สภ. บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและทีมกู้ชีพจากโรงพยาบาลบางใหญ่ เดินทางเข้าตรวจสอบ หลังจากได้รับแจ้งมีผู้หมดสติภายในห้องน้ำ โดยมีเลือดออกจากปากจำนวนมาก เหตุเกิดภายในห้องน้ำของศูนย์อาหารแห่งหนึ่ง ในอ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงเร่งเข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง ของศูนย์อาหาร ใช้ระบบหยอดเหรียญ ผลักประตูเข้าไปใช้ห้องน้ำ พบชายไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสั้นนอนหมดสติไม่มีชีพจร อยู่ภายในห้องน้ำชาย ที่พื้นพบคราบเลือดเป็นจำนวนมาก โดยทราบภายหลัง คือ ชาย อายุ 19 ปี ที่ปากพบมีเลือดออก ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมกู้ชีพนำตัวออกมาปั๊มหัวใจบริเวณด้านหน้าห้องน้ำ นานกว่า 30 นาที ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ขณะเดียวกันมีพลเมืองดีได้บันทึกคลิปเอาไว้ในขณะที่เข้าไปพบตัวผู้ที่นอนหมดสติจมกองเลือดอยู่ภายในห้องน้ำ สภาพหายใจรวยริน ก่อนที่กู้ภัยจะมาถึง น.ส.เอ (นามสมมติ) กล่าวว่า ในระหว่างที่ตนเองยืนเช็ดรถอยู่หน้าห้องน้ำก็ได้ยินเสียง รอบแรกเหมือนเสียงเคาะประตูก็คิดว่าเขาทะเลาะกันหรือเปล่า ซึ่งเสียงค่อนข้างดัง ตนก็พยายามหาที่มาของเสียงอยู่ จนเริ่มผิดสังเกตเสียงดังขึ้น มีการเคาะประตูโดยพยายามเดินเข้าไปดูแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปถึงด้านใน จึงตัดสินใจจะไปหายามแต่ไม่เจอ ซึ่งเป็นจังหวะที่มีผู้ชาย 2 คนกำลังเดินมาเข้าห้องน้ำพอดี จึงให้เข้าไปในห้องน้ำชายเพื่อไปดู สุดท้ายก็พบว่าเป็นผู้ชายอยู่ในห้องน้ำ สภาพนอนจมกองเลือดอยู่ ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่เห็นมีบุคคลอื่นออกมาจากห้องน้ำ
ด้านพ่อผู้เสียชีวิต อายุ 62 ปี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ลูกชายไปอยู่กับแม่และเรียนอยู่ย่านถนนพุทธมณฑลสาย 2 ต่อมาทั้งแม่และลูกย้ายกลับมาอยู่กับตน จนกระทั่งเริ่มสร้างหนี้ ไปกู้รายวันมาจนต้องหนีไปและทิ้งลูกไว้ให้อยู่กับตน ซึ่งตนก็เลี้ยงและส่งให้เรียนจนจบ ม.3 เจ้าตัวอยากไปเรียนต่อด้านสายช่าง ตอนแรกเลือกที่เรียนไว้ให้แล้วใกล้บ้าน แต่ลูกชายไม่เอา ตนก็ไม่อยากขัดใจลูก จึงปล่อยให้ไปเรียนที่เขาอยากไป แต่สุดท้ายไปเรียนบ้างไม่ไปบ้าง มารู้ทีหลังทางโรงเรียนโทรมาตามและบอกว่าลูกชายไม่ไปเรียน แต่ลูกชายออกจากบ้านทุกวัน
ตนให้เงินไปโรงเรียนทุกวัน จึงได้มีการพูดคุย เจ้าตัวให้เหตุผลว่ามันไกล เพื่อนก็ไม่ไปกัน ตั้งแต่นั้นมาตนก็เลยให้หยุดเรียน จากนั้นก็มีการมั่วสุมกับเพื่อน ติดเกม แต่ไม่เคยพาเพื่อนมาบ้าน มีแต่ลูกชายจะออกไปหาเพื่อนทุกวันและกลับมาก็ดึกดื่น
นอกจากนี้เขาน่าจะเป็นเกี่ยวกับโรคปอด เพราะเขามีอาการไอตลอด สาเหตุน่าจะมาจากการสูบบุหรี่หรือสูบอย่างอื่น เคยสอบถามเจ้าตัวก็ยอมรับว่าสูบแต่เป็นการสูบบุหรี่ ตนก็ยังดุและตักเตือนเขาว่าสมควรไหม งานการก็ไม่ทำ ทำไมต้องสูบบุหรี่ด้วยและมานั่งไออยู่ตลอดเวลา ระยะหลังพบว่าเริ่มไอหนักขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ จากการสอบถามข้อมูลจากผู้เป็นพ่อ ซึ่งทางพ่อคาดว่าลูกชายน่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับปอดและพักผ่อนไม่เพียงพอ จากนั้นได้มอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งสถาบันนิติศาสตร์เพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป