จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพหุ่นยนต์เหล็ก อ็อปติมัส ไพร์ม ถูกนำมาประดับพวงมาลัย ผูกผ้า 3 สี และมีการตั้งกระถางธูปพร้อมแผ่นหินสลักคาถาบูชาไว้ด้านหน้า พร้อมข้อความที่ระบุว่า “รู้หรือยังว่า นนทบุรี ก็มี อ็อปติมัส นะเออ” ทำให้เกิดกระแสพูดถึงอย่างแพร่หลายในโลกโซเชียลเกี่ยวกับความเหมาะสมของการกระทำดังกล่าว
ล่าสุด พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ โดยชี้ว่าการนำคาถาบูชาพระรัตนตรัยไปผสมกับคาถาที่ถูกแต่งขึ้นเองเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับพุทธศาสนิกชนได้
พระพยอมกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นแนวทางของพระพุทธศาสนา แม้ว่าจะมีการนำคำว่า “พุทธะ ธัมมะ” มาใช้ในคาถาบูชา แต่แท้จริงแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าแต่อย่างใด นี่เป็นเพียงการสร้างเรื่องให้ดูศักดิ์สิทธิ์และขลังตามความเชื่อของผู้คิดขึ้นมาเองเท่านั้น คล้ายกับกระแสความเชื่อสายมูเตลูที่มักสร้างคาถาหรือเครื่องรางใหม่ ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ โดยเชื่อมโยงกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล
“เรื่องแบบนี้มันจะมีมาเรื่อย ๆ สมัยก่อนก็มีคาถาชินบัญชรที่ใช้บูชาสมเด็จโต ต่อมาก็มีพระพิฆเนศ เวสสุวรรณ และอื่น ๆ ตามความนิยม แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แนวทางของพระพุทธศาสนาแท้ ๆ การทำเช่นนี้จึงเป็นเรื่องของสายมูเสียมากกว่า” พระพยอมกล่าว
เมื่อถูกถามว่าการกระทำดังกล่าวถือว่าผิดหลักพุทธศาสนาหรือไม่ พระพยอมชี้ว่า หากมีเจตนาเพื่อให้ผู้คนงมงาย หลงเชื่อในอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ หรือหันไปบนบานสานกล่าวกับหุ่นยนต์ อ็อปติมัส ไพร์ม แทนที่จะยึดมั่นในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็ถือว่าไม่ถูกต้องและอาจนำไปสู่ความเสื่อมถอยของศาสนาได้
“ดูอย่างศาสนาอิสลาม เขาไม่เคยมีความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ นอกจากองค์อัลเลาะห์ ชาวพุทธควรตระหนักว่าพระพุทธองค์คือที่พึ่งสูงสุด พระธรรมที่พระองค์ตรัสสอนไว้ยังคงเป็นอมตะและยืนยงมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นเราควรยึดถือพระรัตนตรัยเป็นหลัก อย่าไปหลงงมงายในสิ่งที่ไม่ใช่แก่นแท้ของศาสนา” พระพยอมกล่าวทิ้งท้าย