‘ทำไมดูเป็นคนใจร้ายจัง’ เรื่องเล่าภาคต่อจาก ‘คุณโปแปง’ เชื่อถูกหมอดูหลอกให้บูชาสิ่งของต่างๆ จนต้องเจอกับเรื่องแปลกๆ

หลังจากเรื่องเล่า ‘ทำไมดูเป็นคนดีจัง’ ของคุณปอย ที่เชื่อว่าตนเองนั้นเจอเรื่องไม่ดีเพราะถูกหมอดูขโมยดวง ได้รับความสนใจและเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง ล่าสุด ‘คุณโปแปง’ ก็ได้เล่าประสบการณ์แปลกๆ ที่มีกับหมอดดูรายดังกล่าว

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน คุณแม่ของเธอได้ร่วมงานปาร์ตี้ปีใหม่และเจอกับเพื่อน โดยเพื่อนได้พาหมอดูคนหนึ่งมางาน พร้อมบอกว่าดูดวงแม่น ก่อนกลับคุณแม่ได้แวะบอกลา แล้วหมอดูก็ทักทั้งเรื่องบูชาพระแม่ แนะนำให้บูชาพระแม่กาลีเพิ่ม และทักเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องบ้านซึ่งตรงมากเพราะไม่เคยบอกใครมาก่อน

เมื่อแม่กลับมาเล่าให้ฟัง เธออยากบูชาพระแม่กาลีอยู่แล้ว จึงชวนแม่ไปบูชา หลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์ ผลการยื่นกู้ซื้อบ้านก็ผ่านทั้งๆ ที่รอมานานและอุปสรรคเยอะมาก เธอจึงรู้สึกขอบคุณหมอดูท่านนี้

หลังจากนั้นเธอกับคุณแม่ไปงานเลี้ยงด้วยกัน เพื่อนแม่ก็พาหมอดูคนดังกล่าวมาด้วย ครั้งนี้มีการจัดโต๊ะเปิดไพ่ดูดวง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอหมอดู ซึ่งก็ทักเรื่องส่วนตัวแม่น และชวนไปดูดวงที่บ้านโดยให้เหตุผลว่าแม่นกว่า

วันที่ไปบ้านหมอดู คุณแม่ไปคนเดียว หมอดูทักว่าเทพเป็นคนมอบบ้านให้ ต้องมีการอ่านโองการ ปกติคิด 2 แสนบาท แต่ลดให้เหลือ 5 หมื่นบาท และยังให้จุดเทียนขาวเทียนดำสลับกันทุกคืน เพื่อเป็นการบอกลาเจ้าที่เก่าและขจัดมาร เทียนมา 14 เล่ม 1,000 บาท

ในวันอ่านโองการ หมอดูนัดให้ทุกคนแต่งชุดขาว ยกเว้นคุณแม่ต้องใส่ชุดส่าหรีสีแดง ปรากฏว่าวันนั้นคุณแม่เป็นประจำเดือน ทุกคนตกใจเพราะคุณแม่ประจำเดือนหมดไปหลายปีแล้ว และในระหว่างทำพิธี คุณแม่หัวเราะแปลกๆ แววตาและสีหน้าเปลี่ยน

หลังจบพิธีหมอดูได้ทักแม่ว่า “ของที่มีคนเคยทำใส่ หลุดแล้วนะ” ซึ่งเธอมารู้ภายหลังว่าสมัยแม่สาวๆ เคยมีคู่กรณีทำเสน่ห์ใส่ แม่พยายามไปวัดและหาพระหลายรูป แต่ทุกรูปพูดเหมือนกันว่าพอถึงเวลาของจะหลุดไปเอง สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอเชื่อในตัวหมอดูคนนี้มาก จึงอยากทำคลิปแนะนำให้คนอื่นรู้จัก

ช่วงที่ไปทำคลิปทัวร์บ้านหมอดู หมอดูได้แนะนำ ‘โถดูดวิญญาณ’ โดยอธิบายว่า ถ้าใครมีวิญญาณตาม โถนี้จะทำให้วิญญาณหลุด ปกติราคา 7 หมื่นบาท แต่เพราะเธอเป็นหลานรักและทำคลิปให้ เลยคิดแค่ 3 หมื่นบาท

เมื่อไได้รับโถดูดวิญญาณมา หมอดูให้นำโถไปฝังดินที่บ้าน และให้ตัดเล็บตัดผมของ 3 แม่ลูกใส่ลงในโถ เพื่อให้โถรู้ว่าจะต้องปกป้องแค่ 3 คนนี้ ซึ่งหลังจากฝังโถเธอก็รู้สึกเปลี่ยนไป อยากไปบ้านหมอดูมากขึ้น

