จากรายการโหนกระแสวันนี้ ที่ได้พูดคุยกรณีครอบครัวของ คุณสมพร อายุ 50 ปี ที่เสียชีวิต หลังมีอาการป่วยหนักกลางดึก ทางครอบครัวรีบพาไปโรงพยาบาลสูงเนิน แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่และพยาบาลที่เข้าเวร ถามว่ามาทำไมตอนนี้ มาก็ทำอะไรไม่ได้ ไล่ให้รับยาแล้วกลับบ้าน สุดท้ายวันต่อมา นายสมพรก็เสียชีวิต ทั้งยังมีถ้อยคำพูดต่างๆ ทั้งก่อน และหลังเสียชีวิต ที่ทำให้ทางครอบครัวใจสลาย
ยิ่งไปกว่านั้น ลูกสาวที่กำลังจะเข้ารับพิธีรับปริญญาในเดือนหน้า ก็สวมชุดครุยในวันเผาศพพ่อ เพราะพ่อหวังมาตลอดจะได้เห็นลูกรับปริญญา แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝัน มาเสียชีวิต ทั้งที่ถ้าได้รับการรักษาที่ทันท่วงที พ่ออาจจะไม่ถึงแก่ชีวิตก็เป็นได้
ในรายการมีการโฟนอินพูดคุยกับ ผอ.โรงพยาบาล แต่พูดคุยได้ไม่นาน เมื่อถูกทางครอบครัวจี้ถามเรื่องคำพูดของ ผอ. ที่มาพูดในการเจรจา ว่าเรื่องแบบนี้อาจจะมีผิดพลาดกันได้ ก็ทำให้ ผอ.ขอยุติการโฟนอิน แล้วบอกว่ารอมาพูดคุยกันอีกที วันที่ 1 สิงหาคมตามนัดดีกว่า
เรื่องนี้ ทำให้ ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ซึ่งมีความหลังกับโรงพยาบาลแห่งนี้ เพราะคุณแม่ของทนายแก้วเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งนี้เหมือนกัน บอกว่าจะขอทำคดีนี้ให้ด้วยตัวเอง ทำให้ฟรี เพราะเข้าใจความรู้สึกผู้สูญเสีย เข้าใจว่าการถูกปฏิบัติเหมือนเป็นพลเมืองชั้นสองนั้นรู้สึกอย่างไร
ส่วนที่ติดค้างคาใจทนายแก้วคือ บางครั้งไม่ต้องรอให้พิสูจน์ว่าใครถูกใครผิด แต่คำว่าขอโทษมันพูดได้เลย แม้แต่ทางธนกฤต เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ท่านยังกล่าวขอโทษทางครอบครัวก่อนเลย แต่เท่าที่ฟัง ไม่มีคำว่าขอโทษออกมาจากปาก ผอ.สักคำเดียว
เรื่องนี้ถ้าหากทางครอบครัวไม่ได้ต้องการจะไกล่เกลี่ย ในวันที่เจรจาก็สามารถยืนหยัดบนหลักกฎหมาย จะดำเนินการตามกฎหมายได้เลย ขึ้นอยู่กับทางครอบครัวจะดำเนินการอย่างไร
ทนายแก้วถึงกับเสียงสั่นเครือในตอนที่พูดว่า “ผมรู้สึกว่า เขาถูกทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นพลเมืองชั้นสอง ผมเข้าใจ ผมเคยรู้สึกเหมือนกับเขา ชาวบ้านมาบางทีปล่อยให้เขานั่งรอไป จนสภาพจิตใจเขาเป็นแบบนี้ เขาเลยต้องมาร้องเรียนแบบนี้”