จากกรณีโลกโซเชียลในจังหวัดบุรีรัมย์วิพากษ์วิจารณ์หนัก หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความพาดพิงเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในอำเภอกระสัง กล่าวหาว่านำเงินวัดไปเล่นบาคารา และมีเจ้าหนี้ตามมาทวงหนี้ถึงวัด
โดยข้อความที่ถูกแชร์ระบุว่า “ไม่กล้ามานอนวัด เจ้าหนี้ตามทวงเงินที่เล่นบาคาราเสีย เส้นใหญ่ ใครทำอะไรไม่ได้ นักเทศน์อำเภอกระสัง” อีกข้อความเขียนว่า “อำเภอกระสัง บุรีรัมย์ เขาชอบพระเล่นบาคาราจัง จึงนิมนต์เทศน์ทุกวัน” และอีกหนึ่งข้อความเขียนว่า “เทศน์สอนคนอื่นดี แต่เอาเงินวัดไปเล่นบาคารา นักเทศน์อำเภอกระสังเส้นใหญ่”
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว ทราบเพียงว่า “มีคนลือกัน” แต่ไม่พบหลักฐาน
ซึ่งต่อมาเจ้าอาวาสที่ถูกกล่าวหาได้ออกมาตอบโต้ทันทีว่าไม่เป็นความจริง ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เงินวัดก็มีคณะกรรมการดูแล ไม่ว่าจะมีเงินผ้าป่า เงินกฐินคณะกรรมการเป็นคนจัดการทั้งหมด ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเงินวัด พร้อมกับขู่จะเอาผิดกับคนที่โพสต์เรื่องที่ไม่เป็นความจริง
ด้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 16 ต.สองชั้น ได้ออกมาระบุว่า การเงินของวัดมีคณะกรรมการจัดการทั้งหมด เจ้าอาวาสไม่ได้มายุ่งเกี่ยว เวลาได้เงินผ้าป่ามาก็จะเอาไปใช้หนี้ร้านอุปกรณ์ก่อสร้างที่ไปเอาสินค้าเขามาก่อน ที่เหลือคณะกรรมการจะเก็บไว้คอยสำรองจ่ายค่าน้ำค่าไฟ เชื่อว่าเจ้าอาวาสเอาเงินจากคณะกรรมการไม่ได้
ส่วนการกล่าวหาว่าเจ้าอาวาสเล่นบาคารานั้นตนไม่ทราบ และไม่มีใครรู้ได้ว่าเจ้าอาวาสเล่นหรือไม่เล่น เพราะเป็นข้อมูลส่วนตัวที่อยู่ในโทรศัพท์ของเจ้าอาวาส ชาวบ้านหรือคณะกรรมการไม่ได้เห็น
ผู้ใหญ่บ้านกล่าวอีกว่าเจ้าอาวาสเป็นนักเทศน์ชื่อดังในแถบจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์และศรีสะเกษ รับกิจนิมนต์เทศน์ตามงานคืนละ 5-6 แห่ง ค่าเทศน์ครั้งละ 5,000 บาทได้ไม่น้อยกว่า 30,000 บาทต่อคืน