รายการโหนกระแสวันนี้ 17 ตุลาคม 2568 พูดคุยกันต่อเป็นวันที่สอง กรณีดราม่าอู่ซ่อมรถหรูของคุณใหญ่ หลังจากเมื่อวานนี้ (16 ต.ค. 68) ได้มีการพูดคุยในประเด็นของคุณมอสและคุณเจีย คู่รักอินฟลูเอนเซอร์ ที่นำรถตู้ Toyota Alphard ไปซ่อมที่อู่ดังกล่าว แต่เกิดปัญหาเรื่องการรื้อรถโดยไม่แจ้ง, การใช้อะไหล่มือสองผสมกับของใหม่ และข้อพิพาทกับบริษัทประกัน ซึ่งการพูดคุยจบลงโดยยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน
โดยในวันนี้ นอกจากกรณีของคุณมอสและเจียแล้ว รายการได้เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากอู่ซ่อมรถแห่งนี้ ได้ร่วมพูดคุยถึงปัญหาที่แต่ละคนได้ประสบ โดยประเด็นหลักที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในวันนี้ คือเรื่องค่าเสียโอกาสและความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ต้องนำรถไปจอดทิ้งไว้ที่อู่นานเป็นปีๆ ทำให้ไม่มีรถใช้งาน และส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพ
ผู้เสียหายแต่ละรายได้เล่าถึงประสบการณ์ของตนเองในทำนองเดียวกันว่า หลังจากนำรถเข้าไปซ่อมที่อู่ของคุณใหญ่แล้ว ก็ไม่ได้รับการซ่อมแซมให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด หลายเคสถูกดองงานไว้นานข้ามปี เมื่อติดตามทวงถามก็มักจะได้รับการบ่ายเบี่ยง หรือให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้ต้องสูญเสียทั้งเวลาและโอกาสในการใช้รถยนต์เพื่อทำมาหากินหรือใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนและเสียหายเป็นอย่างมาก โดยผู้เสียหายต้องการเรียกร้องให้ทางอู่ชดใช้ค่าเสียหายในส่วนนี้ นอกเหนือจากปัญหาเรื่องคุณภาพการซ่อมและราคาที่สูงเกินจริง
โดยวันนี้ ก่อนเริ่มรายการ คุณใหญ่ เจ้าของอู่ บอกว่า ตั้งแต่มีเรื่อง ทางอู่ก็ได้รับผลกระทบอยู่ แต่วันนี้เราไม่พูดถึงเรื่องนั้น เรามาออกรายการเพื่อหาทางออกให้ลูกค้าทุกคน และมา "ขอโอกาส" ในการดำเนินกิจการอู่ต่อไปได้
เริ่มพูดคุยกับผู้เสียหายรายแรกใน EP.2 คือกรณีของคุณแม่นก เจ้าของรถยนต์ Mercedes-Benz ที่ได้นำรถเข้าซ่อมที่อู่ของคุณใหญ่ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 และเพิ่งซ่อมแล้วเสร็จไม่นาน แต่ปัจจุบันยังไม่ได้นำรถออกจากอู่ เนื่องจากคุณแม่นกได้เรียกร้องค่าเสียเวลาและค่าเสียโอกาสจากการไม่มีรถใช้เป็นเงินจำนวน 600,000 บาท ซึ่งทางอู่ไม่พร้อมที่จะจ่ายในจำนวนดังกล่าว
ทางด้านคุณใหญ่ เจ้าของอู่ ได้ชี้แจงว่า รถของคุณแม่นกได้เข้ามาที่อู่ในเดือนตุลาคม 2567 จริง แต่ขั้นตอนการอนุมัติซ่อมจากบริษัทประกันนั้นใช้เวลายาวนานถึง 5 เดือน กว่าจะได้รับการอนุมัติในเดือนมีนาคม 2568 ด้วยวงเงินค่าซ่อม 1.2 ล้านบาท
