เด็กชาย 4 ขวบ พิการ ถูกปล่อยอยู่บ้านตามลำพัง พ่อน้ำตาซึม เผยจำเป็นต้องทิ้งไว้เพราะต้องทำมาหากิน วอนเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ อยากให้ลูกได้อยู่ในที่ที่ดีกว่า

เมื่อค่ำวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีเด็กเล็กเพศชาย ไม่สวมเสื้อผ้า ถูกกักขังอยู่หลังห้องเช่า พื้นที่ ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง ลพบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าของห้องเช่าร่วมตรวจสอบด้วย

เมื่อไปถึงพบนายเอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี พ่อ และ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 40 ปี แม่เลี้ยง และเด็กชาย อายุ 4 ขวบ พิการทางสมองตั้งแต่เกิด สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เดินได้ กินอาหารได้เอง แต่ชอบถอดเสื้อผ้าและโวยวายเมื่อไม่มีใครอยู่ด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบแล้ว ไม่ได้เป็นการกักขัง ทารุณกรรม จึงเดินทางกลับ

ด้านพลเมืองดีที่บันทึกภาพเด็กชายอยู่ด้านหลังห้องเช่า สภาพเนื้อตัวมอมแมม ไม่สวมเสื้อผ้า เดินวนเวียนไปมาจนค่ำ ซึ่งคาดว่าน่าจะมียุงกัด จึงเอาน้ำและขนมให้กิน จนฝนตกหนัก เกรงว่าน้องอยู่เพียงลำพังจะเกิดอันตราย เป็นกังวลอยู่นาน จึงตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังห้องเช่า สภาพภายในห้องสะอาดเรียบร้อย สอบถาม น.ส.บี แม่เลี้ยงที่ดูแล เผยว่า น้องนอนอยู่หลังห้อง สามารถรับรู้เสียงเรียกของทุกคน แต่พูดไม่ได้ น้องเป็นลูกติดมาจากสามี ซึ่งพบครั้งแรกก็พิการเช่นนี้ ตนไม่ได้รังเกียจ ดูแลน้องมากว่า 3 ปีแล้ว

แต่ก็ดูแลตามสภาพ เพราะตนและสามีต้องทำมาหากิน ความเป็นห่วงมีอยู่แล้ว บางครั้งต้องปล่อยให้น้องอยู่คนเดียว แต่ไม่บ่อยนัก เคยพาน้องไปฝากเรียนหลายที่ แต่ไม่มีที่ใดรับเนื่องจากติดเงื่อนไข เป็นเพียงผู้พิการประเภท 2 ซึ่งตนและสามีไม่ได้นิ่งนอนใจ หาหนทางเพื่อให้น้องได้อยู่ในสภาพที่ดีกว่าเหมือนกัน

ด้านพ่อของเด็ก ซึ่งรับจ้างจัดร้านทั่วไปที่ตลาดโต้รุ่ง กล่าวว่า ตนเลิกรากับอดีตภรรยา น้องพิการตั้งแต่เกิด เนื่องจากขณะตั้งท้องอดีตภรรยากินยาลดความอ้วนติดต่อกันจนคลอดน้อง แพทย์ระบุน้องพิการด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และพิการตลอดไป

ตนรักลูก จะไม่ทิ้งลูก ขอลูกนำมาเลี้ยงเองแม้จะอยู่ตัวคนเดียว จนมาพบกับแฟนใหม่ ซึ่งอายุต่างกันกว่า 15 ปี และได้ดูแลน้องมาด้วยกันตลอด หากฝนไม่ตกก็จะนำน้องมาเลี้ยงที่ตลาด แต่หากฝนตกก็จะให้น้องอยู่ในห้อง และสลับสับเปลี่ยนกันไปดู ซึ่งกว่าจะเสร็จงานก็ค่อนเช้า

ขอบคุณเพื่อนบ้านที่มีเจตนาดี ที่เป็นห่วงน้อง ต่อไปจะไม่ทิ้งน้องไว้คนเดียวอีก หากมาทำงานกันทั้งสองคนก็จะนำไปฝากญาติ หรือให้ญาติมาดูแลน้องที่ห้อง ตอนนี้หวังเพียงให้ลูกได้อยู่ดีมีสุขเหมือนเด็กคนอื่นๆ

แต่เนื่องด้วยความจำเป็นที่ต้องทำหากิน บ้านต้องเช่า รถต้องผ่อน อยากวิงวอนถึงเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็ก โปรดพิจารณาน้องไว้ด้วยสักคน ตนพร้อมทำหน้าที่ของพ่อ จะไปดู จะส่งเสีย หากลูกได้อยู่ในสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่านี้

ที่มา : ข่าวสด