ครอบครัวหวังเกิดปาฏิหาริย์ ลุงเจาะน้ำบาดาลฮีโรถ้ำหลวง หลังประสบอุบัติเหตุจนป่วยติดเตียงมานานเกือบ 5 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.บ้านสหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ภรรยาและลูกสาวคอยดูแลนายสุรทิน ชัยชมภู อายุ 59 ปี หนึ่งในฮีโรจิตอาสาผู้อยู่เบื้องหลังภารกิจช่วยเหลือ 13 หมูป่า ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อปี 2561 อย่างใกล้ชิดหลังประสบอุบัติเหตุจนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มานานเกือบ 5 เดือน

แม้จะเป็นเรื่องยากลำบากกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่นายสุรทินและทุกคนในครอบครัวก็พร้อมที่จะสู้กันต่อไปด้วยความหวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นในสักวันหนึ่ง โดยหนึ่งในกำลังใจของนายสุรทินก็คือรถบรรทุกและอุปกรณ์ขุดเจาะน้ำบาดาลที่นำไปใช้ในภารกิจถ้ำหลวง วันนี้ยังคงจอดเก็บรักษาไว้ที่บริเวณหน้าบ้านพร้อมกับประดับด้วยธงชาติไทย เป็นสิ่งระลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นให้มีกำลังใจสู้กับความเจ็บป่วย

ในทุก ๆ วันภรรยาและลูก ๆ จะคอยดูแลป้อนอาหารและทำกายภาพให้วันละ 3 ครั้ง และต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนายสุรทินไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ โดยอาการล่าสุดเริ่มดีขึ้นมาบ้างเล็กน้อย เริ่มพูดจาสื่อสารได้หลังจากก่อนหน้านี้พูดไม่ได้มาหลายเดือน

นายสุรทิน ส่งกำลังใจให้กับมิสเตอร์เวิร์น หรือ เวอร์นอน แฮร์รี่ อันสเวิร์ธ  นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษหนึ่งในฮีโรถ้ำหลวงที่ทราบว่าป่วยปอดอักเสบ บอกว่า ขอให้หายป่วยไว ๆ และหากอาการของตนเองดีขึ้นจะไปเยี่ยมด้วยตัวเอง นอกจากนี้ก็อยากไปเยี่ยม ริค สแตน และ จอห์น โวลันเธน สองนักดำน้ำในถ้ำที่ร่วมในภารกิจกู้ภัยถ้ำหลวง ซึ่งตนเองเป็นหนี้บุญคุณเขาทั้งสองคนที่ได้ช่วยเหลือตนเองและลูกชายออกมาจากถ้ำ หลังจากติดอยู่ในโถง 3 ในระหว่างภารกิจช่วยเหลือ หากไม่ได้ทั้งสองมาช่วยคงไม่มีชีวิตอยู่ถึงวันนี้  

ขณะที่ ภรรยาของนายสุรทิน เปิดเผยว่า ครอบครัวประกอบธุรกิจเจาะน้ำบาดาลและระบบจัดการน้ำใต้ดิน โดยมีนายสุรทินเป็นเสาหลัก จนกระทั่งประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มที่ อ.บ้านตาก ต.ตาก วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 จนทำให้กระดูกคอหักและเส้นประสาทบริเวณต้นคอขาด แพทย์ให้การรักษาอย่างเต็มความสามารถได้เพียงเท่านี้ ที่เหลืออยู่ด้วยความหวัง

ทุกวันนี้ธุรกิจครอบครัวรายได้หายไปกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ จากการล้มป่วยที่ไม่มีใครคาดคิด ขณะที่ก่อนหน้านี้ต้องขายรถบรรทุกไปแล้ว 3 คัน เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในการผ่าตัดรักษาและการรักษาตัวแบบประคับประคอง ขณะที่ทุกเดือนต้องพานายสุรทินไปโรงพยาบาล การใช้บริการรถทางการแพทย์ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย หากจะอุ้มขึ้นรถไปกันเองก็เป็นไปอย่างยากลำบากเพราะที่บ้านมีผู้หญิงกับเด็ก หากได้รับการสนับสนุนเตียงผู้ป่วยและเก้าอี้รถเข็นระบบไฟฟ้าก็จะช่วยให้การดูแลและการเคลื่อนย้ายสะดวกขึ้น

ภรรยาของนายสุรทิน บอกด้วยว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ทางครอบครัวได้ถวายฎีกาของทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ในการรักษาพยาบาล เนื่องจากทางครอบครัวขาดรายได้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณา โดยวันนี้ทุกคนยังมีความหวังว่าสักวันหนึ่งอาการจะดีขึ้น แต่หากไปต่อไม่ได้ ก็ขอให้เขาได้จากไปอย่างมีศักดิ์ศรี

สำหรับนายสุรทิน ชัยชมภู มีความเชี่ยวชาญในการเจาะน้ำบาดาลกว่า 30 ปี เป็นที่รู้จักในแวดวงผู้ประกอบการด้านทรัพยากรน้ำในภาคเหนือและเคยเป็นอดีตนายกสมาคมน้ำบาดาลไทย ด้วยจิตอาสาและประสบการณ์ภาคสนามที่สั่งสมมานาน ทำให้นายสุรทินและทีมงานไม่ลังเลที่จะมุ่งหน้าสู่ถ้ำหลวงในวันที่ทุกชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย

ในภารกิจถ้ำหลวง นายสุรทินมองว่าการสูบน้ำออกจากถ้ำเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด จึงนำอุปกรณ์เครื่องมือพร้อมทีมช่างเจาะน้ำบาดาลจากสมาคมน้ำบาดาลไทย เข้าปฏิบัติภารกิจรอบพื้นที่ถ้ำหลวง โดยใช้เครื่องเจาะความลึกกว่า 100 เมตร เพื่อเปิดช่องให้น้ำไหลลงสู่ชั้นใต้ดินแทนที่จะซึมเข้าสู่โพรงถ้ำ การทำงานดำเนินต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืนท่ามกลางฝนที่ตกไม่หยุด โดยบอกว่า “ผมไม่อยากได้เงินรางวัล ขอรางวัลเป็นเด็ก 13 คนก็พอ ขอให้ทุกคนกลับออกมาอย่างปลอดภัย” คำพูดนี้ถูกแชร์ทั่วโซเชียลในช่วงเวลานั้นและกลายเป็นตำนานจนถึงวันนี้

วันที่ 10 กรกฎาคม 2561 ภารกิจช่วยชีวิตทีมหมูป่าทั้ง 13 คนประสบความสำเร็จ เด็กทุกคนรอดชีวิตกลายเป็นข่าวดังระดับโลก ขณะที่นายสุรทินและทีมงานได้รับการยกย่องจากหลายหน่วยงานในฐานะวีรบุรุษเบื้องหลังของภารกิจถ้ำหลวง