ผัวแฉ เมียยูทูบเบอร์นอกใจไปกิน FC แอบพาเข้ามานอนถึงบ้าน หวั่นลูกสาว 15 ไม่ปลอดภัย

เพจโหนกระแสได้รับเรื่องร้องเรียนจากชายคนหนึ่งเล่าว่า  ตนและภรรยาเป็นยูทูบเบอร์ทำคอนเทนต์อยู่คนละช่อง  ซึ่งแฟนคลับทุกคนก็รู้ว่าตนมีภรรยาแล้ว ตนได้อยู่กินกับภรรยามา 20 ปีแล้ว โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน มีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกคนโตเป็นผู้หญิง อายุ 15 ปี คนเล็ก เป็นผู้ชายอายุ 12 ปี

ต่อมาภรรยาของตนไปมีชู้  ตนจับได้เพราะเขาเคยนัดเจอกันครั้งหนึ่ง ประมาณปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งภรรยาของตนรู้จักกับผู้ชายคนนั้นในฐานะ FC ก่อน แล้วเขาก็สร้างไลน์กลุ่มขึ้นมา  ในกลุ่มนั้นก็น่าจะมี 3-4 คน เขาคุยกันในไลน์กลุ่มได้สักระยะหนึ่ง แล้วกลุ่มนั้นเขาก็เลิกไป  จากนั้นเขาก็ไปติดต่อส่วนตัวกับผู้ชายคนนั้นและเขาก็คุยกันมาเรื่อย ๆ ซึ่งตนก็รับรู้มาโดยตลอดแต่ตนก็ปล่อย

จนวันหนึ่งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา  เขาก็นัดเจอกันที่ห้องของน้อง FC คนหนึ่ง นัดกันมาทั้งหมด 4 คนแต่อีก 2 คนไม่ว่างคืนนั้นก็จะเหลือแต่เจ้าของห้องที่เป็นน้อง FC ภรรยาตนและผู้ชายคนนั้น  ซึ่งน้องเจ้าของห้องเล่าให้ตนฟังว่าภรรยาตนนอนกะหนุงกะหนิงกันกับผู้ชายคนนั้น ส่วนตัวตอนนั้นตนก็ไม่ได้เชื่อที่น้องเจ้าของห้องเล่าทั้งหมด รู้สึกเชื่อแค่ 50/50 เพราะคิดว่าเวลาที่เขาคุยกันมานานอาจจะหล่อหลอมความรู้สึกกันและกัน แต่ตลอดเวลาที่ตนอยู่กินกับภรรยามา 20 ปี เขาไม่เคยมีท่าทีลักษณะที่จะนอกใจ

แต่ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ตนพาพี่สาวที่กลับมาจากเมืองนอกไปเที่ยว ตนไปนอนกับแม่ตนในตัวอำเภอ  แต่พอเช้าตนก็ขี่รถกลับมาบ้านภรรยา พอมาถึงก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งแอบเข้ามานอนในบ้านของภรรยาตน  โดยมีภรรยาของตนรู้เห็นเป็นใจ ซึ่งตนก็งงว่าทำไมให้ผู้ชายคนอื่นเข้าบ้าน ทั้ง ๆที่ลูกตนก็เป็นสาวแล้วอายุ 15 ปีแล้ว ทำไมเขาไม่นึกถึงความปลอดภัยของลูกเลย

ตนโมโหมาก เพราะวันนั้นลูกสาวของตนไม่สบาย แต่ภรรยากลับไม่ทำอาหาร ไม่หายาให้ลูกกิน  แต่กลับแต่งตัวเรียบร้อยพร้อมที่จะไปส่งผู้ชายคนนั้น ตนต้องใจเย็นเพราะลูกก็อยู่ตรงนั้น  หลังจากที่ภรรยาของตนไปส่งผู้ชายคนนั้นที่ท่ารถตู้แล้วเขากลับมา ตนก็ถามอย่างใจเย็นไม่ได้ทะเลาะ ไม่มีความรุนแรงใส่กันเลย  ตนถามว่ามันเป็นยังไงไหนลองเล่าให้ฟังซิทำไมถึงไม่โทรบอก ทำไมถึงปล่อยให้ใครก็ไม่รู้เข้ามาในบ้าน แล้วลูกก็อยู่ในบ้านแล้วทำไมถึงไม่โทรบอกน้อง ๆ ยูทูบเบอร์คนอื่นๆ ให้มาอยู่เป็นเพื่อน

