มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

เรื่องใหญ่แล้ว! “หอ หึ หึ” ผู้เสียหายโผล่มาอีกเพียบ วีรกรรมเล่าทั้งวันก็ไม่จบ หน่วยงานเตรียมตั้งวอร์รูม รับแจ้งความอังคารนี้


ข่าวด่วน
2 พฤษภาคม 256813,649
เรื่องใหญ่แล้ว! “หอ หึ หึ” ผู้เสียหายโผล่มาอีกเพียบ วีรกรรมเล่าทั้งวันก็ไม่จบ หน่วยงานเตรียมตั้งวอร์รูม รับแจ้งความอังคารนี้

หลังจากที่รายการโหนกระแสเมื่อวานนี้ได้นำเสนอกรณีคุณแม่และคุณน้าเข้าร้องเรียนผ่านเพจรายการว่า บุตรชายซึ่งเป็นนักศึกษาถูกเจ้าของหอพักแห่งหนึ่งในย่านมหาวิทยาลัยรังสิตค้นกระเป๋าและยึดเอกสารส่วนตัวไป หลังทราบว่าจะย้ายออก พร้อมทั้งเรียกเงินเพิ่มหลักหมื่นบาทหากต้องการได้ของคืน โดยยังมีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกันกับผู้เช่ารายอื่น เช่น กักขังหน่วงเหนี่ยว แจ้งความดำเนินคดีข้อหาบุกรุก เรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกินจริง และกระทำเช่นนี้ต่อเนื่องมานานกว่า 20 ปี แต่กลับไม่สามารถดำเนินคดีได้ เนื่องจากเจ้าของหอพักอ้างว่าเป็นอดีตภรรยานายตำรวจระดับสูง

 

วันนี้รายการพูดคุยกันต่อเป็นวันที่ 2 เกี่ยวกับหอพักมหาภัยแห่งนี้ โดยคุณเอ๋ ผู้ปกครองของนักศึกษาอีกคน เจอเหตุการณ์เมื่อปี 2566 เล่าว่า ลูกสาวเข้าพักก่อนเปิดเทอม ทำสัญญา 4 ปี เหมือนกับเคสอื่นๆ เขาลดราคาจากเดือนละ 17,900 บาท มาเหลือแค่ 6,500 บาท แต่วันแรกที่เข้าอยู่ต้องจ่ายค่าประกัน 20,000 บาท จะได้รับเงินประกันก้อนนี้คืนในวันที่อยู่จนครบสัญญา 4 ปีเท่านั้น วันแรกที่เข้าอยู่ได้จ่ายเงินค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน รวมจ่าย 26,500 บาท

 

ปรากฏว่า 2-3 เดือนแรก ลูกได้อยู่ห้องตัวอย่าง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรู แต่พอเวลาผ่านไป ถูกสั่งให้ย้ายห้องไปห้องเก่าๆ โทรมๆ พอจะย้ายออก ก็ถูกบุกเข้าไปยึดของในห้อง ยึดชุดนักศึกษา ยึดของสำคัญ จนออกจากห้องไปเรียนหนังสือไม่ได้ มีการยื้อแย่งกันจนได้รับบาดเจ็บ สุดท้ายต้องยอมออกมาแต่ตัวไม่เอาของ แล้วไปแจ้งความไว้ แต่เรื่องราวก็ไม่คืบหน้าไปไหน

 

อีกคนคือน้องยุ้ย ที่เจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน โดยบอกว่าวันที่ไปทำสัญญา ไม่ได้ให้อ่านสัญญา มีแค่ให้พ่อเซ็นแล้วเขาก็ไปเขียนเติมรายละเอียดสัญญาเอง เคยถูกไขกุญแจห้องเข้าไปในห้อง พูดว่าลองกุญแจเฉยๆ แต่ตอนนั้นเขาไขมาแล้วเจอแฟนเราอยู่ในห้องก็เลยไม่ได้ทำอะไร

 

ขณะที่ คุณปอ แม่ค้าส้มตำ เล่าว่า มาหาหอพักย่านนั้นเพื่อจะมาเปิดร้านขายของละแวกนั้น มาเจอหอนี้ ป้าบอกว่าให้ทำสัญญา 48 เดือน เดือนหนึ่งก็ 15,900 บาท เราก็บอกว่าเราไม่ไหว เขาบอกว่าเดี๋ยวลดให้ เหลือแค่เดือนละ 5,000 บาท ต้องจ่ายค่าประกัน 20,000 บาท เรามีเงินแค่ 10,000 บาท เขาก็บอกว่าให้มาทยอยผ่อนจ่ายเขาก็ได้

 

แต่ปรากฎว่าอยู่ไปได้ 14 วัน เรามีเหตุต้องกลับบ้านต่างจังหวัด เราจำเป็นต้องย้ายออก เขาก็คิดเงินเราว่าอยู่ 14 วันต้องจ่ายเท่าไหร่ เขาก็คิดเงิน 5,000 กว่าบาท เราก็จ่ายเงินสดไปหมดเลย แล้วบอกว่ายอด 10,000 บาท ก็มาทยอยคืนแล้วกัน เราคิดว่าคุยกันรู้เรื่องแล้ว ก็เลยให้เพื่อนมารับ เพื่อขนของย้ายออก

 

ปรากฏว่าตอนที่เพื่อนมารับ เราลงจากรถจะเอาคีย์การ์ดไปคืน ปรากฏว่าป้ากับลูกสาววิ่งกรูลงมา กระชากประตูรถเปิด แล้วโยนของเราลงมาจากรถ ยึดของเราไว้ ของที่สำคัญคือแฟ้มเอกสารสำคัญของเพื่อนเราที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย ของๆ เราจะเอาไป จะทิ้งก็ได้ แต่เอกสารของเพื่อนช่วยคืนเขาไปหน่อยได้ไหม ปรากฏว่าเขาไม่คืน บอกว่าให้ไปหาเงินมาจ่ายเจา 10,000 บาท ถึงจะคืนได้ เราต้องไปขอยืมเงินคนนั้นคนนี้มาจ่ายเขาให้ได้ เพื่อให้ได้ของเพื่อนคืนมา 

 

คุณปอเล่ามาถึงตรงนี้ถึงกับหลั่งน้ำตา ตาแดงก่ำ บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันสะเทือนใจมาก คิดถึงเรื่องนี้ก็ยังรู้สึกแย่อยู่

 

อีกคนคือเจ้าของร้านเช่าชุด ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับหอพักนี้เลย เพียงแต่ไปรับของคืน เพราะผู้เช่าของหอพักนี้ เช่าชุดของทางร้านไป ผู้เช่าเอาของมาวางไว้ที่ล็อบบี้ให้เราไปรับ พอเราไปรับคืน ปรากฎว่าถูกคุณป้าไปล็อกรั้ว ไม่ให้ออก เราพยายามอธิบายว่า เราเป็นเจ้าของร้านเช่าชุด มารับของทางร้านคืน ไม่ได้มาเอาอะไรของหอไป แต่เขาไม่ฟัง แจ้งตำรวจมาจับเรา ตำรวจก็บอกว่าเราผิดที่ไปบุกรุกหอพักของเขา ทั้งที่จริงๆ เราได้รับอนุญาตให้เข้าไปเอาของ

 

พอไปที่โรงพัก เราติดต่อให้ผู้เช่าที่เป็นลูกค้ามายืนยันความบริสุทธิ์ให้เรา ป้าก็บอกว่า ผู้เช่าไม่เกี่ยวไม่ต้องมายุ่ง แล้วป้าก็ไปพูดกับผู้เช่า ให้เราไปขอโทษป้า ตอนนั้นตั้งใจจะยอมขอโทษให้มันจบๆ ไป แต่เขาก็พูดว่าไม่รับคำขอโทษ จะเอาผิดทางอาญา ทำให้เราถูกแจ้งความฐานบุกรุก เหตุการณ์เพิ่งจะเกิดเมื่อเดือนมกราคมนี้เอง