ต่อมาหมอดูบอกว่ามีของดีจากมาเลเซียจะให้ นั่นคือ ‘หุ่นพยนต์’ ปกติราคา 5 หมื่นบาท แต่คิดแค่ 3 หมื่นบาท ระหว่างนั้นเธอก็รอ แต่ของก็ไม่มาสักที จึงโทรไปหาแล้วได้ยินหมอดูหลุดพูดมาว่า “เนี่ย… มันจะมาบ้านเราแล้ว มันแรงมาก” จากนั้นก็บอกให้เธอเข้ามารับหุ่นได้เลย

พอเห็นหุ่นพยนต์เธอก็รู้สึกตกใจเพราะสีดำมาก หมอดูแนะว่าให้พาหุ่นพยนต์ไปดูรอบบ้านและนำไปวางไว้ที่ห้องนอน ให้เรียกชื่อหุ่นว่า ‘น้องแตง’ เวลาไปไหนก็ให้พาไปด้วย ซึ่งหลังจากได้รับหุ่นมาเธอรู้สึกว่างานน้อยลงเลยไปหาหมอดู หมอดูบอกว่าเป็นเพราะเธอไม่ไหว้เจ้าที่ เธอเริ่มสับสนเพราะคิดว่าการอ่านโองการคือไหว้ แต่หมอดูบอกว่าไม่ใช่ และให้ไปไหว้จุดฝังโถดูดวิญญาณ

ตลอดเวลาที่รับโถดูดวิญญาณ หมอดูจะถามตลอดว่ามีใครฝันอยากกินอะไรแปลกๆ เช่น ของดิบไหม พร้อมบอกว่า เพื่อนแม่และคนอื่นๆ พูดไม่ดีใส่ ทำให้เธอรู้สึกว่ามีหมอดูเป็นที่พึ่งพาและรักหมอดูคนนี้มาก

จากนั้น หมอดูบอกว่าจะทำพิธีบวงสรวงให้สิ่งศักดิ์มาอยู่ด้วย ถ้าเป็นคนอื่นคิดเงิน 2 แสนบาท แต่เพราะเป็นหลานรักเลยฟรี ซึ่งก่อนหน้านี้หมอดูเคยทักว่ามีบรรพบุรุษเป็นครูมโนราห์ไหม (คุณทวดเคยเป็นครูสอนมโนราห์) อยากให้น้องสาวแต่งชุดมโนราห์ในพิธี และต้องใช้เศียรครูบาอาจารย์ 3 เศียร มีเศียรพระพิฆเนศ จากนั้นก็ไปเลือกดูเศียร์ต่างๆ ได้ปู่เวสสุวรรณ (ไว้กันผีในพิธีบวงสรวง) และมโนราห์ กลับมา

เมื่อมาถึงบ้านหมอดูก็เห็นพัสดุกล่องใหญ่มาส่ง ซึ่งหมอดูบอกว่าสั่งบ้านเรือนไทยมาให้เธอ หากในระหว่างทำพิธีมีผี ผีจะได้เข้าไปอยู่ในเรือนไทย

นอกจากนี้ยังมีช่วงหนึ่งที่บ้านหมอดูน้ำท่วม เธอเข้าไปช่วยวิดน้ำและขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า วันนี้มาช่วยผู้มีพระคุณ ขอให้เจอสิ่งที่ดี หลังจากนั้นเธอก็เจอเรื่องแปลก เห็นคราบต่างๆ ตรงผนัง ได้เห็นห้องเล็กๆ ที่มีพระพุทธรูปและองค์เทพตั้งอยู่บนพื้น และห้องน้ำ (ไม่มีประตู) อยู่ตรงข้ามกับห้องพระ

จนวันหนึ่ง ขณะที่เธออยู่บ้านหมอดู เจอลูกค้ามาดูดวงด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคุณปอย เธอผล็อยหลับไปทำให้ไม่ได้รับสายแม่ แม่จึงโทรเข้าเครื่องหมอดู หลังจากคุยเสร็จก็เห็นไลน์ในโทรศัพท์หมอดูเด้งขึ้นมาว่า “คนที่ดูดวงจะเรียกเท่าไหร่ก็เรียกเลยนะ เพราะว่าตอนนี้มันเชื่อเรามาก”

จนใกล้ถึงวันบวงสรวง ทั้ง 3 คนแม่ลูกก็ได้มานั่งพูดคุยกัน เธอต่อว่าน้องสาวว่าทำไมไม่เตรียมรำมโนราห์ แล้วก็โพล่งขึ้นมาว่า “เป็นลูกพระพิฆเนศ จะทำอะไรทำไมไม่ศึกษา ไม่ทำด้วยปัญญา” มาช่วยดึงสติ

คุณแม่ก็เริ่มอยากเคลียร์ใจกับเพื่อนว่าสิ่งที่หมอดูเคยพูดไว้เป็นจริงไหม คุณแม่จึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับเพื่อนอีกคน หลังจากนั้นก็มีการถามไถ่กันไปมา จนเพื่อนแม่รีบมาชี้แจงกับแม่ว่าไม่เคยทำแบบนั้นเลย พร้อมบอกว่าหมอดูเคยให้ร้ายครอบครัวเธอด้วย

