'สายไหมต้องรอด' พาหญิงวัย 72 ตามคดี ถูกเจ้าหนี้นอกระบบทำร้าย หลังแจ้งความไป 7 วัน ไม่ความคืบหน้า หวั่นโดนทำร้ายซ้ำ
วันนี้ (27 ก.ค 67) ที่ซอยโชคชัย4 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาหญิงอายุ 72 ปี ติดตามความคืบหน้าคดีที่ถูกเจ้าหนี้นอกระบบ ดอกเบี้ยร้อยละ 30 ยกพวกรุมทำร้าย หลังตามทวงเงินลูกหนี้อีกรายไม่ได้ แจ้งความมา 7 วัน ยังไม่คืบหน้าแต่อย่างใด
หญิงผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเองรู้จักกับแก๊งเงินกู้รายนี้ประมาณเดือนพฤษภาคม 2567 โดยเขามาหาคนกู้เงิน ซึ่งตนเองได้กู้ไปจำนวนเงิน 6,000 บาท ส่งวันละ 300 บาท จากนั้นเขาได้ให้เราไปหาคนมากู้เพิ่ม เพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องหาคนมาค้ำเงินกู้ จากนั้นมีเพื่อนบ้านที่อยู่ห้องใกล้ๆมากู้อีก 2 เจ้า โดยเจ้าหนี้ได้ให้ตนเองเป็นคนรวบรวมเงินจากลูกหนี้ที่ตนหามาเพิ่ม
จากนั้นเมื่อตนเองปิดยอดเก่าไปแล้ว ก็ได้ขอกู้ใหม่เป็นเงิน 10,000 บาท ผ่อนวันละ 500 บาท รวม 24 วัน ซึ่งถูกหักค่าเปิดบุ๊ก รวมดอกแรกเข้าไป 1,000 บาท ที่ผ่านมาตนเองและลูกหนี้รายอื่นๆไม่เคยขาดส่งเงินรายวัน หรือแม้จะส่งไม่ครบแต่ก็ทบเพิ่มให้ในวันถัดไป
ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนเกิดเหตุวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 ปกติตนเองจะต้องรวบรวมเงินไปส่งให้เขาจำนวน 1,900 บาท เป็นยอดของตนเอง 1,000 บาท เป็นของน้องอีก 2 คน รวม 900 บาท แต่วันนั้นเก็บยอดส่งได้แค่ 1,200 บาท เขาไม่พอใจ จึงโทรมาด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย และตอนนั้นน้องได้โอนเงินมาให้แล้ว แต่ตนเองหลับจึงไม่ได้เปิดอ่าน ตื่นมาดูก็เห็นยอดเงินโอนเข้ามา จากนั้นตนเองก็โอนไปให้เขาทันที แต่ไม่ทัน เขาไปต่อว่าน้องแล้ว ก็คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว
กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 21 ก.ค.2567 แก๊งเงินกู้ 4 คน ได้ขับเก๋งมาเข้ามาถามหาน้องคนที่จ่ายเงินช้าเมื่อวาน ซึ่งในวันนี้ไม่ได้จ่ายเงิน ทำให้เขาต้องมาตามถึงที่ โดยให้ตนเองเป็นคนพาไปตาม แต่เขาไม่อยู่ ตอนนั้นตนเองยอมรับว่าได้ด่ากลุ่มแก๊งเงินกู้ไป ตรงนี้อาจจะทำให้เขาไม่พอใจแล้วทำร้ายตน
โดยถูกตบเข้าที่ใบหน้าหลายครั้ง ตนก็พยายามเดินหนี แต่อีกฝ่ายเดินตามเตะตัดขาเพื่อให้ล้ม จากนั้นได้หยุมหัวตนเองแล้วตบอีก ก่อนที่ลูกสาวจะออกมาตะโกนใส่แก๊งเงินกู้จึงหยุด
ตนจึงตัดสินใจร้องเพจสายไหมต้องรอด และแจ้งความดำเนินคดีไว้แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ความคืบหน้า ถ้าอีกฝ่ายมาขอโทษก็จะไม่ให้อภัย และอยากจะขอค่ารักษาพยาบาล เพราะต้องเสียค่ารักษาไป 2,500 บาท
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ กล่าวต่อว่า ปัญหาคือ เรื่องนี้เป็นนโยบายของทาง รัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ห้ามให้เจ้าหนี้ใช้พฤติกรรมที่รุนแรงกับลูกหนี้ แต่เหตุการณ์นี้ ได้ไปแจ้งความตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. แต่ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ โดยตำรวจอ้างว่า ทะเบียนรถที่คนร้ายใช้เป็นทะเบียนปลอม หน้าตาคนร้ายก็ไม่รู้ จึงไม่สามารถติดตามคนร้ายได้ ตนมองว่า คำตอบนี้ ไม่น่าจะออกมาจากปากตำรวจ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน อยู่ระหว่างลงพื้นที่ เพื่อสืบหาคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป