นักเรียนชั้น ม.6 ถูกนักเรียนชั้น ม.5 รุมทำร้าย เนื่องจากพี่ ม.6 แซวน้องว่าขี้เก๊ก จนเป็นสาเหตุทำให้รุ่นน้องไม่พอใจยกพวกมารุมเตะต่อยจนได้รับบาดเจ็บ ทำให้ผู้ปกครองของนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บเกิดความไม่พอใจ เตรียมที่จะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.นครราชสีมา ทางโรงเรียนได้เชิญผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายเข้ามาพูดคุยกัน และเตรียมดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
โดยพ่อของนักเรียนชั้น ม.6 เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรุนแรงจนตนไม่สามารถรับได้ เห็นลูกนอนเจ็บที่โรงพยาบาล ตนรู้สึกสงสารจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ อยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษ ขณะนี้ลูกตนมีอาการปวดศีรษะ ตาพร่าและมีแผลฟกช้ำบริเวณศีรษะ ดั้งหัก มีเลือดคั่งอยู่ในโพรงจมูก และทางบ้านก็ไม่มีเงินพอที่จะไปทำศัลยกรรมได้ วันข้างหน้าต่อไปก็ไม่รู้ว่าจมูกจะเบี้ยวหรือไม่ แต่ที่กังวลที่สุด คือ กลัวว่าจะได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง และในขณะนี้ยังไม่มีใครยื่นเลยมาช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลแต่อย่างใด โชคดีที่สุขภาพจิตของลูกยังสู้ แต่วัยรุ่นไม่น่าทำกันรุนแรงขนาดนี้เลย คนที่ก่อเหตุรู้จักกันเพียงแค่คนเดียว คนอื่นไม่เคยรู้จักกันเลย ตนคิดว่ากฎหมายศักดิ์สิทธิ์จึงใช้กฎหมายเข้าช่วยเหลือ พร้อมทั้งครูอาจารย์ฝ่ายปกครองของโรงเรียนให้ความร่วมมือกับผู้ปกครองเป็นอย่างดี ช่วยหาหลักฐานคลิปและภาพจากกล้องวงจรปิด
โดยทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งมองใจอย่างที่ตนเข้าใจผิดในตอนแรก โดยเฉพาะทางผู้อำนวยการได้มาเจรจาด้วยตัวเอง เพื่อให้ทุกอย่างยุติด้วยดีและให้ความร่วมมือดีมาก โดยทางโรงเรียนได้ขอเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อดำเนินการตามระเบียบของโรงเรียน ล่าสุดตนเองพร้อมกับผู้ปกครองได้เดินทางเข้าแจ้งความ และหลังจากนี้ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องของการดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านแม่ของนักเรียน ม.6 ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ตนรู้สึกเสียใจมากที่ลูกชายโดนกระทำขนาดนี้ เป็นการกระทำที่ค่อนข้างรุนแรงทั้งที่อยู่ในโรงเรียน ตนเองมีคลิปเป็นหลักฐาน หลังจากนี้จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียน เผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นครูได้นำนักเรียนชั้น ม.6 ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่งโรงพยาบาลทันที ก่อนที่ครูได้มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา เบื้องต้นได้พูดคุยกับผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายและขอเวลาสืบหารายละเอียดและข้อเท็จจริง หาข้อสรุปภายใน 5 วัน แต่ในกรณีที่ผู้ปกครองต้องการให้ทางโรงเรียนแจ้งความร่วม เพื่อเอาผิดนักเรียนที่ก่อเหตุ ตนแจ้งว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากนักเรียนก็อยู่ในการปกครองของโรงเรียนทั้งคู่ หากเป็นบุคคลภายนอกเข้ามาทำร้ายถึงจะสามารถแจ้งความบุกรุกหรือกระทำผิดในโรงเรียนได้
อย่างไรก็ตามในกรณีดังกล่าวทางโรงเรียนไม่สามารถลงโทษนักเรียนที่ก่อเหตุโดยการบังคับให้นักเรียนย้ายหรือไล่ออกได้ ต้องเป็นการย้ายโดยสมัครใจจากผู้ปกครองและนักเรียนเพียงเท่านั้น สำหรับหลักฐานในขณะนี้ทางโรงเรียนได้รวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานบุคคลที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อหาตัวคนผิด จากนั้นก็จะดำเนินตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการว่าไปตามผิดถูก
จากการที่ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยสอบถามผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุบางราย เล่าว่า หลังจากที่ได้พบและพูดคุยกับครูฝ่ายปกครองและครูที่เกี่ยวข้อง แจ้งว่าทางโรงเรียนอาจจะมีการลงโทษทำทัณฑ์บน พร้อมทั้งอาจจะให้ผู้ปกครองพิจารณาย้ายเด็กนักเรียนกลุ่มที่ก่อเหตุไปเรียนที่อื่น ผู้ปกครองบางรายได้แสดงความเสียใจและขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่บางรายยังไม่ปักใจเชื่อว่าลูกตัวเองเป็นคนลงมือกระทำความผิดนี้
ล่าสุด แม่ของนักเรียนหนึ่งในที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตอนนี้มีข้อสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนผู้เป็นแม่มองว่ายังไม่เห็นหลักฐานที่ว่าเป็นลูกของตัวเองกระทำความผิดจริงหรือไม่ เนื่องจากตนขอดูคลิปหลักฐานดังกล่าว แต่ทางโรงเรียนก็ปฏิเสธที่จะให้ดู ถ้าหากว่าลูกเราไปทำคนอื่น เราผู้เป็นแม่แท้ๆ ขอดูหลักฐานตรงนี้ทำไมขอดูไม่ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนได้พูดคุยกับผู้อำนวยการก็แจ้งว่าขอเวลารวบรวมข้อมูลเพื่อจะสรุป และค่อยให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกันอีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์
แต่มาวันนี้สรุปจะให้ลูกของแม่ย้ายโรงเรียนแต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่ให้เราเห็นหลักฐานหรือได้ชี้แจง ทั้งนี้ตนได้สอบถามคนรอบข้างและผู้ที่เห็นเหตุการณ์ จึงทราบว่าลูกของตนไม่ได้กระทำการรุนแรงแต่ยอมรับว่าลูกตนอยู่ในกลุ่มผู้ก่อเหตุ จึงอยากให้สื่อเป็นกระบอกเสียงและเป็นสื่อกลางประสานว่าทำไมถึงพยายามจะให้ลูกออกจากโรงเรียนนี้ โดยยังไม่ได้คุยรายละเอียด เหมือนแม่ไปวันนี้เพื่อที่จะไปเซ็นใบลาออกให้ลูกเลย เหมือนทางโรงเรียนปล่อยให้ลูกเราลอยแพให้ออกมาและไม่ได้ถามสักคำว่าจะให้ไปเรียนต่อที่ไหน จะต้องทำอย่างไรต่อไป ตนจึงอยากจะขอความเป็นธรรมด้วย