ปัญหาในเคสนี้มีความซับซ้อนเนื่องจากเป็นอู่นอกสัญญาประกันภัย ซึ่งตามขั้นตอนแล้วบริษัทประกันจะจ่ายเงินค่าซ่อม 1.2 ล้านบาทให้กับคุณแม่นกโดยตรง เพื่อให้คุณแม่นกนำเงินไปชำระค่าซ่อมกับทางอู่อีกทอดหนึ่ง แต่เนื่องจากความล่าช้าและปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้คุณแม่นกต้องเดินทางไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งที่สถานีตำรวจและ สคบ. จึงได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 600,000 บาท ซึ่งคุณใหญ่ยอมรับว่าต้องการช่วยเหลือและเยียวยาลูกค้า แต่เห็นว่าจำนวนเงินดังกล่าวสูงเกินไป
ในรายการ ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ชี้แจงว่า เงินประกันจำนวน 1.2 ล้านบาทนั้น เป็นเงินสำหรับค่าซ่อมรถเท่านั้น ไม่ได้รวมถึงค่าเสียเวลาหรือค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ซึ่งในส่วนนี้เป็นความรับผิดชอบโดยตรงระหว่างอู่กับลูกค้าที่จะต้องตกลงกันเอง
ขณะที่ทนายแก้วได้ให้ความเห็นทางกฎหมายว่า หากมีการประเมินค่าเสียเวลาตามจริงแล้ว จำนวนเงินไม่น่าจะสูงถึง 600,000 บาท จึงแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาไกล่เกลี่ยนอกรอบจะดีกว่า
ในที่สุด ทั้งสองฝ่ายก็สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ โดยคุณใหญ่ตกลงที่จะจ่ายเงินเยียวยาค่าเสียเวลาให้กับคุณแม่นกเป็นจำนวน 300,000 บาท ซึ่งทนายแก้วได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า เป็นจำนวนเงินที่เหมาะสมและค่อนข้างสูงแล้ว หากเรื่องไปถึงชั้นศาล คุณแม่นกอาจจะได้รับค่าชดเชยน้อยกว่านี้ ซึ่งคุณใหญ่ก็ยินดีที่จะจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อเป็นการเยียวยาให้กับลูกค้า
แต่จังหวะที่โบ๊ะบ๊ะในรายการ ที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ต่อเนื่องถึงวันนี้ ก็คือเวลาที่พี่หนุ่ม กรรชัย อุทานหรือตกใจอะไรต่างๆ คุณใหญ่ที่นั่งข้างๆ จะตกใจตาม เหมือนเป็นปฏิกริยาอัตโนมัติ และอุทานคำเดียวกันออกมาติดๆ กัน เหมือนเป็นเอคโค่ จนทำให้ทุกคนฮากันทั้งรายการ แม้แต่ทนายแก้วยังอดแซวไม่ได้ว่า “ผมว่าพี่แปลกๆ”
เคสต่อมาในรายการ เป็นกรณีของเจ้าของรถยนต์ BMW Series 5 ที่ประสบอุบัติเหตุจนรถได้รับความเสียหายอย่างหนัก และได้นำรถเข้าซ่อมที่อู่ของคุณใหญ่ โดยมีการตกลงกันว่า กันชนหน้าที่จะต้องเปลี่ยนใหม่นั้น ให้เปลี่ยนเป็นชุดแต่ง M5 แทน
อย่างไรก็ตาม เมื่อการซ่อมแล้วเสร็จ เจ้าของรถได้ปฏิเสธการรับรถ เนื่องจากคุณภาพงานไม่เป็นไปตามที่ตกลง โดยพบว่าชุดแต่งที่คุณใหญ่รับปากว่าจะทำได้ดีนั้น กลับติดตั้งได้ไม่สนิทพอดี และมีน็อตบางจุดที่ไม่ได้ใส่มาให้
ในส่วนของค่าซ่อมนั้น บริษัทประกันได้อนุมัติและจ่ายเงินให้แล้วเป็นจำนวน 700,000 บาท ซึ่งถือว่าในส่วนของประกันได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่เนื่องจากเจ้าของรถไม่มั่นใจในคุณภาพการซ่อม จึงได้ยื่นข้อเสนอว่า ต้องการให้ช่างจากศูนย์ BMW เข้ามาตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ และจะหาช่างผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาติดตั้งชุดแต่งเอง โดยให้ทางคุณใหญ่เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ซึ่งคุณใหญ่ได้ตกลงตามข้อเสนอดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "คุณโอ" ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของคุณใหญ่ ที่เคยรับปากกับเจ้าของรถว่าจะหาล้อแม็กแต่งมาให้ด้วย โดยอ้างว่าสามารถหาได้ในราคาที่อยู่ในงบประมาณ