เพื่อนแม่เล่าว่า ได้เจอกับพระอาจารย์ ท่านแนะนำว่าอย่าไปยุ่งกับหมอดูคนนี้ เพราะเลี้ยงผีไว้เยอะก็เลยทำนายแม่น ซึ่งระหว่างคุยอยู่นั้นเธอได้ขับรถไปบ้านหมอดูเพื่อสอบถามความจริง และได้เห็นองค์พระศิวะจึงได้อธิษฐานว่า “ขอให้ความจริงปรากฏ”

เพื่อนแม่รู้สึกผิดที่พาหมอดูมาให้รู้จัก เลยอยากแสดงความรับผิดชอบด้วยการเชิญพระอาจารย์มาเอาของออกให้ และบอกให้เธอวนรถกลับ ซึ่งทางฝั่งหมอดูได้โทรตาม เธอตัดสายทิ้งและอ้างว่าขอไปเคลียร์เรื่องครอบครัวก่อน หมอดูเลยทักไปหาทั้ง 3 คน ในเชิงตัดพ้อว่ามีอะไรทำไมไม่บอก

เมื่อกลับถึงบ้าน พระอาจารย์ให้ถ่ายรูปของมาให้ดู แล้วให้เอาของทั้งหมดไปไว้ที่ปู่เวสสุวรรณและสวดบทธรรมจักร พร้อมทั้งให้เอาเหรียญ 12 เหรียญตั้งไว้ ตั้งจิตอธิษฐานจิตบอกว่า “บ้านนี้ไม่มีใครเกี่ยวข้องกับคนชื่อ… (หมอดู)”

ในระหว่างที่ได้พูดคุยเคลียร์ใจกับผู้ใหญ่ทั้งหมด มีแมวโผล่มา เธอทักว่าแมวใครน่ารักจังแต่มีคนห้ามไว้ ซึ่งเธอจำได้ว่าแมวตัวนั้นคล้ายกับแมวที่หมอดูเลี้ยงแล้วเพิ่งตายไป

วันที่พระอาจารย์มาทำพิธีให้ ท่านยืนหน้าบ้านและบอกว่า “นี่มันบ้านพระพิฆเนศ มันจะเอา ยืนกันเต็มหน้าบ้าน แต่ท่านไม่ให้เข้า” จากนั้นพระอาจารย์ให้ถือขันธ์ 5 มาขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้าน โดยระหว่างที่สวด พระอาจารย์อ้าปากหาวเหมือนกำลังต้านอะไรสักอย่าง และให้เธอพาไปชี้จุดที่ฝังโถดูดวิญญาณ ขุดเอาโถนั้นออกไป ซึ่งพอเปิดโถออกมามีกลิ่นเหม็นมาก และมีของที่ทำใส่พวกเธอ

พระอาจารย์ได้สำรวจบ้าน แล้วบอกว่าทิศทางที่หมอดูให้วางสิ่งของต่างๆ เป็นทิศผีหมดเลย พร้อมอธิบายวัตถุประสงค์ที่ทำกับ 3 แม่ลูกไม่เหมือนกัน อนาคตจะให้เปลี่ยนชื่อบ้านเราเป็นบ้านหมอดู และในงานปาร์ตี้ก็เหมือนหมอดูจะเล็งแม่ไว้แล้ว

ก่อนกลับพระอาจารย์ได้เตือนว่า จะมีใครคนหนึ่งฝันถึงหมอดูมาขอเข้าบ้าน พระอาจารย์จะทำพิธีให้ ดังนั้นอย่าอนุญาตให้เข้าบ้านเด็ดขาด ถ้าให้เข้าพิธีจะเป็นโมฆะทันที พวกเธอจึงแก้เคล็ดด้วยการไปนอนบ้านเพื่อนแม่และตั้งใจจะไม่หลับเด็ดขาด แต่เพราะเหนื่อยมาทั้งวันจึงผล็อยหลับไป ในฝันมีเสียงถามว่า “เอาไหมจ๊ะ น้ามีของจะให้ เอาไหมจ๊ะ” แต่เธอปฏิเสธไป พอตื่นขึ้นมาก็มีเสียงพูดขึ้นมาว่า “แล้วอันนี้ล่ะเอาไหม น้ามีของดีจะให้” ลักษณะเหมือนฝันซ้อนฝันทั้งคืน แต่เธอตัดใจพูดว่า “กูไม่เอา” แล้วก็เช้าพอดี

ต่อมาเธอได้คุยกับพระอาจารย์ ท่านบอกว่าสาเหตุที่ฝันแบบนี้เพราะพระพิฆเนศมาสอน หลังจากนั้นเธอก็จบเรื่องนี้และบูชาพระพิฆเนศมาองค์หนึ่ง พร้อมทั้งลบคลิปต่างๆ ออก บล็อกหมอดูคนดังกล่าวด้วย