อัปเดตคดี “ทิดแย้ม” ยักยอกเงิน “วัดไร่ขิง” ปมเซ็กซ์โฟน ต้นเหตุให้หลงจนโอนแบบหน้ามืดตามัว กับเรื่องราวของ “หมอเตย” ที่เรียกว่าหมอแต่จริงๆเป็นร่างทรง

หลังจากเมื่อวานนี้ กองบังคับการปราบปราม นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ได้แถลงความคืบหน้าคดีอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยักยอกเงินวัด ล่าสุด รายการ “โหนกระแส” ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม โดยมี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ, พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. และ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เข้าร่วมรายการ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ตลอด 7 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เก็บข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งจากการลงพื้นที่และการสืบสวนทางเทคโนโลยี เป้าหมายหลักคือหยุดยั้งความเสียหายที่เกิดกับวัด และแยกปัญหาให้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่ใช่ของวัดโดยรวม

จากการสืบสวน พบหลักฐานสำคัญเป็นคลิปเสียง "เซ็กซ์โฟน" ระหว่าง “ทิดแย้ม” อดีตเจ้าอาวาส และ “เก็น อรัญญาวรรณ” หญิงสาวรายหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า อดีตเจ้าอาวาสซึ่งบวชมานานและไม่ทันโลก เมื่อเจอสีกาออดอ้อนก็หลงใหลหนักถึงขั้นโอนเงินจำนวนมากให้ฝ่ายหญิง คลิปเสียงดังกล่าวเผยช่วงท้ายของความสัมพันธ์ ที่อดีตเจ้าอาวาสกล่าวว่า "ไม่มีให้แล้ว ทั้งชีวิตให้เธอไปแล้ว" หลังจากถูกจับกุม ท่านยอมลาสิกขาด้วยตนเอง และไม่ขอประกันตัว ยอมรับว่าทำผิดจริง

ขณะเดียวกัน รายการได้สัมภาษณ์ “บอย” สามีของ “เก็น” ที่ออกมายืนยันว่า ภรรยายังยืนยันความบริสุทธิ์ในเรือนจำ และพร้อมจะสู้คดี โดยบอยระบุว่า หากมีเงินกว่า 300 ล้านเข้าบัญชีจริง ทำไมยังมีหนี้สินมากมาย รถ บ้านก็ยังผ่อนอยู่ บอยยอมรับว่าเล่นพนัน เช่นเดียวกับเก็น แต่ไม่รู้ว่าเล่นมากน้อยแค่ไหน เคยยืมเงินเก็นหลักแสนและคืนหมดแล้ว พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นเจ้าของเว็บพนัน

บอยยังกล่าวว่า ไม่เคยรู้ว่าเก็นมีสัมพันธ์กับทิดแย้มแบบเซ็กซ์โฟน หากตำรวจมีคลิปก็ต้องยอมรับ พร้อมสะอื้นเผยว่าไม่ได้โกหก และยังเชื่อใจภรรยาอยู่เสมอ

ในส่วนของ “หมอเตย” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า หมอเตย และ พ.จ.อ. สามีของเธอ ซึ่งมีบทบาทในวัดไร่ขิง มีทรัพย์สินจำนวนมาก ทั้งที่ดิน รีสอร์ท คาเฟ่ ในมุกดาหาร เชียงใหม่ สุโขทัย รวมกว่า 100 ล้านบาท และมีธุรกิจค่ายเพลง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประสาน ปปง. ตรวจสอบว่าทรัพย์เหล่านี้ได้มาโดยชอบหรือไม่

จากการตรวจสอบพบว่าหมอเตยเป็น หมอดูร่างทรง ไม่ใช่หมอและ ยังพบว่าเป็นผู้มีอิทธิพลกับทิดแย้มอย่างมากในการบริหารจัดการภายในวัด  

โดยสิ่งที่พบคือร้านค้าสวัสดิการในวัด มีคนมาร้องว่าไปซื้อกาแฟ แต่บัญชีในการสแกนไม่ใช่ชื่อของวัดแต่เป็นชื่อของบุคคล ซึ่งก็จะต้องสืบสวนดำเนินการต่อ

จากการสืบสวนเบื้องต้นข้อมูลที่ได้มาพบว่าหมอเตยเคยเขียนหนังสือความเชื่อมโยงการเกิด แก่เมื่อชาติปางก่อน ว่าทิดแย้มกับหมอเตยมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ซึ่งข้อมูลนี้เป็นการสอบถามข้อมูลจากคนใกล้ชิด แต่ยังหาพยานหลักฐานไม่ได้ว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันหรือไม่

นอกจากนี้ยังพบว่าในช่วงแรกทางทิดแย้มมีการดุด่าว่ากล่าวหมอเตย แต่ช่วงหลังมีการเปลี่ยนไปไม่ฟังเสียงคนอื่น  โดยวิธีเข้าหาอดีตเจ้าอาวาส ซื้อใจด้วยการเขียนหนังสือเกี่ยวกับพรหมลิขิต อ้างเรื่องอดีตชาติ อ้างว่าในอดีตชาติเป็นพี่น้องกัน ทำให้ทิดแย้มหลงเชื่อและไว้ใจ ส่งเสริมให้หมอเตยทำเพลงเพื่อใช้ในกิจกรรมวัด จนได้รับความไว้วางใจสูงสุด

ข้อมูลที่ได้มาพบว่า หมอเตยและสามี เข้าออกกุฏิอดีตเจ้าอาวาสเป็นประจำ และมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 1 พันล้านบาท