ตนรู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่เขาทำ พยายามจะซักไซ้กับเขา ซึ่งเขาบอกว่าขอโทษ แต่ตนบอกไปแล้วว่าไม่ได้ต้องการคำขอโทษ แต่ต้องการคำอธิบายเท่านั้นเอง ตนให้อภัยได้ตลอดให้อภัยได้เสมอแต่สิ่งที่ต้องการไม่ใช่คำขอโทษ ตนบอกเขาให้โทรกลับไปหาผู้ชายคนนั้น อยากจะคุยซึ่งเท่าที่รู้ผู้ชายคนนั้นก็มีภรรยาอยู่แล้ว

ชายคนดังกล่าวเล่าอีกว่า จุดพีกของเรื่องนี้คือ ภรรยาของตนเข้าไปนอนห้อง FC คนหนึ่งก่อน จากนั้นก็พาผู้ชายคนนี้มาที่บ้าน หลังจากผ่านมาไม่เกิน 2 อาทิตย์ก็มาที่บ้านเจอกัน 2 ครั้ง ตอนนั้นตนรู้แล้วแต่ปล่อยอิสระคือเขาจะไปก็ไปเลิกกันก็ได้  แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะพามาที่บ้าน ไม่นึกถึงความปลอดภัยของลูกที่จะเอาใครก็ไม่รู้เข้ามาในบ้าน หลักๆก็คือความปลอดภัยของลูก

เรื่องที่เกิดขึ้นยิ่งคุยกันก็ยิ่งทำให้ตนอารมณ์ขึ้น ตนก็เลยเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าจะไปนอนสงบสติอารมณ์ที่บ้านน้องยูทูบเบอร์คนหนึ่ง ในจังหวะที่ตนกำลังเก็บเสื้อผ้าเขาก็เดินเข้ามาขอโทษตนก็เลยบอกเขาว่า “อย่ามายุ่งกับตนตอนนี้ ให้ไปอยู่ในที่ของเธออย่ามายุ่งตอนนี้นะ” สักพักหนึ่ง ก็คือเขาขอโทษตนฟิวส์ขาด ทะเลาะถึงขั้นเกิดความรุนแรงทำร้ายร่างกาย ตรงนั้นตนคุมสติตัวเองไม่อยู่ นั่นแหละเป็นจุดบอดของตน พอทะเลาะกันเสร็จ เกิดเผลอไปใช้ความรุนแรงใส่ก็กลายเป็นว่าตนเป็นคนผิด

หลังจากนั้นตนก็ไปนอนบ้านของน้อง ๆ และถามภรรยาว่าโทรกลับไปหาผู้ชายคนนั้นอีกไหมเขาบอกว่าบล็อกไปแล้ว แต่พอตนไปเช็กในไลน์เขาผู้ชายคนนั้นยังไม่ถูกบล็อกในห้องบล็อกไม่มีใครถูกบล็อกในห้องซ่อนไม่มีใครถูกซ่อน และเขาพยายามโกหกตน ซึ่งตนคิดว่าเราทะเลาะกันขนาดนี้ผู้ชายคนนี้ควรจะถูกตัดออกไปทุกช่องทางแต่ภรรยาไม่ตัดในใจตนรู้แล้วว่ามันคืออะไรตนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาบอกว่าเป็นเพื่อน

ตนยอมรับ ตนและเพื่อนของตนเคยทักไปหาลูกเลี้ยงของชายคนนั้น เพื่อบอกพฤติกรรมของชายคนดังกล่าว ทำให้ชายคนดังกล่าวไม่พอใจ โทรศัพท์มาต่อว่า

หลังจากที่ตนทะเลาะกับภรรยาอย่างรุนแรง สุดท้ายภรรยาตนก็หนีไปอยู่บ้านเพื่อนเขาที่กรุงเทพฯได้ประมาณ  1 เดือนช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา  และตนมารู้ทีหลังด้วยว่า ภรรยาของตนก็แอบไปหาผู้ชายคนนั้น ที่แย่กว่านั้นคือเรื่องนี้มันกระทบไปถึงลูกสาวและลูกชายของตน ตอนนี้จิตใจเด็กทั้งสองแย่

ตอนนี้ตนไม่ได้ต้องการอะไร ถ้าอยากเลิกราก็ไม่มีปัญหา แต่ขอให้ชายคนดังกล่าว อย่ามายุ่งเกี่ยว เลิกมาแซะตน เรื่องการเลี้ยงลูก หรือการส่งเสีย เพราะตนคิดว่า ตนเป็นพ่อ ตนมีสิทธิ์ในการดูแลลูก