จากกรณีที่ชาย อายุ 50 ปี ชาว ต.หนองกะทิง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ถูกตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ จับกุมในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น.
ต่อมามีข้อมูลว่า ลูกชิ้นที่ผู้ก่อเหตุขโมยไป ได้นำไปทอดให้ครอบครัวกิน ส่วนหนึ่งเอาไปแบ่งให้พ่อแม่ อายุ 88 ปี และ 89 ปี ที่อาศัยอยู่ใน อ.ลำปลายมาศ ซึ่งทั้งสองอยู่ในวัยชรา ฐานะยากจน โดยเฉพาะแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง
หลังจากเป็นกระแสข่าว ในโลกโซเชียลก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง โดยแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งเห็นใจที่ต้องการหาอาหารไปให้แม่ แต่ไม่มีเงินซื้อ จึงจำเป็นต้องขโมย อีกทั้งมงว่ามูลค่าทรัพย์ที่หายไปเพียง 300 บาท ไม่น่าจะต้องถึงดำเนินคดี
ส่วนอีกฝ่ายมองว่าร้านค้าอาจจะเคยประสบเหตุมาก่อน จึงติดกล้องวงจรปิด ประกอบกับบ้านเมืองมีกฎหมาย จะต้องดำเนินคดีตามขั้นตอน มิเช่นนั้นอาจจะเป็นเยี่ยงอย่าง หรือหันมาก่อเหตุอีก
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ นำข้าวสารอาหารแห้งบางส่วนไปมอบให้ครอบครัวผู้ก่อเหตุเพื่อให้กำลังใจ
พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ เผยว่า กรณีดังกล่าวยอมรับว่าเห็นใจผู้ต้องหา หลังทราบว่าฐานะยากจน ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพ และต้องแบกรับภาระหลายชีวิต แต่ในทางคดีก็เป็นเรื่องของกฎหมาย
กรณีนี้มีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นใบหน้าและปรากฏเวลาก่อเหตุชัดเจน ตอนนั้นไม่มีใครทราบได้ว่าประวัติของผู้ก่อเหตุเป็นอย่างไร พนักงานสอบสวนต้องแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 7 ปี 6 เดือน เป็นอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้ ถึงแม้ต่อมาเจ้าของร้านลูกชิ้นจะไม่ประสงค์เอาความ
ส่วนผลของคดีขึ้นอยู่กับศาลซึ่งเป็นผู้พิจารณา แต่หากเป็นการลักทรัพย์ธรรมดาซึ่งทรัพย์สินจำนวนไม่มาก และลักทรัพย์ในเวลากลางวัน แล้วไม่มียานพาหนะ จะมีโทษจำคุก 3-5 ปี กรณีนี้ผู้บังคับการตำรวจสามารถใช้ดุลยพินิจสั่งไม่ฟ้องได้ แต่กรณีของผู้ต้องหารายดังกล่าว หลักฐานครบ ไม่สามารถเลี่ยงเป็นอย่างอื่นได้
ด้านผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นผู้ก่อเหตุมีภรรยา แต่ไม่มีลูก ต่อมาภรรยาเสียชีวิต และไปได้ภรรยาใหม่ที่ในเขต อ.เมืองบุรีรัมย์ ไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน
หากถามว่าพฤติกรรมเป็นอย่างไร ตนขอใช้คำว่า “กลางๆ” มักจะไปแอบตัดไม้ในที่สาธารณะมาเผาถ่านขายหลายครั้ง เคยนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการหมู่บ้านเป็นประจำ ส่วนพฤติกรรมหลังจากที่ไปอาศัยอยู่ในตัวเมือง ตนไม่ทราบ ย้ำมีพฤติกรรมแบบ “กลางๆ”
ด้านคดี ล่าสุดประธานสภาทนายความแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้นายพลกฤต เนาว์ประโคน ทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ มาดูเรื่องคดีว่าจะมีช่องทางช่วยเหลือได้อย่างไร เพราะเป็นคดีที่มีหลักฐานชัดเจน