รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกันต่อ กรณีข่าวคราวในวงการพระสงฆ์ หลังจากเรื่องราวของสีกากอล์ฟ เป็นข่าวดังมาตลอด 2 สัปดาห์ ก่อนจะเกิดเรื่องใหม่ กรณี เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ และล่าสุด ยังมีเรื่องใหม่ เรื่องที่ นายสนธิญา สวัสดี ออกมาร้องเรียน ให้ตำรวจนครบาล ตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบ กรณีที่บุคคลทั่วไปออกมาโพสต์ข้อความอะไรบางอย่าง พาดพิงพระที่ไม่เกี่ยวข้อง หรืออาจทำให้เกิดความเสียหายต่อพระพุทธศาสนา รวมทั้ง ร้องให้มีการตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจสอบสวนกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ที่ออกมาให้ข่าว โฆษณา ต่างๆ ที่อาจกระทบต่อศรัทธาของชาวพุทธ โดยให้ตรวจสอบว่า การกระทำต่างๆ ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่
ขณะที่ อ.ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา ที่มาร่วมในรายการวันนี้ บอกว่ามองต่างในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่คุณสนธิญา ออกมาร้องเรียน ด้วยเหตุผลว่า พยายามจะปกป้องสถาบันศาสนา แต่คนที่ก่อเรื่องก็คือคนในสถาบันศาสนาไม่ใช่หรือ แล้วการที่ตำรวจเขาจะตอบคำถาม จะให้ข่าวยังไง มันก็เป็นยุทธวิธีของเขาไม่ใช่หรือ การที่ออกมาแย้ม มาแง้ม ข้อมูลต่างๆ ก็อาจจะทำให้ “พระที่เป็นวัวสันหลังหวะ” ร้อนตัว และรีบออกมาแสดงตัว มันก็อาจจะเป็นวิธีทำงานไม่ใช่หรือ อ.ตฤณห์ย้ำว่า ทุกฝ่ายมีสิทธิ์ได้ออกความเห็น จะเห็นด้วย เห็นต่าง เป็นปกติ คุณสนธิญาจะเห็นต่างก็ย่อมได้ แต่เมื่อวันนี้มันมีปัญหา ถ้าไฟไม่ส่อง สังคมไม่เห็น มันจะแก้ได้หรือ
สนธิญาโต้ว่า ไฟส่องได้ ก็ต่อเมื่อมีการฟันธงแล้วว่าผิดจริง พิสูจน์แล้วว่าผิดจริง ถึงวันนั้นจะเอาไฟส่อง จะแถลงใหญ่โต ก็ย่อมได้ แต่วันนี้มันเหมือนเป็นการเอาการประชาสัมพันธ์นำการสืบสวนสอบสวน และมันจะนำไปสู่การสูญสิ้นศรัทธาของชาวพุทธ ส่งผลไปถึงวัดเล็กๆ วัดที่มีพระไม่กี่รูป พระที่ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่วันนี้ไม่มีคนทำบุญ ไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟในวัด
ขณะที่ อ.ตฤณห์ โต้ว่า พระสงฆ์เป็นกลุ่มที่ได้อภิสิทธิ์มากมายในสังคม ได้รับการยกเว้นอะไรหลายอย่าง ทั้งเรื่องภาษี เรื่องตั๋วเครื่องบิน เรื่องอะไรต่างๆ ได้รับการยกเว้น และการได้อภิสิทธิ์เหล่านี้ ส่งผลให้พระหลายรูป ฉวยโอกาสทำชั่ว ทำเลว ไม่ว่าจะผิดศีลธรรม หรือผิดกฎหมาย มันก็คือการทำเลวทั้งนั้น จะบอกว่าการทำเลวของส่วนน้อย อย่าไปพูดถึง เพื่อไม่ให้กระทบพระดี มันเป็นตรรกะที่ถูกต้องหรือ
ขณะที่แพรรี่ เสริมว่า ถ้าพระที่ทำผิดเป็นพระลูกวัดทั่วไป มันก็เหมือนกรณีที่ผ่านๆมา คนเขาคงไม่ออกมากันขนาดนี้ แต่กรณีที่พระที่เป็นข่าวตอนนี้ เป็นพระระดับปกครอง พระระดับเจ้าคณะ บวชมานาน ศึกษามานาน ยังทำผิดแบบนี้ คำถามคือจะไม่ให้สังคมตั้งคำถามได้อย่างไร แล้วที่บอกว่ามีพระดีๆเยอะแยะมากมาย แต่ถ้าพระดีๆ ที่ว่า อยู่ภายใต้การปกครองของพระผู้ใหญ่ที่ไม่ดี เขาจะกล้าโต้แย้ง หรือกล้าตักเตือนไหม ในเมื่อคนที่ทำมีอำนาจใหญ่โต
ช่วงท้ายรายการ สนธิญา บอกว่า เวลาที่ตนออกมาเคลื่อนไหว ร้องเรียนอะไรแบบนี้ คนก็มักจะครหากันว่า ตนได้รับเงินจากคนนั้นคนนี้ให้ออกมาทำ ต้องเรียนด้วยความสุจริตใจ ที่ผ่านมาทั้งหมด ตนทำด้วยใจ ไม่เคยรับเงินใครมา ไม่ได้แสวงหาแสงใส่ตัว เวลาตนมีแสง ก็โดนด่าเยอะมากอยู่แล้ว
ถามว่า ไม่ทำได้ไหม สนธิญาบอกว่า ถ้าตนไม่ทำ ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครทำ สิ่งที่ตนต้องออกมา เพราะบรรดานักวิชาการทั้งหลายที่ออกมาพูดปาวๆ เขาไม่ทำอะไรเลย ตนต้องทำ ตนพูดแล้ว ทำจริง ยื่นจริงเวลาโดนคดีก็โดนจริง เพิ่งจะรอดมาได้ 17 คดี กราบเรียนอีกครั้งว่า ตนทำสิ่งเหล่านี้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2550 ผ่านมา 18 ปีก็ยังทำอยู่ เรื่องไหนที่ไม่มีปัญหาตนก็จะไม่ยุ่ง แต่เรื่องไหนที่เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ ไม่สบายใจ ตนต้องเข้าไปทำ