รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยเรื่องราวของ ‘พี่ศร’ ที่ถูกเมียทิ้ง หอบเงิน 4 แสน ทอง 4 บาท หนีไปหาชายคนใหม่ชื่อ ‘นายหำ’ ทิ้งแม่ของตัวเองที่ป่วยติดเตียงให้พี่ศรดูแล
พี่ศร เล่าว่า ตนเป็นเลิกกับภรรยาเก่า มีลูก 1 คน นำลูกไปฝากให้แม่เลี้ยง แล้วตัวเองก็เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ จนมาเจอกับ ‘ต่าย’ แต่ตอนนั้นต่ายก็มีสามีอยู่แล้ว มีลูก 2 คน ต่อมา ต่ายบอกว่าเลิกกับสามีแล้ว และคอยตามคอยคุยกับตนตลอด สุดท้ายตนจึงบอกว่า หากรักกันชอบกันก็จะพากันสร้าง มาอยู่เป็นครอบครัว โดยต่ายขอพาลูกทั้งสองมาอยู่ด้วย ตนก็รักเหมือนลูกตัวเอง ดูแลกันมาตั้งแต่ลูกสาวเขา 6 ขวบ ลูกชายเขาเพิ่ง 9 เดือน จนตอนนี้โตเป็นหนุ่มเป็นสาว ทำงานทำการแล้ว
ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติของชีวิตครอบครัว กระทั่งเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา แม่ของต่ายล้มป่วย ต่ายจึงกลับไปอยู่ดูแลแม่ ทำให้มีโอกาสพบเจอใกล้ชิดกับ ‘นายหรรม’ ตนเองก็รู้จักกับนายหรรม เพราะเป็นเขยน่านเหมือนกัน เป็นคน จ.อุบลฯ เหมือนกัน แต่ตอนหลังเขาเลิกกับเมีย และหย่ากันเมื่อช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา
ตนคาดว่าทั้งสองน่าจะเริ่มสานสัมพันธ์กัตอนที่มีงานรำวงที่วง โดยก่อนหน้านี้ตนเริ่มจับสังเกต เพราะเมียมักจะอ้างว่าขี่ จยย. ไม่เป็นไม่แข็ง เดี๋ยวให้นายหรรมช่วยพาไปรับยาให้แม่ ซึ่งตนก็เคยพูดเตือนว่าไม่เหมาะสม นายหรรมเขาโสด ส่วนต่ายมีครอบครัว ก็ต้องนึกถึงตนบ้าง แต่ก็มีแต่คนบอกว่าตนคิดมาก
กับนายหรรม พี่ศรบอกว่าเคยเคลียร์กัน นายหรรมก็ยืนยันว่าไม่มีอะไร เพราะรู้อยู่ว่าเป็นเมียเพื่อน ลูกสาวของต่ายก็เคยคุย ขอให้เขาหยุด ให้เห็นแก่ครอบครัว นายหรรมก็ปฏิเสธตลอด และทุกครั้งที่ลูกสาวทักไปหานายหรรม ต่ายจะโทรมาต่อว่าพี่ศรว่าทำไมต้องไปบอกลูก
วันหนึ่ง ตนจับได้ว่าต่ายไปเปิดโรงแรมนอนกับนายหรรม หาจ้างคนมาดูแลแม่ ด้วยความที่ตนรู้สึกผิดสังเกตอยู่แล้ว จึงบอกให้เข้าถ่ายรูปมาให้ดูว่าอยู่ที่ไหน เขาถ่ายมาแต่รูปเตียง ไม่ยอมบอกว่าโรงแรมชื่ออะไรอยู่ตรงไหน จากนั้นตนได้วิดีโอคอลหาต่าย พิรุธคือเขาจะไม่ค่อยมองหน้า จะมองแต่ข้างๆ แล้วไม่ยอมให้ดูมุมกว้าง จะเห็นแค่ช่วงใบหน้า
ระหว่างนั้นตนก็ได้คอลผ่านแมสเซ็นเจอร์ไปหานายหรรม ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังลั่น แล้วเขาก็รีบตัดสาย หลังจากนั้นตนก็ถามต่ายว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ต่ายกลับต่อว่าตนว่าก็เพราะเป็นแบบนี้ ชอบจับผิด แล้วอ้างว่าเปิดหน้าต่างตากผ้าไว้ เลยมีเสียงเข้ามา แต่ตนก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่
พี่ศรน้ำตาคลอ บอกว่า ตนรู้ตั้งแต่แรก แต่ก็ทนเก็บเรื่องไว้คนเดียวตั้งแต่ ก.พ. แต่ก็ยังอยู่กับเขา คนอื่นที่ไหนจะทนจะรับได้ถ้ารู้ว่าเมียไปคุยกับคนอื่น แต่ตนทนเพราะคิดถึงสิ่งที่ร่วมสร้างมาด้วยกัน จากวันที่ไม่มีอะไร อยู่บ้านหลังเล็กๆ ฝนตกก็น้ำรั่ว ช่วยกันทำมาจนมีทุกวันนี้ปลูกบ้านหลังใหม่ได้
หลังจากจับได้ว่าเขาไปโรงแรมด้วยกัน ตนพยายามถามชื่อโรงแรมอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ไม่ยอมบอก และมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด ตนก็ถามจนเขายอกมบอกชื่อโรงแรม แต่มีการพูดว่า จะไปหาหลักฐานหรอ โรงแรมเขาไม่ได้ให้ดูกล้องกันง่ายๆ เพราะเป็นความลับของลูกค้า
สุดท้ายตนไปดำเนินการต่างๆ จนได้หลักฐานเป็นภาพที่เขาทั้งสองขี่ จยย. เข้าไปด้วยกัน และออกมาในวันรุ่งขึ้น
แต่ตนก็ยังไม่พูดอะไร กลับบ้านไปพูดคุยกับเขาตามปกติ ก่อนกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ ก็ยังบอกให้เขาดูแลแม่ไปนะ แต่ระหว่างขับรถกลับกรุงเทพฯ ก็น้ำตาไหลมาตลอดทาง มันเจ็บ แต่ไม่พูด