พลทหารอากาศ อายุ 25 ปี แอบหนีออกมาจากค่าย เพื่อเข้าขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากถูกจ่าเอกทำร้ายร่างกาย โดยเล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา กองร้อยของตนมีการตรวจสารเสพติดพลทหารทุกนาย ซึ่งมีจ่าเอกคนหนึ่งนำที่ตรวจสารเสพติดมาให้ตนตรวจ ปรากฏว่าขึ้นเป็นรอยจาง จ่าเอกให้ตนตรวจอีกครั้งก็ยังขึ้นรอยจางอีก
จ่าเอกจึงถามตนว่าเสพกัญชามาหรือไม่ ซึ่งตนก็ได้ตอบปฏิเสธ พร้อมกับสาบานว่าหากตนเสพสารเสพติดจริงก็ให้กระทืบตนได้เลย พร้อมกับขออนุญาตออกไปตรวจสารเสพติดที่ รพ. ข้างนอก โดยตนได้ข้อมูลมาว่า ที่ตรวจสารเสพติดหมดอายุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 เดือน จึงทำให้ผลตรวจออกมาคลาดเคลื่อนได้
จากนั้น จ่าเอกคนดังกล่าวไม่พอใจ จึงสั่งให้ตนหมอบและกระทืบมาที่กลางหลังตน 2 ครั้ง ลากตนไปที่หลังกองร้อยพร้อมกับกระทืบที่ชายโครงอีก 5-6 ครั้ง เตะที่หน้าอีก 1 ครั้ง จนทำให้ตนต้องรีบวิ่งหนีไปฟ้องผู้บังคับการกองร้อย ซึ่งผู้บังคับการกองร้อยก็ได้อนุญาตให้ตนไปทำการตรวจหาสารเสพติดที่ รพ. ซึ่งผลออกมาเป็นลบ แต่จ่าเอกคนดังกล่าวก็ไม่มีการมาขอโทษตนแต่อย่างใด พร้อมกับท้าทายให้ตนมาร้องเรียนที่เพจสายไหมต้องรอด
วันรุ่งขึ้น ตนรู้สึกปวดระบมไปทั้งตัว จึงได้ขออนุญาตไปทำการตรวจร่างกายที่ รพ. อีกครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตรวจร่างกาย ก็มีจ่าเอกอีกคนนึงเดินเข้ามาบอกตนว่า ให้แจ้งแพทย์ไปว่าเกิดอุบัติเหตุรถล้ม พร้อมกับบอกว่าให้กลับไปคุยกันที่กองร้อย และตรวจร่างกายที่ รพ. ในกองร้อย ซึ่งตนก็เชื่อและยอมกลับไป แต่ปรากฏว่าพอกลับไปถึงก็ไม่มีการพาไปตรวจร่างกายแต่อย่างใด อีกทั้งตนยังถูกคนคอยสะกดรอยตามทุกฝีก้าว
การออกมาร้องเรียนในวันนี้ ตนต้องแอบหนีออกมาจากกองร้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา เพราะรู้สึกว่าถ้าหากไม่ออกมาร้องเรียน ตนจะเป็นอันตรายไปมากกว่านี้ เพราะยังเหลือเวลาอีก 4 เดือน ถึงจะปลดประจำการ
พร้อมกับฝากบอกไปยังพลทหารเกณฑ์ทั่วประเทศด้วยว่า ถ้าหากเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่าไปยอมถูกกดขี่ เพราะคนเรามีมือ มีเท้า มีปาก เหมือนกัน และยังฝากไปถึงครูฝึกที่ชอบทำร้ายร่างกายพลทหารด้วยว่า ถ้าหากเป็นลูกหลานตัวเองโดนทำร้ายจะรู้สึกอย่างไร
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เปิดเผยว่า หลังจากนี้ตนจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง พร้อมกับพาไปตรวจร่างกายที่ รพ. แล้วจะประสานไปยังผู้บังคับบัญชาทหารอากาศให้ลงมาตรวจสอบ เพราะไม่ว่าจะเป็นพลทหารหรือมียศ ก็ถือเป็นคนเท่ากัน มีเกียรติและมีศักดิ์ศรีเท่ากัน ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำร้ายร่างกายบุคคลอื่น
ที่มา : ch3