ผู้เสียหายชื่อ นายเอ(นามสมมติ) นำหลักฐาน เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุการณ์ ที่แม่บ้านคนหนึ่งทำร้ายร่างกายหญิงชราอายุ 83 ปี ในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูป ด้วยการตีไปที่ตัวของหญิงชราหลายครั้ง ขณะที่ตอนพลิกตัว หญิงชราก็พลิกตัวอย่างแรง และมีการสะบัดแขนหญิงชรา โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา
นายเอ ลูกเขยของหญิงชราในคลิป นำภาพหลักฐานมาขอความช่วยเหลือ กับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
โดย แม่บ้านรายนี้ เข้ามาทำงานที่บ้านเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากแม่บ้านคนเก่าลาออก ตอนแรกเท่าที่คุยรู้สึกว่าแม่บ้านคนนี้ น่าจะดูแลแม่ยายของตนได้ดี เพราะตัวแม่บ้านก็มีแม่ที่สูงอายุด้วย ตนจึงเชื่อว่าน่าจะรู้ใจคนสูงอายุได้เป็นอย่างดี
โดยตนได้ให้ค่าจ้างวันละ 500 บาท ทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึง 1 ทุ่ม หยุดวันเสาร์และอาทิตย์ และให้กินอยู่ที่บ้านของตนอีกด้วย เพราะตนถือว่าเมื่อมาดูแลแม่ยายของตนก็คือคนในครอบครัว
จนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ตนกลับมาที่บ้านก็พบความผิดปกติ เมื่อพบว่าที่แขนของแม่ยายมีรอยเขียวช้ำและฟันหน้าหัก เมื่อตนถามแม่บ้าน ก็ได้รับคำตอบว่าแม่ยายของตนนอนกัดฟันจนฟันหักเอง ซึ่งตอนนั้นแม่บ้านอ้างว่าไม่เห็นเหตุการณ์เพราะไปซักผ้า
แต่ตนเริ่มเอะใจและเชื่อว่าแม่บ้านโกหก เพราะตอนเช้าก่อนไปทำงานตนแปรงฟันให้แม่ยายก็พบว่าฟันแม่ยายยังแข็งแรงไม่ได้โยก จะหักได้อย่างไร และเมื่อไปดูเสื้อผ้าก็พบว่ายังไม่มีการซักอย่างที่แม่บ้านกล่าวอ้าง
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ตนออกจากบ้าน จึงเริ่มจับตาดูพฤติกรรมของแม่บ้านผ่านกล้อง
วงจรปิดที่เชื่อมกับโทรศัพท์มือถือ ก็พบว่าแม่บ้านทำร้ายร่างกายแม่ยายของตน ซึ่งตนได้บันทึกวีดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐานเรื่อยมา โดยที่ไม่บอกให้แม่บ้านรู้
จนวันที่ 5 กรกฏาคม ตนได้เรียกแม่บ้านมาคุย และถามว่าเคยทำร้ายแม่ยายตนบ้างหรือไม่ ซึ่งตอนแรกแม่บ้านยืนกรานว่าไม่ได้ทำ แต่เมื่อตนเอาคลิปจากกล้องวงจรปิดให้ดู แม่บ้านก็จำนนด้วยหลักฐาน และรับสารภาพว่าตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่ดูแลแม่ยายของตนได้ทำร้ายร่างกายแม่ยายของตนประมาณ 30 ครั้ง
โดยตอนแรกตนได้พาแม่บ้านรายนี้ไปแจ้งความที่ สน.มีนบุรี แต่ระหว่างทางแม่บ้านบอกว่าอยากมากราบขอขมาแม่ยายของตน ตนจึงพากลับมาที่บ้านแต่เมื่อมาถึงแม่บ้านได้พูดขอโทษแม่ยายของตน แต่ตนฟังน้ำเสียงแล้วเหมือนไม่เต็มใจ และก็ไม่ได้กราบเท้าขอโทษอย่างที่บอก จนพี่ชายของตนต้องทวงถามว่าจะกราบเท้าแม่ยายตนหรือไม่ แม่บ้านจึงยอมกราบแต่ก็เหมือนไม่เต็มใจอีก ซึ่งตนตั้งใจว่าวันนั้นยังไงก็จะแจ้งความดำเนินคดีให้ได้ แต่ภรรยาของตนร้องขอไว้ เพราะอยากให้โอกาสแม่บ้านและไม่อยากเป็นคดีความ ตนจึงไม่ได้แจ้งความตั้งแต่วันนั้น
จนกระทั่งวันนี้ตนคิดได้ว่าหากไม่ดำเนินการตามกฎหมาย แม่บ้านรายนี้ก็จะไม่สำนึกและอาจจะไปทำแบบนี้กับครอบครัวคนอื่นอีก
ล่าสุดนายเอกภพ ได้พาคุณเอ ไปแจ้งความที่ สน.มีนบุรี โดยคุณเอ ยืนยันว่าต้องการที่จะดำเนินคดีกับแม่บ้านรายนี้ให้ถึงที่สุด ขณะที่คุณนายเอกภพ บอกว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่หากปล่อยไปโดยไม่มีการดำเนินคดี ก็จะทำให้แม่บ้านรายนี้ไปก่อเหตุซ้ำ
ขณะที่ทีมข่าวโทรศัพท์ไปหาแม่บ้านรายนี้ เพื่อจะสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเมื่อทีมข่าวถามว่าได้มีการทำร้ายร่างกายหญิงชราอายุ 83 ปีจริงหรือไม่ หญิงรายนี้ไม่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น ทีมข่าวจึงโทรศัพท์ไปหาอีกหลายครั้งแต่คราวนี้ไม่ยอมรับสาย
ที่มา : เที่ยงวันทันเหตุการณ์
#แม่บ้าน #ทำร้ายคนแก่ #ทุบตีคนแก่ #โหนกระแส