ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุจาก หญิง อายุ 46 ปี ชาว ต.บ้านแดง อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี อาชีพ หมอนวดแผนโบราณ ว่า ถูก หญิงคู่กรณี ที่รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊กหลอกลวง
โดยผู้เสียหายเล่าว่า รู้จักหญิงคู่กรณี ตั้งแต่ปี 2563 รู้จักผ่านทางเฟซบุ๊ก เขาอ้างตัวเป็นหมอดู มีค่าครู 199 บาท ต่อครั้ง ดูดวงกันเรื่อยมา จนสนิทสนมกัน กระทั่ง สิงหาคม 2566 ตนตกงาน เป็นช่วงเครียดๆ จึงโทรไปเล่าเรื่องให้หมอดูฟัง ว่าตอนนี้ตนตกงาน ช่วยดูดวงให้หน่อย
อีกฝ่ายบอกว่าตนมีเคราะห์กรรม ต้องทำพิธีสะเดาเคราะห์ รวมเป็นเงิน 6,999 บาท และสัญญาว่าจะคืนเงินให้ 6,900 บาท ส่วนอีก 99 บาทเป็นค่าครู แต่ก็ไม่ได้คืน ทั้งยังหลอกว่ามีค่าค่าลาขันธ์ครู 3,999 บาท ตนก็โอน
หญิงคู่กรณียังเคยโทรศัพท์มาขอเงิน 2,000 บาท เพื่อไปทำบุญให้เด็กกำพร้า ซึ่งตนไม่ได้ติดใจเรื่องนี้ แต่ในการทำพิธีทุกครั้ง เขาก็ไม่เคยส่งภาพมาให้ตนดูว่าไปทำพิธีที่วัดไหน มีแต่ส่งมาครั้งแรกแล้วก็ไม่ส่งอีกเลย และมีการขอเงินอีกหลายครั้ง แต่ตนจำไม่ได้ แต่รวมๆยอดเงินที่โดนหลอกไปประมาณ 53,000 บาท
แรกๆ ก็ติดต่อได้ แต่ก็พูดจาบ่ายเบี่ยง อ้างโน่นนี่นั่น สุดท้ายก็ปิดเฟซบุ๊กหนี และโทรติดต่อไม่ได้ และตนก็จำชื่อเฟซบุ๊กของเขาไม่ได้ด้วย จึงมาแจ้งความให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุม และทวงเงินที่สูญไปกลับคืนมาให้ด้วย
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของ หญิงที่อ้างตัวเป็นหมอดู ทราบว่า เป็นหญิง อายุ 27 ปี ชาว ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร มีหมายจับจากศาลแขวงนครสวรรค์ ในข้อหา ฉ้อโกงผู้อื่นและโดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวงนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่มิได้กระทำต่อประชาชน แต่เป็นการกระทำต่อบุคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งตำรวจ สภ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ได้ตั้งรางวัลนำจับ 10,000 บาท หากใครมีเบาะแสจนนำสู่การจับตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้