มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

คู่กรณีแจงดรามาหมาหลุดถูกกัดตาย - 'บิว วราภรณ์' โต้ขอโทษไปแล้วแต่ทำไมไม่จบ


ข่าวโซเชียล
10 เมษายน 25684,225
คู่กรณีแจงดรามาหมาหลุดถูกกัดตาย - 'บิว วราภรณ์' โต้ขอโทษไปแล้วแต่ทำไมไม่จบ

เป็นประเด็นดรามาเดือดในโซเชียล หลังจากที่เจ้าของหมาปอมออกมาไลฟ์เล่าว่าตัวเองสูญเสียหมาปอมสุดที่รักไป เนื่องจากน้องหลุดออกจากบ้าน ก่อนจะพบว่ามีหมาไซบีเรียนยืนอยู่บริเวณนั้น จากนั้นเจ้าของหมาจึงได้ขอภาพกล้องวงจรปิดจากเพื่อนบ้าน เพื่อตามหาว่าหมาไซบีเรียนเป็นของใคร โดยเพื่อนบ้านแจ้งว่าอาจจะเป็นของ 'บิว วราภรณ์' อินฟลูเอนเซอร์สายบิวตี้ ต่อมา ทางฝั่งคู่กรณีหรือคุณไอติม ได้โพสต์เล่าว่า

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 14 มีนาคม น้องหมาปอม อายุ 14 ปีของเราหลุดออกจากบ้านด้วยความสะเพร่าของเราเอง และไปโดนกัดตายบริเวณส่วนกลางหน้าบ้าน ตอนเวลา 15.55 น. ทางเราพยายามตามหาเจ้าของหมาที่มากัดปอมเราตาย โดยถามจากรอบๆ บ้านและได้คลิปจากกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านมา

 

พบว่าเป็นหมาไซบีเรียน 2 ตัวของคู่กรณี เราจึงทำการโทรติดต่อคู่กรณีครั้งแรกในเวลา 18.22 น. คู่กรณีไม่อยู่บ้านแจ้งว่าจะเข้ามาคุยวันอาทิตย์ หลังจากนั้นเราได้ไปทำการจัดการศพน้องปอม

 

หลังจากที่คุยปรึกษากับทางบ้านแล้ว วันอาทิตย์ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครว่าง จึงอยากให้มาพบและพูดคุยกันในวันเกิดเหตุเลย จึงได้โทรไปนัดหมายคู่กรณีให้มาพบกัน ณ จุดเกิดเหตุ เวลา 20.00 น.

 

เวลา 20.00 น.ทางครอบครัวเรา 5 คนรวมทั้งคุณแม่ของเรา (เจ้าของปอม) รออยู่ที่จุดเกิดเหตุและมีการโทรตามคู่กรณีถึง 3 รอบ โดยคู่กรณีออกมาเวลาประมาณ 20.45 น.ซึ่งคุณแม่และพี่สาวเราไม่อยากรอแล้วจึงขอเข้าบ้านไปก่อน

 

ได้พบคู่กรณีและคุณแม่ของภรรยาคู่กรณี มีการพูดคุยและ ได้ทำการขอโทษจากทั้งสองฝ่าย และต่างฝ่ายยอมรับว่าหมาหลุดออกมาทั้งคู่ แต่โชคร้ายที่ฝั่งเราเป็นฝ่ายสูญเสียหมาปอมไป และเราได้กำชับถึงมาตรการของคู่กรณีหลังจากนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะหมาคู่กรณีตัวใหญ่ หลุดมาหลายรอบและไม่อยากให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก โดยทางเรายืนยัน ณ ตรงนั้นว่าไม่ได้อยากรับเงินชดเชยในส่วนใดๆ ก็ตาม

 

ทางเราได้แจ้งว่าอยากจะจบจากเหตุการณ์ในวันนี้แต่เพียงเท่านี้ก่อน เพราะเป็นเรื่องที่ทางเรายังทำใจไม่ได้ ทางคู่กรณีเลยแจ้งว่าหากมีคำแนะนำด้านใดหรืออยากให้ดูแลด้านใดให้ติดต่อกลับได้ทันที และทุกคนแยกย้ายกัน ณ จุดเกิดเหตุในเวลาประมาน 22.00 น.

 

ในวันต่อมา อาทิตย์ที่ 16 มีนาคม มีหมาไซบีเรียนหลุดมาในกลุ่มหมู่บ้านอีกครั้ง ทางเรากลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย จึงพิมพ์ลงไปในกลุ่ม ทางคู่กรณีโทรมาแจ้งว่า ไม่ใช่หมาของตน ทางเรารับทราบ และไม่ได้ดำเนินการใดๆ ต่อ

 

หลังจากเวลาผ่านไป 5-6 วัน ในวันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม ทางเราได้คุยกับคุณแม่และถามคุณแม่ว่า พร้อมจะเจอเจ้าของหมารึยัง คุณแม่แจ้งว่าพร้อมแล้ว

 

ในวันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม เราจึงได้พยายามโทรนัดหมายกับคู่กรณี ครั้งแรกเวลา 16.34 น.และครั้งที่สองเวลา 19.44 น.แต่ทางคู่กรณีไม่รับสายและไม่ติดต่อกลับอีกเลยตั้งแต่วันนั้น

 

ส่วนเหตุผลที่เข้าไปคอมเมนต์ในโพสต์คุณบาส ทางพวกเราทุกคนขอโทษจากใจจริง ที่เข้าไปใช้พื้นที่โซเชียลของคุณบาสสื่อสารไปยังคู่กรณี แต่เนื่องจากวันที่ 6 เมษายน พบว่าพี่ชายของคู่กรณีเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กัน จึงเข้าไปคอมเมนต์เพื่อแสดงความเสียใจและใช้พื้นที่นั้นสื่อสารไปถึงคู่กรณี เพื่อหวังให้คู่กรณีติดต่อกลับมา (ตามคอมเมนต์ในโพสต์)

 

การติดต่อกลับมาของคู่กรณี หลังจากที่เราคอมเมนต์ในโพสต์ของคุณบาสไป เราได้รับการติดต่อกลับมาจากคู่กรณีในวันที่ 7 เมษายน เวลา 11.26 น. (พูดคุยกันประมาณ 25 นาที) เราได้ถามถึงเหตุผลที่ไม่ติดต่อกลับตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ซึ่งทางคู่กรณีแจ้งว่า ผิดพลาดเอง ติดธุระ (แต่ทำไมไม่โทรกลับมา? ทั้งๆ ที่มีเบอร์เรา)

 

ได้ข้อสรุปว่า ทางคู่กรณีเข้าใจผิด คิดว่าเราไม่อยากพูดคุยถึงเรื่องนี้อีกแล้ว (ถ้าเราไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว วันที่ 20 มีนาคมเราจะพยายามติดต่อคุณไปทำไม? เราจะรอให้คุณติดต่อกลับมาทำไม?)

 

สรุปการพูดคุยในวันที่ 7 เมษายนคือ ทางเราแจ้งว่า ให้ทางคู่กรณีกลับไปพูดคุยกันแล้วให้ติดต่อกลับมาอีกครั้ง ในวันที่ 8 เมษายน เวลาประมาณ 11.00 น. ทางคู่กรณีทั้งสอง ไลฟ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกเราฟังพบว่ามีความคลาดเคลื่อนในหลายๆ ประเด็นในข้อเท็จจริง

 

สิ่งที่เราต้องการ ในตอนแรกเราแค่ต้องการนัดหมายและต้องการคำขอโทษด้วยความจริงใจโดยตรงกับคุณแม่ของเรา ซึ่งเป็นเจ้าของหมาปอมตัวจริง แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ ทั้งสิ้น และในตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษนั้นอีกต่อไปแล้ว เรายืนยันว่าไม่ได้อยากทะเลาะกับใครใดๆ ทั้งสิ้น และไม่มีการต่อว่าคู่กรณีแต่อย่างใด

