มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

‘ทนายโนบิ’ พาเมียหลวงขอความเป็นธรรม หลังจับได้ว่าสามีที่เป็นผู้ใหญ่บ้านมีเมียน้อย 3 คน พอขอเลิกกลับถูกทำร้าย-ข่มขู่


ภูมิภาค
21 เมษายน 2568619
‘ทนายโนบิ’ พาเมียหลวงขอความเป็นธรรม หลังจับได้ว่าสามีที่เป็นผู้ใหญ่บ้านมีเมียน้อย 3 คน พอขอเลิกกลับถูกทำร้าย-ข่มขู่

เมื่อเวลา 14.00 น. ( 21 เม.ย.) ‘นายกฤษฎา โลหิตดี หรือทนายโนบิ’ พร้อมทีมงานทนายโนบิช่วยด้วย พานางเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 55 ปี ชาว อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี กรณีที่สามี ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านพื้นที่หนึ่งใน จ.อุบลราชธานี มีพฤติกรรมคบชู้ถึง 3 คน พอจับได้และขอแยกทาง กลับถูกผู้ใหญ่บ้านใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกาย และไม่ให้ไปรักษาตัวที่ รพ.

 

นางเอ๋ เปิดเผยว่า ตนกับผู้ใหญ่บ้านได้รู้จักกันผ่านเพื่อน เมื่อปี 2555 และได้อยู่กินกันฉันสามีภรรยาเรื่อยมา และได้มีการจดทะเบียนสมรสเมื่อปี 2566 หลังจากนั้น ผู้ใหญ่เริ่มมีความผิดปกติ จนกระทั่ง ต.ค. 2567 ตนพบว่าผู้ใหญ่เริ่มกลับบ้านดึกทุกวัน โดยอ้างว่าไปทำธุระและปฏิบัติหน้าที่ทางราชการบ่อยครั้ง ประกอบกับมีชาวบ้านบอกว่า ผู้ใหญ่แอบคบกับผู้หญิงในหมู่บ้านอีกคน

 

ตนใช้แอปฯ ติดตาม จนพบว่าพิกัดมือถือผู้ใหญ่ปรากฏอยู่ที่ รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ในช่วงเวลา 11.00 น. จนถึงช่วงประมาณหัวค่ำ ซึ่งผิดปกติวิสัยของการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ ตนได้สอบถามกับผู้ใหญ่ แต่ผู้ใหญ่กลับแสดงความไม่พอใจ และทำร้ายร่างกายตนจนได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังชักปืนขู่ ทำให้ตนต้องพักรักษาตัวอยู่หลายวัน

 

หลังเกิดเหตุ ผู้ใหญ่มีพฤติกรรมโมโหร้าย อารมณ์รุนแรง ทำร้ายร่างกาย และใช้อาวุธปืนข่มขู่ตนเป็นประจำ

 

ต่อมาเมื่อประมาณ ก.พ. 2567 ในช่วงเตรียมงานสมโภชวัดแห่งหนึ่ง มีชาวบ้านมาบอกกับตนว่า ผู้ใหญ่กับหญิงชู้ได้ติดตามกันออกไปจากวัด อีกทั้งยังเล่าอีกว่าทั้งสองมีพฤติกรรมเป็นชู้กันมานานแล้ว ทุกคนต่างก็พบเห็นทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยครั้ง หนำซ้ำยังมีการเลี้ยงดูหญิงชู้เป็นอย่างดี

 

และจากการสืบหาความจริงตนพบว่า ผู้ใหญ่มีเมียน้อยอีก 3 คน เอาเงินของตนที่ขายบบ้านได้ไปสร้างบ้านให้เมียน้อยอย่างออกนอกหน้า มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งตนไม่รู้มาก่อนว่าผู้ใหญ่จะมีพฤติกรรมดังกล่าว ทั้งหมดตนมีหลักฐาน เป็นคลิปเสียงที่เมียน้อยทั้ง 3 คน ยอมรับ

