พลทหารรายหนึ่งเข้าร้องเรียนเพจ “สายไหมต้องรอด” หลังถูกผู้บังคับบัญชาในสังกัดกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี บังคับให้ขับรถส่งอาหารวันละเกือบ 20 ชั่วโมง โดยตั้งเป้าต้องทำรายได้วันละ 3,000 บาท แต่ให้ค่าตอบแทนเพียง 10% พร้อมขู่หากไม่ทำตามจะไม่อนุญาตให้ลากลับบ้าน และยังมีการข่มขู่ไปถึงครอบครัว
พลทหารคนดังกล่าวเปิดเผยว่า ตนเข้ารับราชการทหารเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 และเริ่มฝึกตามปกติ จนกระทั่ง 2 เดือนต่อมา นายในค่ายได้สอบถามว่าใครขับรถยนต์ได้บ้าง ตนจึงรับอาสาไปช่วยงาน คิดว่าเป็นงานภายในหน่วย แต่กลับถูกชักชวนให้ไปขับรถผ่านแอปฯ รับส่งผู้โดยสาร โดยนายเสนอว่าจะให้ส่วนแบ่ง 10% จากรายได้ และจะสรุปยอดทุก 10 วัน
ช่วงแรก ขับอยู่ในจังหวัดอุดรธานี ได้รายวันราว 1,000 บาท ต่อมานายแจ้งว่าอยากให้ย้ายมาทำงานที่กรุงเทพฯ เพราะรายได้มากกว่า โดยเริ่มงานในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา นายตั้งเป้าต้องทำยอดวันละ 3,000 บาท ซึ่งทำให้ต้องทำงานตั้งแต่ตี 3 ถึงเที่ยงคืน วันละ 20 ชั่วโมง หากทำยอดไม่ได้ก็จะถูกตำหนิและข่มขู่ว่าจะไม่ให้ลากลับบ้าน พร้อมทั้งจะเช็กชื่อทุกวัน และยังข่มขู่ถึงครอบครัวอีกด้วย
ทหารเกณฑ์รายนี้ระบุว่า ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งค่ากินอยู่ โดยที่ยังคงมีเงินเดือนเพียง 8,000 บาท จึงต้องหารายได้เสริมเพื่อดูแลลูก แต่เมื่อทนไม่ไหวจากความเครียดและความเหนื่อยล้า จึงตัดสินใจร้องเรียน เพราะกังวลว่าหากกลับเข้าค่ายเดิม อาจถูกกลั่นแกล้งหรือลงโทษ
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ “สายไหมต้องรอด” เปิดเผยว่า ได้ประสานกับโฆษกกองทัพอากาศ และพูดคุยกับผู้บังคับการกองบิน 23 ซึ่งยืนยันว่า นายทหารผู้เกี่ยวข้องมียศนาวาอากาศตรี และดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการกองพัน ขณะนี้ถูกสั่งย้ายออกจากตำแหน่งแล้ว และมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
นายเอกภพยังระบุเพิ่มเติมว่า หากทหารนายใดถูกกระทำไม่เป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา สามารถแจ้งเรื่องผ่านตนได้ เพื่อประสานต้นสังกัดให้เกิดความยุติธรรมและความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่