จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติงานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนนทบุรี จำนวน 2 นายเข้าจับกุมชายต้องสงสัยค้ายาเสพติด ที่บริเวณซอยเรวดี 46 คอนโดโสสุนคร ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
มีคลิปขณะเข้าจับกุม เห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามกดตัว ผู้ต้องหาลงที่พื้น และมีการต่อสู้ขัดขืน มีจังหวะหนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ได้ใช้เท้าเตะที่บริเวณหน้าอก ของผู้ต้องหา ท่ามกลางสายตาชาวบ้านบริเวณดังกล่าว ที่ตะโกนร้องด่าทอ ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูเกินกว่าเหตุ
นอกจากนี้ยังมีคลิปที่เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจด่าทอกับประชาชน ที่อยู่โดยรอบที่เกิดเหตุด้วย และยังมีการนำกระบองออกมาขู่ชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย
คลิปวิดีโอดังกล่าว ทางญาติของผู้ต้องหาได้มาร้องกับสื่อ และญาติได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำไมถึงต้องจับกุมผู้ต้องหาด้วยความรุนแรงเกินกว่าเหตุ อยากให้ชุดจับกุมออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางครอบครัวยอมรับว่าผู้ต้องหาติดยาเสพติดจริง แต่เมื่อดูคลิปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาแล้ว รับไม่ได้กับเหตุการณ์นี้
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ดู คลิปวิดีโอจากกล้องติดหน้าอกของตำรวจ ในวันเกิดเหตุ ชุดสายตรวจลงตรวจพื้นที่ พบเด็กวัยรุ่น 2 คน กำลังรับซองบุหรี่จากชายคนหนึ่ง ซึ่งดูท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น ชายคนดังกล่าว พยายามขัดขืนไม่ยอมให้ตรวจค้น จนเจ้าหน้าที่ ค้นเจอยาเสพติดอยู่บริเวณเป้ากางเกง จากนั้นก็เกิดการขัดขืน ผู้ต้องหาพยายามจะโยนยาบ้าทิ้ง แต่ตำรวจพยายามจะควบคุมตัว และใส่กุญแจมือ ผู้ต้องหาก็ไม่ยอม จึงได้กดผู้ต้องหาลงกับพื้น แต่ผู้ต้องหาก็ยังดิ้น ไม่ยอมให้ใส่กุญแจมือ และเขวี้ยงยาเสพติดออกจากตัว จนมีช่วงจังหวะหนึ่ง ที่เจ้าหน้าที่ใช้เท้าเตะเข้าที่บริเวณลำตัวของผู้ต้องหา จากนั้นผู้ต้องหาจึงบอกว่ายอมแล้ว จึงสามารถใส่กุญแจมือได้ แต่ระหว่างนั้นผู้ต้องหาได้โยนยาเสพติดทิ้ง ซึ่งตกอยู่โดยรอบกว่า 20 เม็ด
ส.ต.ต.นัธทวัฒน์ ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ.นนทบุรี หนึ่งในคนที่เข้าไปจับกุม เปิดใจกับทีมข่าวว่า มีการใช้กำลังในการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจริง โดยตนได้พยายามทับร่าง และใส่กุญแจมือ แต่ผู้ต้องสงสัย ดิ้นไปมาไม่ยินยอม พยายามเขวี้ยงยาทิ้งและตะโกน บอกกับชาวบ้านว่าตำรวจยัดยา บัดดี้ของตนจึงต้องใช้ยุทธวิธีขั้นสูงสุดในการจับกุม โดยการใช้เท้าเตะที่ลำตัว เพื่อให้ผู้ต้องสงสัยจุกไม่มีแรงดิ้น ยอมให้ใส่กุญแจมือ
ยืนยันว่าการใช้เท้าเตะที่ลำตัวเป็นอีกวิธีที่พยายามหยุดการต่อสู้ โดยไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายผู้ต้องหา และแน่นอนว่าไม่ได้เตะที่ใบหน้า ภาพมุมสูงที่มีคนถ่ายไว้ กับคลิปวิดีโอของตน อาจมีมุมมองไม่เหมือนกัน
ส่วนที่มีการปะทะคารมกับชาวบ้านในพื้นที่ต้องบอกว่าสถานการณ์ตอนนั้นมีชาวบ้านมามุงดู รอบพื้นที่จำนวนมาก และมีชาวบ้านรายหนึ่ง พยายามจะขับขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าจุดเกิดเหตุซึ่งมียาบ้าตกอยู่เต็ม พื้นถนนบริเวณนั้น ทำให้มีการ ปะทะคารมกันเพราะตนต้องเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุก่อน สุดท้ายอยากจะบอกว่าหากคลิปดังกล่าว กลายเป็นกระแสดรามา หรือทำให้ทางญาติของผู้ต้องหา ไม่พอใจ มองว่าเป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้แต่สำหรับตน คิดว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ ไม่เช่นนั้น ก็ไม่สามารถจับคนร้ายได้ ผลที่ตามมาเจ้าหน้าที่อาจเป็นผู้สูญเสียเอง และยืนยันว่าสิ่งที่ปฏิบัติ เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ทุกประการ
ขณะที่ ผู้ต้องหา ที่ถูกจับกุมฐาน ครอบครองยาเสพติด 20 เม็ด บอกกับทีมข่าวว่า ก็ยอมรับว่าตนเอง มียาเสพติด 20 เม็ดซื้อมา 400 บาท ยืนยันว่าไม่ได้ขายซื้อมาเสพเท่านั้น และยอมรับว่าขัดขืนไม่ยอมให้จับ เพราะเป็นวิธีของคนที่มีสิ่งผิดกฎหมายติดตัวอยู่แล้ว ก็ต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้
แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ทำเกินกว่าเหตุ กดตัวตนลงพื้นจนหายใจไม่ออก ส่วนเรื่องเตะที่บริเวณใบหน้า ตามที่ญาติบอกนั้น ตนจำไม่ได้ว่าถูกเตะที่ใบหน้าหรือไม่เพราะมันชุลมุน แต่คาดว่าน่าจะไม่ใช่ เพราะไม่ได้เจ็บที่ใบหน้า ยอมรับว่าตะโกนว่าตำรวจยัดยา และที่ตะโกนก็เป็นวิธีการเอาตัวรอดของคนที่กระทำผิดอีกนั่นเอง
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา มียาเสพติดไว้ในครอบครอง ต่อสู้ขัดขวาง การจับกุมของเจ้าหน้าที่ และพบสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งมีโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