 

สุดท้ายขออนุญาตพูดในมุมของคนที่โกรธ และสูญเสียหมาที่เลี้ยงเหมือนลูกมาตลอด 14 ปี ตอนนี้พวกเราโดนกระแสโซเชียลถล่มเยอะมาก และทำให้สภาพจิตใจของพวกเราย่ำแย่ไม่แพ้กัน จึงจบประเด็นทั้งหมดตรงนี้เท่านี้ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ

 

ทั้งนี้ ทางเพจโหนกระแสได้พูดคุยกับคู่กรณี หรือคุณไอติม เจ้าของโพสต์ดังกล่าว เผยว่า สิ่งที่ต้องการตอนนี้ คือ อยากรู้ว่าทางฝั่งบิว วราภรณ์จะรับผิดชอบความรู้สึกของตนเองและครอบครัวอย่างไรบ้าง ตนไม่ต้องการเงิน เพราะตอนนี้เรื่องมันไปไกลมากแล้ว ตนเป็นผู้เสียหายจากสิ่งที่บิว วราภรณ์บิดเบือนไปแล้วในไลฟ์ และอยากให้เข้ามาขอโทษ ติดต่อเรากลับมาเหมือนตอนแรก ซึ่งเขาไม่ได้ทำ และธนิน สามีของบิวก็ยอมรับว่า เขาคิดไปเองว่าตนโอเคแล้ว คำถามคือ ตนผิดไหมที่เขาคิดไปเอง พวกตนนั่งรออยู่เฉยๆ ที่บ้านแต่ก็ไม่มีใครมาหา ซึ่งตอนนี้แม่ตนรู้สึกแย่มากกว่าเดิม ตนก็ไม่รู้จะต้องจัดการยังไง

 

ต่อมา ทางเพจโหนกระแสได้พูดคุยกับบิว วราภรณ์ ซึ่งบิวเล่าว่า ในวันที่เกิดเหตุ คือ 14 มีนาคม สามีและแม่ตนได้ไปขอโทษ และมีการพูดคุยกับฝั่งคู่กรณีแล้ว ซึ่งวันนั้นไม่มีคนชื่อไอติม หรือคนที่โพสต์อยู่ในเหตุการณ์เลย และสิ่งที่เขาโพสต์ว่า หลังจากเกิดเหตุวันอาทิตย์ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครว่าง จึงอยากให้มาพบและพูดคุยกันในวันเกิดเหตุเลย จริงๆ แล้วบ้านตนว่าง แต่ทางฝั่งคู่กรณีต้องการที่จะคุยวันที่เกิดเหตุเลย ซึ่งโทรมาตอนกลางคืน เวลา 20.00 น. สามีตนก็ออกไปพบพร้อมกับแม่

 

ส่วนที่เขาบอกว่ารอนานนั้น เพราะตนก็รอแม่ตนกลับมาจากธุระข้างนอกเหมือนกัน หลังจากไปพูดคุยก็มีการจุดธูปไหว้ศพน้องหมา และทางั่งคู่กรณีบอกเองว่าขอจบเรื่องทุกอย่างวันนี้ ไม่อยากพูดถึงอีก และยังมีการกอดแม่ของตนก่อนแยกย้ายกันอีกด้วย

 

ส่วนเรื่องไลน์กลุ่มหมู่บ้าน ที่ทางฝั่งคู่กรณีมีการพิมพ์และทำให้คนอื่นคิดว่าเป็นหมาของบ้านตนหลุดอีก ทางตนก็โทรไปพูดคุย บอกไปแล้วว่าไม่ใช่หมาของตน มีกล้องวงจรปิดชัดเจนว่าหมาตนอยู่ในบ้าน ทางฝั่งคู่กรณีก็รับททราบ แต่ก็ไม่ได้ยกเลิกหรือแก้ไขข้อความในไลน์กลุ่ม แต่ตนก็ไม่อยากมีปัญหาอะไรจึงปล่อยให้คนอื่นในหมู่บ้านเข้าใจผิดไปแบบนั้น

 

