขอให้ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน  

ส่วนการดำเนินคดีหลังจากนี้ ในวันพรุ่งนี้เวลา 09.30 น. ตนพร้อมด้วยนิติกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ใน 4 ประเด็น คือ 

1. ป้ายข้อความโฆษณาที่ขึ้นมีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ 
2. มีความผิดชัดเจนคือการโฆษณาไม่มีใบอนุญาติ 
3. มีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด 
4. ข้อความที่มีการเชิญชวนลักษณะหมิ่นเหม่กระทบต่อความมั่นคงของชาติบ้านเมือง

หลังจากนี้ จะประสานตำรวจในท้องที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นความไม่ปลอดภัยเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดำเนินคดีหากเข้าข่ายความผิด และตรวจสอบเรื่องภาษีป้ายโฆษณา รวมถึงประสานให้ปลดออกโดยเร็ว ซึ่งทันทีที่ตนเองได้สั่งการ ทราบว่าทางเจ้าของ มาปลดป้ายออกเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงแม้จะปลดป้ายออกก็ยังมีความผิดอยู่ 

ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง ยืนยันว่าในการปลดป้าย ทางเจ้าของเป็นคนปลดเอง และในการขึ้นป้ายข้อความโฆษณา จะต้องมีการคัดกรองอยู่แล้วว่าข้อความใดที่จะให้ลงหรือไม่ให้ลง  เป็นของเจ้าของป้ายอยู่แล้ว จะมาสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติทำไม่ได้ ต้องรู้อยู่แล้ว ไม่ใช่สามารถจ่ายเงินใต้โต๊ะ แล้วกระทำความผิดกฎหมายได้ ทำแบบนี้ไม่ถูก ดังนั้นการขึ้นป้ายดังกล่าว ย่อมมีร่องรอยของความผิด จะต้องดำเนินการตรวจสอบหลายอย่างควบคู่กันไป