ญาติแจง ปมคลิปรถกู้ภัยเปิดไซเรนแต่แวะจอดปั๊ม ต้องรีบนำร่างแม่กลับบ้าน เหตุไม่มีเงินฉีดยาฟอร์มาลีน

จากกรณีมีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความลงในเพจ “ควายหลุดถนนv.2” ว่า “ทุเรศ !!! มิติใหม่ ในการเดินทางช่วงเทศกาล ไม่ต้องกลัวรถติด เราขับรถมากำลังจะไปเหนือ (ถึงช่วงอ่างทอง) ก็เจอรถกู้ภัยเปิดหวอ เราก็หลบให้ตามมารยาทและความถูกต้อง  เราก็ขับไปตามปกติและจอดปั๊มเพื่อเข้าห้องน้ำ ในระหว่างยืนทำธุระส่วนตัวอยู่ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดมาจากทางฝั่งห้องน้ำหญิง(น่าจะค่อนข้างมีอายุละ)น่าจะคุยโทรศัพท์ว่า รถเยอะอยู่ แต่เช่ารถกู้ภัยมา เขาเปิดหวอให้ก็ไม่ติด แต่ก็ไม่ได้เร็วมากหรอก อะไรประมาณนี้

พอได้ยินแบบนี้เรานี่ หัวร้อนเลยคนแบบนี้ก็มีเหรอวะ รถเขาเอาไว้ใช้ในเหตุฉุกเฉิน ต้องโตมาในสังคมแบบไหนวะเนี่ยถึงไม่รู้ว่ารถเอาไว้ในเหตุการณ์อะไร  พอผมเลื่อนรถจะออกจากปั๊มก็เห็นรถกู้ภัยจอดอยู่คันในรูปทะเบียนเดียวกับคันที่เราหลบให้ทีแรก มีกลุ่มคนกำลังเดินไปขึ้นรถบางส่วนมาจากห้องน้ำ บางส่วนเดินมาจากทางร้านสะดวกซื้อ เหมือนน่าจะเดินทางไปไหน ไปเที่ยว หรือ กลับบ้านไม่รู้ เราก็ขับรถออกไปจากปั๊ม สักพักรถกู้ภัยคันนี้ก็มีอีกแล้วเปิดหวอมาเลย พอมาถึงคันเรา บีบแตรไล่ด้วย คือต้องเป็นคนแบบไหนเหรอ? ถึงทำเรื่องแบบนี้ได้เทศกาลรถก็ติดพออยู่แล้ว ยังมาทำแบบนี้คนอื่นๆที่เขาไม่รู้ต้องเบี่ยงหลบ รถก็ยิ่งติดไปใหญ่ถ้าคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันถูกก็ทำต่อไปเถอะครับ แต่สำหรับเรา เราคิดว่ามันไม่ถูก ฉุกเฉินมากครับ แวะปั๊มเข้าห้องน้ำ แวะซื้อของร้านสะดวกซื้อ 555+”

โดยมีภาพประกอบเป็นรถตู้ของหน่วยพยาบาลของเอกชนที่จอดอยู่ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่ อ.บางปะหัน โดยมีประตูเปิดให้คนลงมาคาดว่าเป็นญาติของผู้เสียชีวิตที่อยู่ภายในรถ อีกทั้งยังโพสต์เป็นคลิปวิดีโอ ขณะที่ผู้โพสต์ขับรถโดยมีเสียงหวอ และเสียงบีบแตร ของรถพยาบาลคันดังกล่าวตามมาด้านหลังโดยเสียงภายในคลิปมีเสียงก่นด่า ปนเสียงบ่นออกมาว่า จากนั้นเป็นภาพที่รถพยาบาลคันดังกล่าวได้เปิดไซเรนแซงไป ซึ่งต่อมาโพสต์และคลิปดังกล่าว ได้ถูกผู้โพสต์ลบออกไปบางส่วน

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางญาติผู้เสียชีวิตได้ประสานมายังผู้สื่อข่าวเพื่อขอชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเนื่องจากทางญาติผู้เสียชีวิตพร้อมลูกๆ ของผู้เสียชีวิต ถูกสังคมในโซเชียลประณาม โดยการ แสดงความคิดเห็นในคอมเมนต์ ในลักษณะมุมเดียว ทั้งที่เป็นคนที่สูญเสีย โดยทางญาติของผู้เสียชีวิตพยายามเข้าไปคอมเมนต์อธิบายทำความเข้าใจ จนมีผู้เข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 3  บ้านหนองผักหนาม ต.คลองสมบูรณ์ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ซึ่งกำลังมีการจัดพิธีทำบุญครบ 7 วันของหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตที่อยู่ในรถกู้ชีพดังกล่าว และได้พบกับลูกชายของผู้เสียชีวิต  ซึ่งทางญาติๆของผู้เสียชีวิตพร้อมชาวบ้านกำลังเตรียมอาหารหวานคาวเพื่อถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ที่มาทำพิธี ซึ่งลูกๆของผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 คน ยังคงอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจต่อการจากไปของผู้เป็นแม่ ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งในลำไส้

โดยที่ผ่านมาลูกชายคนโตได้นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล  ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จ.นครปฐมเป็นเวลากว่า 2 เดือน และเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้เป็นแม่ได้เสียชีวิตลง หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ทางลูกๆ ไปรับศพของผู้เป็นแม่ที่โรงพยาบาลดังกล่าว ช่วงนั้นฉุกละหุก จะนำร่างของผู้เป็นแม่กลับมายังภูมิลำเนาจังหวัดกำแพงเพชรเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อาจจะติดขัดในเรื่องของการจราจร ทางลูกชายของผู้เสียชีวิตจึงตัดสินใจว่าจ้างรถตู้ของหน่วยพยาบาลของเอกชนดังกล่าว ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์ในราคาถูกเพื่อนำร่างของผู้เป็นแม่กลับมายังภูมิลำเนาให้เร็วที่สุด โดยที่ไม่ได้ฉีดยาฟอร์มาลีนให้กับศพผู้เป็นแม่ เนื่องจากขัดสนเรื่องเงิน เพราะดำรงชีพอยู่ต่างจังหวัดหลายวัน มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

จากนั้น ประมาณเวลา 10.00 น. ของวันที่ 28 ธ.ค.67 รถตู้ได้เคลื่อนร่างของผู้เป็นแม่ออกมายังชานเมืองถนนสายเอเชีย บริเวณพื้นที่อำเภอบางปะหัน ญาติของผู้เสียชีวิตเกิดอาการ วิ่งเวียนศีรษะเนื่องจากเมารถจึงขอให้พนักงานขับรถรถตู้พยาบาลคันดังกล่าว แวะจอดบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนสายเอเชียเพื่อให้ญาติที่มากับรถได้เข้าห้องน้ำและเข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อหาซื้อยามาบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ ในระหว่างนั้นญาติที่มากับรถได้สังเกตเห็นว่า มีชายคนหนึ่งได้ยกโทรศัพท์ขึ้นเพื่อพยายามถ่ายภาพของรถตู้พยาบาลที่มีผู้เสียชีวิตอยู่บนรถ อยู่สักพักจึงได้ขับรถออกไปจากปั๊ม หลังจากนั้นรถตู้พยาบาลได้ออกจากปั๊ม เพื่อวิ่งไปตามขาขึ้นเส้นทางนครสวรรค์-กำแพงเพชร

โดยการจราจรในช่วงนั้นเริ่มติดขัดเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า คนขับรถตู้พยาบาลจึงเปิดไซเรนเพื่อขอทาง โดยมีช่วงหนึ่งญาติของผู้เสียชีวิตที่นั่งมาบนรถ สังเกตเห็นว่ามีรถยนต์เก๋งคันหนึ่งขับรถอยู่ทางด้านหน้าของรถตู้พยาบาล ไม่ได้หลบหลีกแต่อย่างใด หลังจากนั้นไม่นานรถตู้พยาบาลได้พยายามขับแซงขวาขึ้นไป จากนั้นร่างของผู้เป็นแม่จึงมาถึงภูมิลำเนาจังหวัดกำแพงเพชร ในเวลาประมาณ 16.00 น.

วันต่อมา ตนได้มาเห็นว่ามีผู้โพสต์ที่ไม่ระบุตัวตน โพสต์ถึงเรื่องราวต่างๆในระหว่างทางที่ ตนและน้อง ๆ ได้นำร่างของผู้เป็นแม่ กลับมายังจังหวัดกำแพงเพชรเพื่อมาบำเพ็ญกุศลลงในเพจของ“ควายหลุดถนนv.2” เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนรู้สึกไม่สบายใจทั้งที่ตนเป็นคนที่สูญเสียยังต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้อีก  บ้างก็หาว่าจ้างรถตู้พยาบาลติดไซเรนไปเที่ยวบ้างก็ว่าเกินไปไหมแบบนี้  อยากให้ทุกคนมองอีกมุมถึงเหตุผลของตน ซึ่งเป็นคนยากจนคนหนึ่งที่ไม่ค่อยมีสตางค์ค่ารถตู้ ค่าโลงศพ ส่วนหนึ่งก็มีคนช่วยบริจาคมาให้ ตนไม่ใช่คนร่ำรวยมีเงินมีทองอะไรอย่างที่หลายคนคิด  จึงขอชี้แจงออกสื่อให้รับทราบกัน หลายคนอาจจะมองว่าไม่มีเงินฉีดฟอร์มาลีนแต่ทำไมมีค่าจ้างรถตู้ เคลื่อนย้ายศพ เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอกับตัวเองคงไม่รู้ อยากจะให้สังคมเข้าใจตนบ้าง  คนที่ออกมาโพสต์ซึ่งไม่ระบุตัวตนก็ออกมาโพสต์โดยไม่รู้ข้อเท็จจริง ทำให้สังคมมองตนไปอีกด้านหนึ่ง  ซึ่งมันเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง อยากจะให้สังคมมองอีกมุม

จากนั้นจึงได้นำเอารูปถ่ายของพ่อและแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วออกมาให้ผู้สื่อข่าวดู แล้วกล่าวว่า“พี่น้องของตนมีทั้งหมด 5 คนซึ่งมีฐานะยากจน ไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร หลังจากที่พ่อเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้และแม่ของตนก็จากไปอีกอยากให้สงสารครอบครัวตนด้วย”