ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชายอายุ 26 ปี พร้อมกับแฟนสาว อายุ 15 ปี เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือหลังตัวเองถูกชายอายุประมาณ 50 ปี ใช้น้ำกรดสาดใส่บริเวณใบหน้ากับดวงตาข้างซ้าย จนใบหน้ามีสภาพเป็นแผลพุพอง คล้ายรอยไหม้ และตาซ้ายถูกน้ำกรดจนตอนนี้มองแทบไม่เห็น พร้อมกับโชว์บาดแผลจากฤทธิ์ของน้ำกรดให้ดู ส่วนแฟนสาวถูกสะเก็ดของน้ำกรดบาดเจ็บเล็กน้อย โดยเหตุเกิดที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 12 ต.กระบี่น้อย ช่วงกลางดึกของวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยทั้งคู่เกรงว่าตำรวจจะไม่ช่วยในด้านคดี เนื่องจากหลังเกิดเหตุยังไม่มีตำรวจติดต่อมา
ชายผู้บาดเจ็บ เล่าว่า วันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ตนพร้อมกับแฟนสาว และพี่ชายแฟน 4 คน ขี่รถ จยย.กัน 2 คัน กลับจากทำธุระใน อ.เหนือคลองกำลังจะขี่รถกลับเข้าบ้าน ซึ่งต้องผ่านบ้านของผู้ก่อเหตุ โดยชายผู้ก่อเหตุเป็นลูกค้าที่มาเช่าบ้านของพ่อตาตนอยู่ มีอาชีพเก็บของเก่าขาย ตนจะเข้าไปสอบถามชายคนดังกล่าวว่าได้เข้าไปงัดบ้านที่อยู่ใกล้กันหรือไม่ เนื่องจากบ้านที่ถูกงัดเป็นบ้านสำหรับใช้เก็บของและอยู่ใกล้ๆ กันกับบ้านเช่าของคนก่อเหตุ จึงสงสัยว่าคนก่อเหตุอาจเป็นคนงัดเข้าไป
เมื่อตนขี่รถเข้าไปถึงหน้าบ้านผู้ก่อเหตุ ได้จอดรถเรียกผู้ก่อเหตุแต่ยังไม่ทันได้สอบถาม หรือพูดคุยอะไรกันเลย ผู้ก่อเหตุก็ออกมาจากบ้านด้วยอาการโมโห ตะโกนมาด้วยอารมณ์โกรธว่าใครมาเรียก ตนก็บอกเขาว่าให้ใจเย็นๆ ก่อน แต่ผู้ก่อเหตุก็พูดกลับมาว่า “มึงจะเอาใช่ไหม” จากนั้นก็สาดน้ำกรดในขวดมาใส่ตนทันที น้ำกรดโดนทั้งตนและแฟนสาว หลังเขาก่อเหตุก็วิ่งหนีหายไปเลย ส่วนตนก็รีบวิ่งหาน้ำมาล้างน้ำกรดให้แฟนสาวและรีบพากันไป รพ.ทันที
ด้านแฟนสาว เล่าว่า คืนเกิดเหตุช่วงที่ตนและแฟนหนุ่มไป รพ. พี่ชายก็ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองกระบี่ แต่ตำรวจบอกว่าตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้าตำรวจ และยังไม่ได้สอบปากคำตนกับแฟนหนุ่มเลย จึงกลัวว่าคดีอาจจะไม่คืบหน้า จึงอยากให้ตำรวจช่วยเร่งรัดคดีและนำตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็วด้วย