 

เรื่องนี้ทำให้ทุกคนในรายการงงไปหมดว่า ทำไมพนักงานสอบสวนถึงไปเชื่อฟัง ยอมทำตาม ทำไมถึงดำเนินคดีอาญากับคน ทั้งที่ข้อเท็จจริงปรากฏชัดว่าไม่ใช่การบุกรุก แล้วยิ่งเรื่องของหอพักนี้ดำเนินต่อเนื่องมาเป็น 20 ปี จนเกิดคำถามว่า เขายิ่งใหญ่มาจากไหน ทำไมถึงอยู่มาได้ขนาดนี้ แล้วไม่มีใครเอาผิดอะไรเขาได้เลย

 

ผู้เสียหายอีกคนคือ คุณแครอท เล่าว่า เหตุการณ์ที่เจอก็เจอไม่ต่างจากคนอื่น เจอสัญญาไม่เป็นธรรม เจอปัญหาเรื่องค่าอินเตอร์เน็ต ค่าน้ำค่าไฟแพง จนตัดสินใจจะขอย้ายออก เริ่มทยอยเก็บของไว้หมดแล้ว

 

ปรากฏว่าวันที่ตนเข้าไปเอาของที่ห้อง จู่ๆ ป้าก็เปิดประตูห้องเข้ามาโดยที่ไม่เคาะ ไม่แจ้งอะไรก่อนเลย พอเห็นว่าเราเก็บเสื้อผ้าไว้หมดแล้ว เขาก็ดูไม่พอใจมาก เรียกเราออกไปคุย แล้วด่าทอเราเรื่องที่เราทำงานพิเศษพาร์ทไทม์หารายได้พิเศษ

 

โดยคุณแครอททำงานเสิร์ฟอาหารในร้านอาหารตอนค่ำ กลับถูกคุณป้าหอหึหึรายนี้ด่าทอว่า มาเรียนจะทำงานทำไม ทำงานแบบนี้ พ่อแม่จะคิดยังไง แล้วยังด่าเราว่า เราเป็น “กะxx”  ทำให้เราน้ำตาซึมเลย ไม่รู้จะตอบโต้ยังไง เพราะตอนนั้นเรายังเด็กมาก แล้วเขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเรา ทำให้ไม่กล้าตอบโต้

 

ผู้เสียหายอีกคน เล่าว่า เช่าหอพักแห่งนี้ แล้ววันดีคืนดี สามีของคุณป้ามาเคาะประตูห้อง แล้วเข้ามาตอนตี 3 อ้างว่ามาดูว่าน้ำรั่วหรือเปล่า เราตกใจมาก ไม่รู้จะทำอะไร เขาก็เดินเข้ามาบอกว่า เลขมิเตอร์น้ำเยอะเกิน สงสัยว่าน้ำรั่ว เลยจะมาดูให้ เรางงมากว่า ทำไมถึงเข้ามาตอนตี 3 ทั้งที่ตอนกลางวันก็ดูได้ 

 

เราแสดงความไม่พอใจ เขาก็ขู่ว่าถ้าไม่พอใจก็ย้ายออกไปเลย พอเราไปแจ้งว่าจะย้ายออกจริง เขาก็มาโน้มน้าวต่างๆ นานา บอกว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ตอนแรกจะขอเอาของออกจากหอพัก เพราะว่าจะส่งไปให้แม่ แต่เขาบอกว่า ตราบใดที่ยังไม่หมดสัญญา ห้ามเอาของออกไปไหนทั้งนั้น ทั้งที่เป็นของๆ เรา ซื้อมาเอง เราไปแจ้งความ ตำรวจก็ขู่กลับว่า มันเป็นแพ่ง มาแจ้งความอาญาไม่ได้ ถ้าเขาแจ้งกลับเธอรับผิดชอบไหวไหม 