 

ต่อมา ประมาณเดือน มิ.ย. 2567 ตนพยายามห้ามปรามผู้ใหญ่เรื่องชู้สาว จึงมีปากเสียงกัน โดยผู้ใหญ่ได้ด่าทอตนและลูกสาวของตนด้วยถ้อยคำหยาบคาย และทำร้ายร่างกายตนอีกหลายครั้ง ซึ่งครั้งที่ร้ายแรงคือมีการจับแขนตนแล้วเหวี่ยงลงพื้น จับหัวโขกพื้น และใช้เท้าถีบบริเวณหน้าอก เหยียบหลังไว้ไม่ให้หลบหนี ตนพยายามที่จะลุกขึ้นและหนีไป แต่ถูกกักขังและพูดจาข่มขู่ ผู้ใหญ่ใช้อาวุธปืนข่มขู่ว่าหากคิดหนี จะใช้ปืนยิงตน และจะตามไปยิงลูกทั้งสองของตนด้วย

 

ซึ่งในขณะถูกทำร้ายร่างกาย ลูกสาวตนได้วิดีโอคอลมา แต่ผู้ใหญ่เป็นผู้รับสาย และถ่ายภาพให้เห็นว่าตนถูกทำร้ายร่างกาย พร้อมพูดจาข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายลูกสาวตนด้วย

 

ตอนนี้สิ่งที่ตนเองต้องการคือ การได้รับอิสระ การหย่า และความปลอดภัย ไม่ได้ต้องการเอาเรื่องแบบเอาเป็นเอาตาย แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จึงต้องขอความช่วยเหลือไปยังทนายโบนิ พามาขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี

 

ด้านลูกสาวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเห็นภาพจากวิดีโอคอลว่าแม่ถูกทำร้าย จึงได้โทรขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้เข้าไปช่วย พร้อมทั้งให้แม่ไปแจ้งความ และไปรับตัวออกมาอยู่กับพี่ชายในค่ายทหารเพื่อความปลอดภัย เพราะที่ผ่านมา ผู้ใหญ่พยายามใช้กำลังและอาวุธปืนเถื่อนทำร้ายแม่มาโดยตลอด

 

สิ่งที่ตนและแม่ออกมาร้องความเป็นธรรมครั้งนี้ เพราะตนรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่ผู้ใหญ่ทำกับแม่ และเพื่อเป็นการกู้ศักดิ์ของแม่กลับมา เพราะที่ผ่านมาผู้ใหญ่จะเอาไปพูดให้ชาวบ้านและชู้ฟังว่า ได้ทำร้ายร่างกายแม่ หากแม่ไม่ยกมือไหว้ขอร้องตายไปนานแล้ว ซึ่งไม่ใช่วิสัยของลูกผู้ชาย

 

‘นายธนรัตน์ สุภาพันธ์’ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอุบลราชธานี และผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี กล่าว่า หลังจากได้รับหนังสือแล้ว ได้มีการประสานไปยังนายอำเภอในพื้นที่ จะมีการเรียกตัวผู้ใหญ่มาพูดคุยเจรจากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ส่วนเรื่องข้อกล่าวหานั้น ทางต้นสังกัดจะมีการสืบข้อเท็จจริงก่อน หากมีมูลก็จะตั้งกรรมการเพื่อดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน แม้ผลของการเจรจาจะตกลงกันได้หรือไม่ก็ตาม การดำเนินการสอบทางวินัยก็จะดำเนินการจนสุดกระบวนการ ซึ่งหากพบว่ากระทำความผิดจริง จะมีโทษให้ออก หรือไล่ออก ซึ่งทั้งอาจจะใช้เวลาในการการดำเนินจนเสร็จสิ้นประมาณ 4-5 เดือน

 


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ทำร้ายร่างกาย#ผู้ใหญ่บ้านมีชู้#ผู้ใหญ่บ้านทำร้ายเมีย#ความรุนแรงในครอบครัว