พ่อค้าแม่ค้าโอด ไข่ไก่ราคาพุ่ง! ต้องแบกรับภาระต้นทุนเพิ่ม วอนรัฐหามาตรการช่วยเหลือ

จากกรณีที่ 4 สมาคมเครือข่ายสหกรณ์ไก่ไข่  ประกาศปรับขึ้นราคาไข่ไก่ อีกฟองละ 20 สตางค์  หรือปรับขึ้นแผงละ 6 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.68 สาเหตุเนื่องจากสภาพอากาศร้อนแม่ไก่ออกไข่ได้น้อย ประกอบกับมีการปลดไก่ยืนกรง ทำให้ไข่ไก่ไม่ล้นตลาด ราคาจะเป็นไปตามกลไกตลาด

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจตามร้านค้าปลีกและแผงจำหน่ายไข่ไก่ในตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์  พบว่า ไข่ไก่ทุกขนาดที่ร้านค้าปลีกรับซื้อมาจากฟาร์มและผู้ค้าส่ง มีการปรับขึ้นราคารวดเดียวเฉลี่ยแผงละ 9 – 15 บาท  จากกรณีดังกล่าวทำให้ร้านค้าปลีกและแผงที่รับมาขายต่อต้องแบกรับภาระต้นทุนสูงขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 20   ซึ่งแม่ค้าที่รับมาขายต่อก็จำเป็นต้องปรับราคาขายอีกแผงละ 5 – 10 บาท ตามกลไกตลาดและเพื่อความอยู่รอด เพราะหากไม่ปรับก็ต้องขาดทุน  

โดยไข่ไก่เบอร์ 0 อยู่ที่แผงละ 150 บาท ไข่ไก่เบอร์ 1 แผงละ 140 บาท เบอร์ 2 แผงละ 130 บาท เบอร์ 3 แผงละ 120 บาท  และเบอร์ 4 แผงละ 110 บาท   ซึ่งนอกจากไข่ไก่จะปรับราคาแพงขึ้นรวดเดียวเป็นประวัติการณ์แล้ว  ไข่ไก่บางไซซ์ยังขาดตลาดอีกด้วย

แม่ค้าขายปลีกไข่ไก่ในตลาดสดบอกว่า   รอบนี้ราคาไข่ไก่ที่ทางฟาร์มหรือผู้ค้าส่งได้ปรับขึ้นรวดเดียวแรงมากเฉลี่ยแผงละ 9 – 15 บาทแล้วแต่ขนาด  จากที่ผ่านมาจะค่อยๆ ขยับขึ้นแผงละ 3 – 6 บาท  แต่การปรับขึ้นราคาแต่ละครั้งก็ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า  แต่ถึงแม้จะปรับราคาขึ้นก็ยังจำเป็นต้องสั่งขายเพราะถ้าไม่สั่งก็ไม่มีอะไรขาย  ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าแม้จะได้รับผลกระทบต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20  แต่ก็ต้องยอมรับสภาพเพราะทำอะไรไม่ได้    สำหรับลูกค้าเองก็เข้าใจเพราะส่วนมากก็ติดตามข่าวอยู่แล้ว   แต่บางคนก็อาจจะซื้อไซซ์เล็กลง และปริมาณน้อยลงกว่าเดิม ทั้งนี้ยังคาดการณ์ว่าช่วงเปิดเทอมในเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้  ราคาไข่ไก่ก็จะปรับขึ้นอีก

ขณะที่ พ่อค้าขายอาหารตามสั่งก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า  ราคาไข่ไก่ที่แพงขึ้นก็กระทบกับพ่อค้าแม่ค้า  เพราะต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น   แต่ไม่สามารถปรับราคาอาหารตามสั่งขึ้นได้  เพราะเกรงจะกระทบซ้ำเติมลูกค้าในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจข้าวของราคาแพง   ช่วงนี้ก็ต้องขายราคาเดิมไปก่อนแม้กำไรจะน้อยลง  หากเป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาลหามาตรการควบคุมหรือช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าและผู้บริโภคด้วย