 

ผู้เสียหายจึงขอความช่วยเหลือจากพี่ที่อยู่ที่โคราช ให้มาช่วยหน่อย พี่ของผู้เสียหายก็ขับรถตรงดิ่งมาคุยกับตำรวจเลย ยืนยันว่าจะเอาผิดอาญา ตำรวจถามกลับมาว่า จะเอาผิดข้อหาอะไร เราก็ตอบตำรวจไปว่า เราได้รับความเสียหาย เรามีหน้าที่มาแจ้ง ส่วนท่านจะแจ้งข้อหาอะไร ตั้งข้อหาอะไรกับเขา มันเป็นหน้าที่ของท่าน ถ้าท่านจะไม่ยอมดำเนินคดีให้ ก็ช่วยทำเป็นหนังสือตอบกลับมาด้วย ว่าไม่รับดำเนินคดีเพราะอะไร

 

พอแจ้งไปแบบนี้ ตำรวจก็เลยต้องยอมรับแจ้งความแบบเสียไม่ได้ หลังจากนั้นเราเอาบันทึกประจำวันไปที่หอพักแห่งนี้ เพื่อจะไปเอาของออกมา แล้วขอให้สายตรวจไปกับเราด้วย 1 นาย แต่ปรากฎว่าตำรวจไม่มา 

 

พอเราถือบันทึกประจำวันเข้าไปเอาของ สามพ่อแม่ลูกเจ้าของหอก็ปรี่เข้ามา ไม่ให้เข้า แล้วแจ้งความดำเนินคดีกับเราฐานบุกรุก บอกว่าเราเป็นคนนอก เราถูกดำเนินคดีแล้วก็เลยถามกลับไปว่า งั้นขอแจ้งความกลับด้วยฐานแจ้งความเท็จ ปรากฏว่าตำรวจบอกว่า ไม่ให้แจ้ง ต้องไปแจ้งกับร้อยเวรอีกคนแทน

 

เรื่องคดีบุกรุกที่เขาแจ้งเรา เราบอกว่าแจ้งก็แจ้งมาได้เลย จะเอาผิด จะอะไรก็ได้เต็มที่ เราพร้อมสู้ แต่ผ่านมาถึง 3 ปี แล้ว ยังไม่มีอะไรส่งมาเลย วันนี้พอมีเรื่องนี้เปิดขึ้นมา เราต้องออกมาด้วย เพราะเราต้องการให้คนๆ นี้ ได้รับผลจากการกระทำของเขาเสียที

 

ขณะที่ นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา ยืนยันว่า เท่าที่ฟังเรื่องราวทั้งหมดมา มีองค์ประกอบความผิดหลายประการ ทั้งเรื่องการเรียกเก็บเงินประกันที่เกินกว่าประกาศของ สคบ. กำหนด เพราะกำหนดไว้ว่าเรียกเก็บได้ไม่เกิน 3 เท่าของค่าเช่ารายเดือน ถ้าค่าเช่าเดือนละ 5,000 บาท ก็เรียกเงินประกันได้แค่ 15,000 บาท และจะไม่มีสิทธิ์เอาไปหักค่านั่นค่านี่ได้ตามอำเภอใจ มีไว้เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นในห้องเท่านั้น 

 

โดยหลังจากนี้ วันอังคารที่ 6 พ.ค.นี้ ทางตำรวจ และ สคบ. จะไปตั้งวอร์รูม รับเรื่องราวร้องทุกข์ที่มหาวิทยาลัยรังสิต เพื่อรับทุกเคสที่เคยมีประเด็นกับหอพักแห่งนี้ และจะไปไล่ตรวจสอบฐานความผิดทั้งหมดเลยว่า เข้าข่ายความผิดใดบ้าง

 


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#หอหึหึ#หอพัก#สคบ