ถือว่าพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสสุด ๆ สำหรับ ‘เจนนี่ รัชนก หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ เพราะหลังมีประเด็นดรามากับ ‘แม่เกตุ’ ปมหนี้สินของแม่ เจนนี่ก็หันมาไลฟ์ ปักตะกร้าขายของ ทั้งยอดซื้อยอดคนดูพุ่งสูงปรี๊ด จนแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่วิ่งเข้าหา ไม่เว้นแม้กระทั่งดาราที่ตบเท้าจองคิวร่วมไลฟ์ขายด้วย จนกลายเป็นปรากฏการณ์ เจนนี่ ขายหมดถ้าสดชื่น หรือ เทศกาลเจนนี่
แต่ล่าสุด เจ้าตัวเดือดเล็กน้อย เมื่อมีเจ้าหนี้ของแม่เกตุรายหนึ่งติดต่อเข้ามากลางไลฟ์ ทวงเงินกับเจนนี่ ซึ่งอาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้เจนนี้ได้พูดในรายการโหนกระแสว่า จะใช้หนี้ก้อนสุดท้ายให้แม่ 3 ล้านบาท
เจนนี่พยายามสอบถามว่าหนี้ดังกล่าวคือหนี้อะไร ใช่หมวกกันน็อก (เงินกู้นอกระบบ) หรือไม่ ดอกเบี้ยร้อยละ 20 หรือเปล่า ตอนแรกแม่ยืมหมวกกันน็อก แล้วก็นำรถเบนซ์ไปไว้ถูกหรือไม่ แม่เอารถเบนซ์ไปตั้งไว้เพราะอะไร
“พี่พูดเลยค่ะ คนดูอยู่ 200,000 กว่าคน พี่พูดมาเลย คือเขาเอาไปตั้งเพราะว่ามันเป็นยอดหมวกกันน็อก ถูกมั้ยพี่ ตอนแรกเขาไปยืมเงินพี่ หนูเห็นแล้วเพราะมันมีรูปโพสต์ แล้วไม่มีเงินจ่าย ถูกไหม” เจนนี่ถาม
ระหว่างนั้น ‘ยิว’ สามีของเจนนี่ได้หันไปพูดกับ ‘บูม หมูทะ’ เบา ๆ ว่า “ไอ้โม่งทวงกลางไลฟ์… อีกแล้ว” ก่อนจะส่ายหน้าและลุกออกไปทันที
เจนนี่ได้ย้ำกับทางเจ้าหนี้ว่า รู้ว่าเอารถไปไว้ แต่ต้องถามว่าที่เอารถไปไว้เนี่ย เพราะตอนแรกแม่ไปยืมเงิน ถูกไหม คุยความจริงมาเลย และบอกด้วยว่าตนเคยโทรไปเจรจา ซึ่งตอนนั้นทางเจ้าหนี้ไม่รับข้อเสนอใช่หรือเปล่า แล้วตอนนี้ติดต่อกลับมาเพราะอะไร เพราตนพูดในรายการจะจ่ายแม่ ไม่ได้จ่ายโดยตรงกับเจ้าหนี้ เพราะตนไม่อยากเป็นคนรับเรื่อง แต่ตอนนี้แม่ยังไม่รับเงิน ยังไม่ได้คุยกัน
จากนั้น เมื่อทางเจ้าหนี้พูดบางอย่าง เจนนี่ก็ถึงกับอารมณ์ขึ้น บอกว่า “นี่ น้องอย่ามาบังคับพี่ น้องฟังก่อน พี่จะช่วยหรือไม่ช่วยให้พี่เป็นคนพิจารณา พี่พูดไปแล้วว่า ถ้าแม่พี่รับเงิน ก็ให้แกไปบริหารเอาเอง แล้วตอนนั้นบอกว่ารถไปแล้ว ตกลงรถยังอยู่เหรอ เพราะตอนนั้นที่พี่จะช่วย บอกว่าหมดเวลาแล้ว ไม่มีแล้ว ขายไปแล้ว ก็คือไม่จริง ก็คือรถยังอยู่”
สุดท้าย ทางเจนนี่ได้บอกกับเข้าหนี้ไปว่า ขอเคลียร์กันก่อน ให้ตนได้คุยกับแม่ก่อน ถ้าแม่ยอมคุยกับตน ตนก็จ่ายหนี้ให้
หลังจากวางสาย เจนนี่ได้บ่นว่า ไม่ชอบ ถ้าใครมาบอกว่าต้องจ่ายให้