กระทั่งวันที่แมวของพี่ชายตนตาย ทางคู่กรณีได้ไปคอมเมนต์ใต้คลิป ทำนองว่า เสียใจด้วย แต่หมาของน้องสาวคุณก็มารุมกัดหมาของเราตาย และคุณไอติมก็มาต่อคอมเมนต์ดังกล่าวว่า ไม่ได้รับคำขอโทษใดๆ ซึ่งมันทำให้คนในโซเชียลเห็นว่าครอบครัวตนไม่รับผิดชอบ ตนก็งง แต่ก็อยู่เงียบๆ เพราะไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ตนก็อยากรู้ว่าเขาต้องการอะไร เพราะวันเกิดเหตุที่เคลียร์กัน เขาบอกเองว่าอยากจบ ไม่อยากพูดถึงอีกแล้ว

 

ต่อมา ชาวเน็ตก็เข้ามาคอมเมนต์ในไอจี ขอคำชี้แจงจากตน ตนก็ตอบกลับไปว่า เดี๋ยวจะ DM ไปอธิบายให้ฟัง ซึ่งคุณไอติมก็มาคอมเมนต์และบอกว่า อธิายตรงนี้เลย ไม่ต้อง DM ใคร ตนก็งงอีกว่าเอ้า สรุปจะเอายังไง หลังจากนั้นตนจึงโทรหาคู่กรณี แต่ตัดสาย และเขาก็ให้คุณไอติม ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของบ้านหลังนั้นโทรกลับมา นั่นคือครั้งแรกที่ได้คุยกับคุณไอติม เขาก็อธิบายต่างๆ และต้องการให้บิวไปขอโทษแม่เขา ซึ่งสิ่งนี้ในวันที่เคลียร์กันไม่ได้พูดถึง ซึ่งตนคิดว่าสารตั้งต้นเรื่องทั้งหมด คือ คุณไอติม ซึ่งเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และวันนั้นเขาก็พูดถึงขั้นว่าคุณอยากฟ้องผมก็ฟ้องเลย ตนก็ตกใจว่ามันต้องถึงขั้นนั้นเลยเหรอ

 

หลังจากนั้นตนจึงขึ้นไลฟ์ชี้แจงทุกประเด็นต่อชาวเน็ต คุณไอติมก็พยายามโทรมาอยากจะขอไลฟ์ด้วย แต่ตนคิดว่าทำไมเราจะต้องมาทะเลาะกันโชว์คนอื่น ซึ่งในไลฟ์ตนก็ขอโทษ แต่คุณไอติมก็แคปภาพที่ตนไลฟ์แล้วไปโพสต์ไอจีสตอรี่ด้วยอารมณ์ต่างๆ หลังจากนั้นเขาก็ไลฟ์ ซึ่งก็ทำให้เป็นประเด็นใหญ่โต และเขาก็โดนทัวร์ลง โดยส่วนตัวเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้น ตนมองว่าเป็นการประมาทร่วม และจบกันไปตั้งแต่วันที่ขอโทษและมีมาตรการชัดเจน ไม่ได้ทำให้หมาหลุดอีกเลย

 

แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องหมากับหมาแล้ว มันเป็นเรื่องคน ซึ่งคุณไอติมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น แต่คำพูดเขาบิดเบือน ไม่ตรงกับความจริง และเขาพูดว่าไม่เคยต่อว่าเรา เขามีคลิปเสียง ตนจึงอยากให้เขาเปิดมาเลย จะได้รู้เลยว่าตนขอโทษเขาไปแล้ว ตนเข้าใจว่าเขาเสียใจ ตนก็เสียใจ ตอนนี้มันเลยจุดที่จะเคลียร์กันได้แล้ว เพราะกลายเป็นเรื่องสาธารณะไปแล้ว ความจริงเรื่องนี้ตนก็ฟ้องได้ แต่ตนเห็นใจหมาที่ตายไปและแม่ของเขาจึงไม่ทำ


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#บิววราภรณ์#หมากัด#หมาหลุด#โหนกระแส