ที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น นายสุธรรม วงษ์จันทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเวียง พาชมพืชพันธุ์นานาชนิดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ในดินแดนที่อยู่อาศัยของไดโนเสาร์และสัตว์ดึกดำบรรพ์โลกล้านปี ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติและหลุมขุดซากฟอสซิลไดโนเสาร์ที่ทางอุทยานฯ และนักธรณีวิทยาขุดพบ
นอกจากนี้ ยังมีต้นไม้อยู่ชนิดหนึ่งที่มีตำนานเรื่องเล่าของชาวอีสานและแถบประเทศลาว เมียนมา กัมพูชา ว่าที่มาของต้นไม้มาจากอวัยวะของผู้หญิง ซึ่งก็คือ ‘ต้นโยนีปีศาจ’ หรือชาวบ้านจะเรียกว่า ‘ต้นมะกอกโคก’ ผลของต้นไม้ชนิดนี้เมื่อแก่จัดจะแตกออกจากกันเป็นสองส่วน ภายในจะมีลักษณะเหมือนอวัยวะเพศหญิง ซึ่งหากนำไปปั๊มบนดินเหนียวหรือทราย จะยิ่งเห็นชัดเจน
ต้นโยนีปีศาจนี้ ใน จ.ขอนแก่น พบแค่เพียงในพื้นที่ของหลุมขุดฟอสซิลไดโนเสาร์บนอุทยานแห่งชาติภูเวียงเท่านั้น เป็นพันธุ์ไม้พื้นเมือง เปลือกหนา ดูดอาหารเก่ง เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูงประมาณ 10-15 เมตร เมล็ดมีปีก ชอบขึ้นตามดินแถบภูเขา หาดูได้ยาก ด้วยลักษณะของผลเมื่อสุกเต็มที่จะมีขนาดประมาณ 5×3 เซนติเมตร ก่อนจะปริแตกออก
นายสุธรรม วงษ์จันทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเวียง กล่าวว่า ขณะนี้ทางอุทยานฯ ได้มีการขยายพันธุ์เพิ่ม เนื่องจากเป็นไม้พื้นถิ่นที่หายาก เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
ตำนานเรื่องเล่าที่เล่าต่อกันมามีอยู่ว่า ลูกชายเจ้าเมืองเขมร ชื่อว่า ‘ท้าวปาจิต’ ได้เดินทางเสาะแสวงหามเหสี จนกระทั่งพบ ‘นางอรพิม’ ซึ่งเป็นสาวชาวบ้าน เกิดหลงรักกัน โดยเท้าปาจิตได้พานางอรพิมเดินทางกลับนครธม
แต่ปรากฏว่าระหว่างทางเกิดการพลัดหลงกันในป่า นางอรพิมต้องเดินป่าคนเดียว ด้วยความเป็นผู้หญิง กลัวว่าจะโดนทำร้ายหรือมีโจรผู้ชายมาฉุดตัวไป จึงตั้งจิตอธิษฐานขอแปลงกายเป็นผู้ชาย และฝากหน้าอกไว้ที่ต้นงิ้วป่า และฝากอวัยวะเพศไว้ที่ต้นมะกอกโคก หรือโยนีปีศาจ
หลังจากนั้นนางอรพิมก็ออกเดินทางตามหาท้าวปาจิต ไปจนถึงเมืองจำปา และไปเจอธิดาของเจ้าเมืองจำปาถูกงูกัด จึงได้ทำการรักษาด้วยสมุนไพร เพราะจากประสบการณ์ที่หลงป่าจึงรู้จักสมุนไพรชนิดต่างๆ เป็นอย่างดี
พอรักษาธิดาเจ้าเมืองจำปาจนหายเป็นปกติ เจ้าเมืองจึงต้องการให้ทั้งคู่อภิเษกสมรสกัน แต่แม้ร่างกายจะเป็นผู้ชาย แต่นางอรพิมเป็นผู้หญิง จึงไม่สามารถอภิเษกสมรสกันได้ ก็พยายามบ่ายเบี่ยงและออกบวชอยู่ 7 ปี เพื่อไม่ให้เจ้าเมืองเกิดความไม่พอใจ
กระทั่งมาเจอท้าวปาจิตซึ่งออกตามหานางอรพิมเช่นกัน แต่ตอนที่เจอกันท้าวปาจิตจำนางอรพิมไม่ได้ เพราะรูปร่างเป็นผู้ชาย นางอรพิมจึงกลับมาที่ต้นงิ้วป่าและต้นมะกอกโคก อธิษฐานจิตขอหน้าอกและอวัยวะเพศคืนกลับ และให้ร่างกายกลับมาเป็นผู้หญิงตามเดิม และได้กลับมาครองคู่กับปาจิตอีกครั้ง ก่อนจะเดินทางกลับนครธม ครองเมืองด้วยกัน
ต้นโยนีปีศาจจะออกผลช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. จะออกผลเป็นพวงเต็มต้น พอเข้าช่วงหน้าแล้ง ผลของโยนีปีศาจจะแก่แห้งและแตกออก มีเมล็ดตกลงพื้นผลละ 2 เม็ด และเกิดตามธรรมชาติ
คนสมัยโบราณนั้นจะนำผลโยนีปีศาจมาเจาะรู และนำไปห้อยคอไว้กับเด็กๆ เป็นเครื่องรางของขลังป้องกันภูติผีปีศาจ และยังมีสรรพคุณเป็นยาเย็น ช่วยลดไข้ได้ โดยจะนำไปฝนเป็นผงรับประทานร่วมกับยาเย็นอื่นๆ
หากนักท่องเที่ยวอยากมาชมต้นไม้ที่แปลกทั้งชื่อและรูปร่าง สามารถเดินทางมาชมได้ที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง ซึ่งจะมีต้นโยนีปีศาจเกิดขึ้นตามธรรมชาติตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และยังเป็นพื้นที่หลุมขุดซากฟอสซิลไดโนเสาร์และสัตว์ดึกดำบรรพ์หลายสายพันธุ์อีกด้วย