หนึ่งในประเด็นที่มีการถกเถียงในกลุ่มผู้เสียหาย ที่มาร่วมรายการโหนกระแส เรื่องซื้อทอง “แม่ตั๊ก” ในวันนี้ คือกรณีของการที่มีผู้เสียหายบางส่วน ต้องการจะขายทองคืนให้ป๋าเบียร์ และ แม่ตั๊ก ให้จบสิ้นกันไปในวันนี้ โดยบางคนยินดีจะขายตามราคาที่สมาคมผู้ค้าทองปะเมิน ซึ่งจะเป็นราคาขาดทุน
โดยตัวแทนของผู้เสียหายในฝั่งที่ต้องการเงินคืน ให้เหตุผลว่า ตนทำงานหาเช้ากินค่ำ ไม่ได้เป็นคนร่ำรวย และยังต้องทำมาหากินทุกวัน ที่ซื้อทองก็หวังจะออมเงินไว้ ถึงเวลาทองราคาขึ้นก็จะเอาออกมาขาย หวังได้เงินไปสร้างบ้าน แต่พอมามีเรื่องแบบนี้ ตนไม่มีเวลาที่จะไปติดตามให้เรื่องราวมันยืดเยื้อ ถ้าวันนี้ทางแม่ตั๊ก ทางป๋าเบียร์ ยินดีซื้อทองคืน ตนก็พร้อมจะขายเอาเงินคืนมา
ขณะที่ผู้เสียหายอีกส่วนมองว่า หากปล่อยให้เขาจ่ายเงินคืนแล้วจบกันไป ก็เหมือนเป็นการให้เขามารับผิดชอบเพื่อฟอกขาว โดยไม่ต้องรับผิดชอบในกรณีที่เขาทำผิด และผู้เสียหายส่วนที่เหลือ ต้องการที่จะดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมายกันต่อ
ซึ่งในเรื่องนี้ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถกเถียงกันในหมู่นักเรียนห้องโหนกระแส ว่าที่ออกมาร้องเรียน คือต้องการจะได้ความเป็นธรรม ต้องการให้คนผิดรับโทษ หรือต้องการจะได้เงินคืนเฉยๆ เพราะถ้าแค่ได้เงินคืนแล้วยอมจบๆ กันไป การที่มานั่งพูดคุยทั้งหมดในวันนี้ก็คงไม่มีความหมาย
อย่างไรก็ตาม นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สคบ. ให้ความเห็นไว้ว่า ในทางกฎหมาย คดีฉ้อโกงประชาชน ผู้เสียหายคือรัฐ ต่อให้เยียวยายังไงคดีมันก็ไม่จบ ส่วนกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ถ้ามันพิสูจน์ได้ว่าการโฆษณาขายทองมันมีความผิด เมื่อ สคบ.รับเรื่องแล้ว ต่อให้เยียวยาค่าเสียหาย แต่คดีมันหยุดไม่ได้ มันต้องถึงที่สุด
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง