แม่ร้องสื่อ ลูกสาววัย 4 ขวบ ถูกคนร้ายใช้มีดดาบฟันหน้า ยังจับมือฟันไม่ได้ สุดสะเทือนใจ ลูกสาวยังไม่รู้ตัวว่าตาบอด

จากกรณีที่เป็นกระแสในโซเชียล เด็กหญิงวัย 4 ขวบ ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดดาบฟันเข้าที่บริเวณใบหน้า ได้รับบาดเจ็บ ตาบอด แต่เรื่องทางคดีไม่คืบหน้า ยังไม่สามารถออกหมายจับหรือจับตัวผู้ก่อเหตุได้นั้น

นายชาญวิทย์ ยอดสิงห์ เจ้าของเพจ บ้านเฮียชาญ อุ้ยอุบล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนมาเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 ก.ค. คุณแม่ท่าหนึ่งบอกว่าลูกสาวถูกทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บจนตาบอด ตนได้ขอดูบันทึกประจำวัน ทราบว่าเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี

ตนจึงได้ลงพื้นที่ไปสอบถามข้อเท็จจริง พบว่าทางครอบครัวมีอาการหวาดกลัวในเรื่องการถูกคุกคาม จึงได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านญาติ เมื่อผู้เสียหายเกิดความไม่ปลอดภัย ตนจึงได้นำตัวเด็กและครอบครัวมาพักที่บ้าน เพื่อดูแลความปลอดภัยไว้ก่อน จนกว่าคดีจะคลี่คลายไปในทางที่ดี

ส่วนในเรื่องของการรักษา ตนอยากจะวอนให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง คุณหมอหรือผู้ที่มีทางรักษา ให้ความช่วยเหลือรักษาน้องให้กลับมามองเห็นอีกครั้ง

ในเรื่องของทางคดีตนไม่ห่วง เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการให้ อยากจะฝากถึงเจ้าหน้าที่รัฐ เรื่องการช่วยเหลือผู้เสียหายหรือดูแล ให้ชัดเจนและรวดเร็วกว่านี้ เพราะการที่เขามาร้องต่อเพจ หมายถึงความไม่เชื่อมั่น หรือรู้สึกไม่ยุติธรรม วิธีแก้คือควรจะสร้างความน่าเชื่อถือให้ประชาชนมากกว่านี้

ด้านแม่ของเด็กหญิง เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนอยู่บ้าน ได้รับแจ้งจากสามีว่าลูกสาวถูกทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้อยู่ที่บ้านของพี่สาว

ตนจึงได้ออกไปดู พบว่าลูกสาวมีบาดแผลบริเวณที่ใบหน้า ยาวจนถึงหน้าผาก จึงได้นำตัวส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชเดชอุดม ทาง รพ. ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และส่งต่อไปยัง รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี เพื่อทำการรักษาต่อ เนื่องจากอุปกรณ์ไม่พร้อม

เมื่อไปถึง รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี แพทย์ได้ทำการเอกซเรย์ดูบาดแผล และให้น้องใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ในห้อง ICU ประมาณ 3 วัน จึงรู้สึกตัว และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านหลังจากที่น้องดีขึ้น

แพทย์บอกว่า น้องต้องเสียดวงตาไป 1 ข้าง ขณะที่น้องเองก็ยังไม่รู้ว่าน้องตาบอด ทุกครั้งที่ลูกสาวถามว่า “เดี๋ยวเอาที่ปิดตาออก น้องจะกลับมามองเห็นใช่ไหม” เป็นคำถามที่ตนรู้สึกสะเทือนใจทุกครั้ง เพราะน้องยังหวังว่าจะกลับมามองเห็น ตนก็ยังมีความหวังที่จะรักษาลูกให้กลับมามองเห็นอีกครั้ง ตนอยากจะขอวอนให้คุณหมอมาช่วยรักษาลูกสาวตนด้วย

หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เดชอุดม แต่ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี ส่วนผู้ก่อเหตุที่ทราบตัวในภายหลัง ก็พยายามมาไกล่เกลี่ยไม่ให้เอาเรื่อง โดยจะมอบเงินให้จำนวน 2 แสนบาท แต่ทางครอบครัวไม่รับ เพราะต้องการให้คนร้ายถูกดำเนินคดี

พ่อของเด็ก เล่าว่า วันเกิดเหตุตนได้ไปที่ทุ่งนา ฝนตกจนถึงค่ำ เมื่อฝนหยุด ตนได้ขี่ จยย. กลับบ้านพร้อมกับลูกสาว โดยมีลูกสาวนั่งอยู่ด้านหน้า ระหว่างทางเข้าท้ายหมู่บ้านมี จยย. 3 คัน ซ้อนกันมาคันละ 2 คน เป็นวัยรุ่น ขี่สวนมา จยย.คันสุดท้ายได้ง้างมือต่อยตนเข้าที่บริเวณแขนด้านขวา หลังจากนั้นลูกสาวก็ร้องไห้ ตนได้จอดรถดูพบว่ามีเลือดออกที่ใบหน้าของลูกสาว จึงได้ขับรถไปหาพี่สาวเพื่อขอความช่วยเหลือ และเมื่อเห็นแผลของลูกสาวถึงกับช็อกไปช่วงนึง หลังจากที่ตั้งสติได้จึงได้นำตัวลูกสาวส่ง รพ.

ส่วนผู้ก่อเหตุ ล่าสุดรู้ตัวแล้ว เป็นคนในหมู่บ้าน มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สาเหตุนั้นเกิดจากผู้ก่อเหตุได้มีการไล่ทำร้ายกับวัยรุ่นในหมู่บ้านที่ขัดแย้งกันเรื่องยาเสพติด แล้วมีการดักทำร้ายกัน คนที่ถูกดักทำร้ายไหวตัวและวิ่งหนี เป็นจังหวะที่ตนขี่ จยย. สวนเข้าไปพอดี จึงทำให้ผู้ก่อเหตุเข้าใจผิดว่าเป็นกลุ่มเดียวกับคู่กรณีที่หลบหนีออกมา จึงใช้อาวุธมีดฟันแต่ไปถูกลูกสาวตน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่เห็นความคืบหน้าของคดี มีแต่ถูกบ่ายเบี่ยงจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตลอด จึงได้ตัดสินใจร้องเพจดังกล่าว

ล่าสุดวันนี้ (15 ก.ค.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อเตั้งเพจ สายไหมต้องรอด ได้ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อพบกับ พล.ต.ต.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี ติดตามความคืบหน้าทางคดี

พล.ต.ต.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี กล่าวว่า ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับคนร้ายไปแล้ว 4 ราย ดังนี้

- ชาย อายุ 33 ปี- มือฟัน (หลบหนี)

- คนขี่ จยย. ให้มือฟัน (จับแล้ว)

- คนขี่ จยย. คันที่ 2

- คนซ้อนท้าย จยย. คันที่ 2

เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรัดจับกุมให้ได้โดยเร็ว สำหรับคนร้ายโดยเฉพาะมือฟัน มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ส่วนที่ว่าเจ้าหน้าที่มีการดำเนินการล่าช้า ชี้แจงว่าที่ผ่านมาก็อยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และรอใบชันสูตรของแพทย์ ซึ่งได้มาเมื่อวานนี้ วันนี้ก็ขอศาลออกหมายจับตัวในทันที ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนอาจสื่อสารไม่เข้าใจกับผู้เสียหาย จึงต้องไปร้องกับเพจเพื่อให้ช่วยเหลือ

น.ส.ปทิตตา โฉมประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัด ได้มาทำเรื่องจ่ายเงินช่วยเหลือครอบครัวของเด็กหญิง โดยจะรวบรวมเอกสารจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อรีบนำเสนอเข้าที่ประชุมพิจารณาจ่ายเงินให้ผู้เสียหายเร็วที่สุด ส่วนถ้าครอบครัวถูกข่มขู่คุกคาม ก็จะให้การช่วยเหลือโดยการเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน ให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต

ขณะที่ชายต้นเรื่อง คู่กรณีขงอกลุ่มผู้ก่อเหตุ เปิดใจว่า รู้สึกเสียใจที่น้องต้องมารับเคราะห์แทน ตนไม่ได้ตั้งใจเพราะก็หนีตาย ตอนนั้นมารู้ทีหลังว่าน้องถูกฟัน

ก่อนหน้าตนเคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และถูกตำรวจใช้ให้เป็นสายไปล่อซื้อยาบ้าจากกลุ่มผู้ก่อเหตุจนถูกจับกุม วันเกิดเหตุได้มีคนล่อให้ตนออกไปหาทุ่งนาใกล้จุดเกิดเหตุ แต่เมื่อไปถึงกลับเจอกลุ่มผู้ก่อเหตุ ตนจึงได้ขี่ จยย. หนี และมาทราบภายหลังว่าเด็กหญิงถูกฟัน

ชายคนดังกล่าวได้กล่าวขอโทษเด็กหญิง พร้อมแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งทางพ่อแม่ของเด็กหญิงไม่ได้ติดใจ และยังขอบคุณที่ออกมาเป็นพยานให้