ในประเด็นนี้ คุณใหญ่ชี้แจงว่าตนไม่เคยทราบเรื่องข้อตกลงเรื่องล้อแม็กที่คุณโอไปคุยกับลูกค้ามาก่อน แต่เพื่อที่จะให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี คุณใหญ่ได้เสนอทางออกว่าจะรับผิดชอบค่าล้อแม็กในส่วนของ 2 ล้อหน้าซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ และขอให้ทางเจ้าของรถช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนของ 2 ล้อหลังเอง ซึ่งข้อเสนอนี้ได้รับการยอมรับจากทั้งสองฝ่าย ทำให้เคสนี้สามารถหาข้อสรุปได้ในที่สุด
เคสถัดมาในรายการเป็นของคุณยอร์ช เจ้าของรถยนต์ Audi TTs ซึ่งได้นำรถไปซ่อมที่อู่ของคุณใหญ่ และได้ทำการตรวจรับและเซ็นรับรถไปเรียบร้อยแล้ว
คุณยอร์ชเล่าว่า ในขั้นตอนการรับรถนั้นก็มีปัญหาเกิดขึ้นก่อนแล้ว เนื่องจากพบว่าช่างของอู่ประกอบงานไม่เรียบร้อยและใส่อะไหล่มาไม่ครบ ทำให้ตนต้องสั่งให้มีการตรวจสอบและแก้ไขงานอีกครั้งก่อนที่จะยอมเซ็นรับรถ
แต่หลังจากที่นำรถออกมาใช้งาน ก็ยังพบปัญหาต่อเนื่อง โดยจำเป็นต้องนำรถไปยกเกียร์ใหม่และจัดทรงตัวถังใหม่ทั้งหมด จากปัญหาที่เกิดขึ้นภายหลังนี้ คุณยอร์ชจึงได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท ซึ่งในท้ายที่สุด คุณใหญ่ก็ได้ยอมตกลงที่จะชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวให้ตามที่เรียกร้อง
เคสต่อมาเป็นของคุณฝ้าย ซึ่งเป็นเจ้าของรถที่รอรับรถมานานกว่า 5 เดือนแล้วแต่ยังไม่ได้รับรถคืน โดยทางอู่ของคุณใหญ่ได้อ้างว่าเกิดปัญหาติดขัดกับทางบริษัทประกัน แต่เมื่อคุณฝ้ายได้ตรวจสอบกับทางประกันโดยตรง กลับได้รับข้อมูลว่าทางประกันได้อนุมัติการเบิกจ่ายค่าอะไหล่ต่างๆ เป็นของใหม่มือหนึ่งให้ทั้งหมดแล้ว ทำให้คุณฝ้ายเกิดความกังวลว่าทางอู่จะนำอะไหล่ที่ได้มาตรฐานมาติดตั้งให้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม เคสของคุณฝ้ายกลับจบลงอย่างราบรื่นและรวดเร็ว โดยคุณใหญ่ได้เปลี่ยนท่าทีมาพูดคุยอย่างอ่อนหวาน และรับปากว่าคุณฝ้ายสามารถเข้ามารับรถได้ทันทีในวันนี้ และสามารถนำรถไปตรวจสอบมาตรฐานได้จนกว่าจะพอใจ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ยังต้องเคลียร์กับทางบริษัทประกันนั้น คุณใหญ่จะเป็นผู้รับผิดชอบจัดการด้วยตนเองทั้งหมด
เหตุการณ์ในช่วงนี้ทำเอาคุณหนุ่ม กรรชัย ผู้ดำเนินรายการ อดไม่ได้ที่จะแซวคุณใหญ่ว่า พอเป็นลูกค้าสาวสวยแล้วกลับพูดคุยตกลงได้ง่ายดายผิดกับเคสก่อนหน้านี้ที่มีการต่อรองอย่างหนัก พร้อมกับบอกให้คุณใหญ่หันไปมองหน้าภรรยาของตนที่นั่งดูอยู่ข้างหลังด้วย
