ย่าทำยังทำใจไม่ได้ หลานฉกทอง-เงินสด พ้อขอดีๆ ย่าก็ให้ ลูกผู้เสียหายยอมรับแม่เป็นผ้าขี้ริ้วห่อทอง มีทรัพย์สินหลายล้าน

จากกรณี หญิง อายุ 80 ปี ชาว ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมด้วยลูกชาย อายุ 35 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกหลานชาย อายุ 16 ปี ทำทีมาอยู่กับย่า อยากดูแลย่าที่แก่เฒ่า และอยู่ปรนนิบัติย่าที่ป่วย แต่สุดท้ายกลับฉกเอาสร้อยทอง หนัก 3 บาท, แหวนทอง 1 บาท, สร้อยข้อมือทอง 5 บาท และเงินสดอีก 30,000 บาท รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท หนีหายไป ผู้เป็นย่าอยากให้ตำรวจติดตามหลานชายให้เอาทองมาคืน เพราะเป็นทองที่เก็บเงินซื้อจากน้ำพักน้ำแรงตั้งแต่สาวๆ จนถึงปูนนี้ อายุ 80 ปี ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น

ล่าสุดวันนี้ (12 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับคุณย่าอีกครั้ง โดยย่ายังยืนยันจะเอาเรื่องหลานชายให้ถึงที่สุด

คุณย่า กล่าวว่า ตอนหลานมาอยู่ด้วย ก็บอกว่ามาอยู่กับย่าให้ทำนิสัยดีๆ นะ อย่ามือไวใจเร็วนะ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาทำกับย่าแบบนี้ ปกติหลานไม่เคยมาอยู่กับย่าเลย เพิ่งมาวันที่ 27 เม.ย. ถึงวันที่ 18 พ.ค. เกือบ 1 เดือน ตั้งแต่หลานชายขโมยทองและเงินไป ย่าเสียใจและเจ็บใจมาก นอนก็ไม่หลับ กินข้าวไปก็น้ำตาไหลไป คิดในใจทำไมหลานมาทำกับย่าแบบนี้ ลูกชายก็บอกไม่ให้คิดมาก กลัวจะช็อกเข้า รพ. อีก

ใจก็อยากได้ทองคืน แต่ไม่รู้จะได้คืนหรือเปล่า อยากให้ตำรวจตามให้ที และอยากจะบอกกับหลานว่า ย่าไปแจ้งตำรวจแล้ว จะเอาผิดกับย่าไม่ได้ เพราะหลานทำตัวเอง มาอยู่กับย่า ย่าทำดีทุกอย่าง หลานมาอยู่ด้วยอยากกินอะไรย่าก็ทำให้ มีอะไรดีๆ ก็ให้หลานกิน สงสารหลาน แต่หลานมาหักหลังย่าแบบนี้ เจ็บใจเสียใจมาก ไม่นึกไม่ฝันว่าหลานจะเนรคุณแบบนี้ ขอเงินย่าดีๆ ย่าก็จะให้

ชาย อายุ 35 ปี ลูกชายของผู้เสียหาย และเป็นอาของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นลูกของพี่ชาย แต่พี่ชายเสียชีวิตไปเป็นปีแล้ว ครอบครัวเราเป็นคน จ.อยุธยาฯ แต่แม่ย้ายมาอยู่ที่นี่เกือบ 40 ปีแล้ว ตอนแรกแม่มาอยู่พี่ชายคนที่เสียชีวิตไป มาขายไอศกรีมกะทิ เร่ขายไปทั่วเมืองอุดรธานี เช่าบ้านเขาอยู่ 7 ปี พอเก็บเงินได้แม่ก็ซื้อที่ตรงนี้ 1 ไร่ ราคา 80,000 บาท และใช้หนี้ที่ จ.อยุธยาฯ จนหมด แม่ก็ไปรับตนมาอยู่ที่ จ.อุดรธานี เราก็ขายไอศกรีมมาเรื่อยๆ ตอนนี้ไม่ได้ขายแล้ว หาเก็บขวดขาย เราก็อยู่ตามสภาพ

ส่วนหลานชาย เขาไม่เคยมาอยู่กับย่าเลย แต่จู่ๆ มาอยู่ด้วย บอกว่าเป็นห่วงย่า มาอยู่เกือบเดือน แล้วก็มาขโมยทองและเงินของแม่ไป เขาติดเกมมือถือ มาอยู่กับย่าเล่นแต่เกม ตนเชื่อว่าแม่ของหลานกับหลานสมคบคิดกัน เพราะแม่เขาเป็นคนมาส่ง พอขโมยทองได้แล้วแม่เขาก็มารับ

ที่รู้ว่าหลานขโมยทองไป เพราะมีคนบ้านเดียวกับหลานมาบอกแม่ตนว่า หลานเอาทองไปขายได้เงิน 200,000 บาทเศษ แล้วเอาเงินไปฝากเขาไว้ เขาเลยแจ้งตำรวจ สภ.นาข่า เพราะกลัวเป็นเงินผิดกฎหมาย ต่อมาแม่หลานกับก็ไปรับเงินคืน ที่สงสัยว่าทำไมทอง 9 บาท เอาไปขายได้เงินแค่ 200,000 บาท เพราะร้านทองเขาน่าจะกดราคา ร้านเขากลัวได้ทองมาโดยไม่สุจริต เขาเลยให้ราคาเท่านั้น ตอนที่พาแม่ไปหา หลานก็ท้าว่า ถ้ามีหลักฐานว่าเขาเอาทองและเงินไป ก็แจ้งตำรวจมาจับเลย

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ผู้เสียหายนำเงินไปถวายวัด ลูกชายเผยว่า แม่ชอบทำบุญ เอาเงินไปบริจาควัดสร้างโบสถ์ 3 วัด คือวัดป่าหนองแก้ว 100,000 บาท, วัดทิพย์ฯ 200,000 บาท และวัดป่าบ้านตาดอีก 40,000 บาท กรรมการวัดไม่คิดว่าจะมีเงินเยอะ แต่พอแม่เอาเงินสดไปถวายก็แห่ต้อนรับแม่เลย

ส่วนที่ชาวบ้านบอกว่าผู้เสียหายเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทองนั้น ก็คงจะจริง เพราะแม่มีเงินในบัญชีมากประมาณนึง และที่ดินตรงนี้ 1 ไร่ และที่โนนสูงให้เขาเช่า ได้เงินจากการให้เช่าที่นาที่ จ.อยุธยาฯ ปีละ 20,000 บาท ที่ตรงนี้ธนาคารมาติดต่อขอซื้อ 20 ล้านบาท แต่แม่ไม่ขายเพราะไม่จำเป็น เราพออยู่ได้

ส่วนเรื่องคดี ตำรวจแจ้งมาว่าไปตามหลานและแม่หลานที่บ้านแล้ว แต่ไม่เจอตัว คิดว่าคงหนีไปใช้เงินสนุกแล้ว ตนและแม่จะเอาเรื่องหลานชายเนรคุณคนนี้ให้ถึงที่สุด