กลายเป็นประเด็นดรามาร้อน หลังมีการออกมาเปิดเผยเรื่องราวเป็นปริศนาในโลกออนไลน์ กรณี “ดาราสาว ฮุบบริษัท” โดยมีข้อมูลระบุว่า เป็นเรื่องราวความขัดแย้งเรื่องการบริหาร และการถือหุ้นในบริษัทเครื่องสำอางที่ ดาราสาว กับ หุ้นส่วน ร่วมกันก่อตั้ง ต่อมามีการเปลี่ยนข้อตกลงภายในบริษัท จนกลายเป็นดรามาว่า อาจจเข้าข่ายการ “ฮุบบริษัท” และมีการประเมินความเสียหายที่เกี่ยวข้องในมูลค่าหลายร้อยล้านบาท
สังคมเริ่มค้นหาคำตอบ จนมีการระบุตัวบุคคลที่ถูกกล่าวหา ว่าดาราที่ว่าก็คือ “ออม สุชาร์” นักแสดงและหนึ่งในหุ้นส่วนของแบรนด์เครื่องสำอาง และถูกนำมาเชื่อมโยงกับข้อกล่าวหาดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 ออม สุชาร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ยืนยันว่า คดีความยังอยู่ในชั้นศาล อีกฝ่ายยังคงถือหุ้นในบริษัท และขอให้สังคมใช้วิจารณญาณไม่ตัดสินใจจากกระแสข่าวเพียงอย่างเดียว ส่วนรายละเอียดและหลักฐานทั้งหมดถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วและอยู่ในชั้นศาล จึงยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดได้ ณ ขณะนี้
ออมยังมีการเผยแพร่ข้อความจากคนใกล้ชิดผ่านช่องทางโซเชียลซึ่งถูกแชร์ต่อกันเป็นวงกว้าง โดยข้อความดังกล่าวระบุเนื้อหาว่า:
"เรื่องการโกงหรือการฮุบกิจการบริษัทอะไรก็แล้วแต่มันเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากจริงๆ คือ หาเหตุผลไม่เจอว่าจะทําแบบนั้นไปเพื่ออะไร โกงตรงไหนในเมื่อยังมีหุ้นอยู่ในบริษัท ลงเงินเท่ากัน และริเริ่มมาพร้อมๆ กัน เท่าที่เห็นทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเองในบริษัท ออม ก็ทําหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด ทําคอนเทนต์โปรโมทเป็นหลายร้อยคอนเทนต์ นั่งไลฟ์ขายของตลอดเกือบทุกวัน ทุกแคมเปญนับครั้งไม่ถ้วน มีส่วนร่วมทุกอย่าง"
นอกจากนี้ ออมยังโพสต์ตอบโต้ด้วยตัวเองในไอจีสตอรี่โดยระบุว่า:
"ทําแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะคะ ในชีวิตนี้เกิดมาไม่เคยโกงใคร ไม่เคยเอาเปรียบใครและไม่เคยมีเรื่องกับใคร"
ด้านคู่กรณีของเรื่องนี้คือ หุ้นส่วนที่ร่วมตั้งกิจการกับออม ก็มีการเคลื่อนไหวตอบโต้ในช่องทางโซเชียลเช่นกัน โดยหุ้นส่วนได้โพสต์ภาพสำเนาคำฟ้องและใส่ข้อความสั้น ๆ ว่า "Truth" พร้อมรีโพสต์แถลงการณ์จากแบรนด์ และเขียนข้อความเพิ่มเติมว่า: "เข้าถึงโซเชียลแบรนด์ตัวเองยังไม่ได้เลย #ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"
โดยในฝั่งบริษัท แบรนด์เครื่องสำอาง ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการชี้แจงต่อผู้บริโภคและสาธารณะในวันที่ 17 กันยายน 2568 โดยเนื้อหาแถลงการณ์มีใจความชัดเจนว่า
บริษัทอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารภายใน และรับทราบความกังวลจากลูกค้าที่สอบถามเข้ามา บริษัทยืนยันว่าจะไม่เพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงที่อาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนหรือกระทบความเชื่อมั่น และเรียนให้ทราบว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งนี้ บริษัทยืนยันการบริหารงานด้วยความโปร่งใสและมีความรับผิดชอบ พร้อมดำเนินการหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
จากการเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่ายและการแถลงของบริษัท ทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งครั้งนี้มีทั้งคำชี้แจงจากตัวบุคคล คำยืนยันจากคนใกล้ชิด รวมถึงการออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง โดยทั้งออม สุชาร์ และหุ้นส่วน ต่างยืนยันจุดยืนของตนเอง