เคสต่อมาเป็นของคุณจีจี้ เจ้าของรถ Tesla Model 3 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ประสบอุบัติเหตุจนรถเสียหายหนักและไม่มีประกัน คุณจีจี้เล่าว่าเธอรู้จักอู่ของคุณใหญ่ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งคุณใหญ่ได้ทำคลิปวิดีโอและระบุว่ารถคันนี้สามารถซ่อมให้จบได้ในราคา 600,000 บาท แต่เมื่อนำรถเข้าไปประเมินราคาจริง ทางอู่กลับแจ้งว่าราคา 600,000 บาทไม่สามารถทำได้ และค่าซ่อมจะอยู่ที่ 1 ล้านบาท
หลังจากตกลงทำสัญญาและจ่ายเงินงวดแรกไปแล้ว 580,000 บาท รถของคุณจีจี้ก็ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม เมื่อเข้าไปดูสภาพรถก็ต้องตกใจ เพราะพบว่ารถถูกรื้อถอดชิ้นส่วนออกไปจนหมดทั้งคัน เหลือเพียงโครงรถเปล่าๆ ซึ่งสร้างความตกใจให้กับทุกคนที่เห็นภาพ
ด้วยเหตุนี้ คุณจีจี้จึงไม่ต้องการให้คุณใหญ่ซ่อมรถต่อแล้ว และต้องการขอเงินที่จ่ายไปคืนทั้งหมด รวมถึงขอรถคืนพร้อมอะไหล่ที่ถูกถอดออกไป ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหนบ้าง โดยคุณจีจี้ยืนยันว่าไม่อยากเสียเวลาไปฟ้องร้อง ต้องการเพียงแค่ให้คุณใหญ่คืนเงินและรถเท่านั้น
ทางด้านคุณใหญ่ได้ชี้แจงว่า ได้สั่งซื้ออะไหล่สำหรับรถของคุณจีจี้มาครบทั้งหมดแล้ว และพร้อมที่จะดำเนินการซ่อมให้แล้วเสร็จตามสัญญา แต่หากลูกค้าต้องการยกเลิกสัญญาและขอรถคืน คุณใหญ่ก็ยืนยันว่าจะไม่ขอเจรจาด้วย และท้าให้คุณจีจี้ไปดำเนินการฟ้องร้องเอาเอง เนื่องจากทางอู่ได้รับความเสียหายจากการสั่งซื้ออะไหล่มาทั้งหมดแล้ว หากไม่สามารถตกลงกันได้ ก็ต้องไปว่ากันตามกระบวนการทางกฎหมาย
ในช่วงท้ายของรายการ การพูดคุยก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ทั้งหมด เนื่องจากยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่รอการเยียวยาและความรับผิดชอบจากคุณใหญ่
ในมุมมองของคุณใหญ่ เขามองว่าแต่ละกรณีมีความแตกต่างกัน เคสใดที่ตนเองผิดจริง เขาก็ยอมรับผิดและพร้อมรับผิดชอบให้ทั้งหมด แต่ในบางเคสที่ได้มีการซ่อมแซมและทำสัญญากันไปแล้ว เขาก็มองว่าการมาเรียกร้องเพิ่มเติมนั้นไม่มีเหตุผล คุณใหญ่รู้สึกว่ามีผู้เสียหายบางรายออกมาเคลื่อนไหวผสมโรงไปกับกระแส โดยไม่ได้คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทางอู่ของตนเช่นกัน
คุณใหญ่ได้กล่าวสรุปในตอนท้ายรายการว่า สำหรับทุกเคสที่ได้มีการเจรจาและหาข้อสรุปกันในรายการ ตนจะทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้ทุกราย และยืนยันว่ามาออกรายการเพื่อให้เกียรติทุกคน เคสไหนที่สามารถเยียวยาดูแลได้และมีเหตุผล เขาก็พร้อมจะเยียวยาทั้งหมด แต่หากเป็นเคสที่เขามองว่าตนเองไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แต่กลับถูกเรียกร้องโดยไม่มีเหตุอันควร เขาก็จะขอให้เรื่องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป